เอเอฟพี/เอเจนซีส์/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ - กลุ่มทหารรัฐประหารไนเจอร์อ้างวันจันทร์ (31 ก.ค.) ว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโมฮัมหมัด บาซูม ไฟเขียวให้ฝรั่งเศสลงมือโจมตีปล่อยตัวผู้นำไนเจอร์ให้เป็นอิสระ เกิดขึ้นหลังฝูงชนไนเจอร์รวมตัวบุกสถานทูตฝรั่งเศสในประเทศ เผาธงชาติแดนน้ำหอมแสดงความไม่พอใจ ระหว่างบางส่วนโบกธงชาติรัสเซียประกาศสนับสนุนประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน กลางกรุงนีอาเม วันอาทิตย์ (30 ก.ค.)
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (31 ก.ค.) ว่า พ.อ.อมาดู อับดรามาเน (Amadou Abdramane) อ้างว่า ฝรั่งเศสกำลังวางแผนเพื่อเข้ามาแทรกแซงไนเจอร์
“ในการค้นหาหนทางและวิธีเพื่อการเข้าแทรกแซงทางการทหารในไนเจอร์ ซึ่งฝรั่งเศสสมคบคิดกับชาวไนเจอร์บางคนประชุมหารือกับหัวหน้าคณะเนชันแนลการ์ดไนเจอร์เพื่อรับการอนุมัติทางการเมืองและการทหาร”
นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยต่อว่า มีผู้บาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจำนวน 6 คน เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานทูตฝรั่งเศสยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชนกลุ่มผู้ประท้วง
คณะรัฐประหารไนเจอร์ได้ออกมาอ้างว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโมฮัมหมัด บาซูม แอบไฟเขียวให้ฝรั่งเศสลงมือโจมตีปล่อยตัวผู้นำไนเจอร์ให้เป็นอิสระ
เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกงรายงานว่า อย่างไรก็ตามมีรายงานการพบเห็นประธานาธิบดีบาซูมอยู่ในประเทศชาด
ในคำแถลงทางโทรทัศน์ อับดรามาเน กล่าวว่า การอนุมัติลงนามโดยรัฐมนตรีต่างประเทศไนเจอร์ ฮัสซูมี มัสซูดู (Hassoumi Massoudou) ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีไนเจอร์
ด้านฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ตอบโต้ในวันจันทร์ (31) ผ่านทางกระทรวงต่างประเทศของตัวเองยืนยันว่า ผู้นำที่ชอบธรรมที่ถูกรับรองอย่างเป็นทางการมีเพียงประธานาธิบดี โมฮัมหมัด บาซูม เท่านั้น หลังถูกถามถึงแผนการบุกโจมตีไนเจอร์เพื่อช่วยบาซูมออกมา
กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวผ่านแถลงการณ์ตามการรายงานของรอยเตอร์ว่า “ภาระหน้าที่แรกของเราคือความปลอดภัยพลเมืองของพวกเราและทรัพย์สินของพวกเราซึ่งไม่สามารถตกเป็นเป้าความรุนแรงได้เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ”
หนังสือพิมพ์ฮ่องกงชี้ว่า ทั้งนี้กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธต่อคำอ้างการได้ไฟเขียวเพื่อโจมตีนี้
รอยเตอร์รายงานว่า นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสยังออกมาปฏิเสธในวันจันทร์ (31) ยืนยันว่า ไม่ได้ใช้หนทางที่เป็นอันตรายต่อชีวิตในการต่อต้านกลุ่มผู้ประท้วงไนเจอร์ในวันอาทิตย์ (30) ซึ่งพยามบุกสถานทูตแดนน้ำหอมในกรุงนีอาเม
“สถานทูตของฝรั่งเศสในกรุงนีอาเมถูกโจมตีอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ด้วยกลุ่มที่เตรียมการล่วงหน้า ขณะที่กองกำลังความมั่นคงไนเจอร์ไม่ได้ทำให้อยู่ภายใต้การควบคุม” รายงานจากแถลงการณ์
และในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “ขัดแย้งต่อในสิ่งที่เจ้าหน้าที่กองทัพไนเจอร์บางคนกล่าวอ้าง ทั้งนี้ไม่มีการใช้วิธีที่เป็นอันตรายต่อชีวิตถูกใช้โดยเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยฝรั่งเศส”
NBC News ของสหรัฐฯ รายงานว่า ฝูงชนไนเจอร์สนับสนุนการทำรัฐประหารเพื่อโค่นล้มรัฐบาลชุดเก่าจำนวนมากรวมตัวกลางเมืองหลวงไนเจอร์วานนี้ (30) พบมีการโบกธงชาติรัสเซียอย่างคึกคัก
กลุ่มผู้ประท้วงในกรุงนีอาเมที่มีเป็นจำนวนมากโบกธงชาติรัสเซีย ได้ทุบทำลายหน้าต่างของสถานทูตฝรั่งเศสก่อนที่จะจุดไฟเผาประตูด้านนอกแต่ไม่ได้ผ่านกำแพงสถานทูตเข้าไป
รัสเซียซึ่งเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในทวีปแอฟริกา พร้อมกับส่งทหารรับจ้างรัสเซีย กลุ่มวากเนอร์เข้ามา เยฟเกนี ปรีโกจีน ออกมาแสดงความยินดีต่อการทำรัฐประหารไนเจอร์พร้อมกล่าวเชิญชวนว่า ทหารรับจ้างวากเนอร์ยินดีรับใช้ ขณะที่เครมลินออกแถลงการณ์ว่า สถานการณ์ในไนเจอร์นั้นน่าวิตกเป็นอย่างมาก
สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ฝรั่งเศสมีกองกำลังภายในภูมิภาคมานานร่วมสิบปีเพื่อช่วยเหลือต่อต้านกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ แต่ทว่าคนในพื้นที่บางส่วนกล่าวว่า พวกเขาต้องการให้ “ฝรั่งเศส” ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมให้หยุดเข้ามาแทรกแซงในกิจการภายใน
ตามการรายงานบรรดากลุ่มผู้สนับสนุนการทำรัฐประหารได้เผาธงชาติฝรั่งเศส และบุกสถานทูตในกรุง ขณะที่คณะรัฐประหารไนเจอร์ได้กล่าวหาฝรั่งเศสยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงผ่านทางแถลงการณ์ ส่งผลทำให้มีผู้บาดเจ็บ 6 คน
NBC News รายงานว่า ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ไม่พอใจอย่างหนักพร้อมแถลงว่า การโจมตีใดๆ ต่อผลประโยชน์แดนน้ำหอมในไนเจอร์จะต้องพบกับการตอบโต้ที่ไม่สามารถประนีประนอมและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
