xs
xsm
sm
md
lg

วอลล์สตรีทเจอร์นัลชี้ “เม็ดเงินหยวน” หนีจากโลกตะวันตก หลังปักกิ่ง-วอชิงตันตึงเครียดหนัก หันไปทุ่มลงทุนที่อื่น “อินโดฯ” ได้อานิสงส์ "แร่นิกเกิล" รับไปเต็มๆ ส่วน “ไทย” รับทรัพย์ลงทุนจากค่ายรถยนต์จีนชื่อดัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ยุคความรุ่งโรจน์ได้จบลงแล้วหลังเม็ดเงินลงทุนจากจีนแห่หนีออกไปจากโลกตะวันตกท่ามกลางความตึงเครียดอย่างหนักระหว่างปักกิ่ง-วอชิงตัน บริษัทจีนต่างหันไปทุ่มการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่มีแร่นิกเกิลที่สำคัญในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้ไปถึง 17% ของทั้งหมดรวมถึงในตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้ด้วยความหวังจากปักกิ่งต้องการผนึกความเป็นพันธมิตรและเข้าถึงทรัพยากรสำคัญ ส่วนไทยรับทรัพย์จากผู้ผลิตรถยนต์ค่ายจีนชื่อดัง Great Wall Motor และ BYD

วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานวันอาทิตย์ (23 ก.ค.) ว่า จากสภาพสถานการณ์ด้านการเมืองเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างปักกิ่งและตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯ มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะมีข่าวว่าวอชิงตันออกคำเตือนพลเมืองอเมริกันสมควรหลีกเลี่ยงเดินทางไปจีน ขณะที่แคนาดาที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับจีนวางแผนจะให้กรีนการ์ดกับพลเมืองฮ่องกงที่ปัจจุบันอาศัยในแคนาดาและมีประสบการณ์ในการทำงานในแคนาดาโดยที่จะยกเว้นข้อกำหนดทางการศึกษา อ้างอิงจากโกลบอลนิวส์ของแคนาดาเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนหน้า

อ้างอิงจากบริษัทวิจัยโรเดียม กรุ๊ป (Rhodium Group) บริษัทวิจัยที่มีฐานอยู่ในนิวยอร์ก สหรัฐฯ และสถาบันเมอร์คาเตอร์ด้านจีนศึกษา (Mercator Institute) ธิงแธงก์ชื่อดังที่มีฐานอยู่ในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี พบว่าการลงทุนต่างประเทศโดยตรงของจีนในยุโรปแตะยอดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 10 ปีอยู่ที่ 8.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022

นอกจากนี้ CNN ของสหรัฐฯ เคยรายงานเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลเยอรมนีเปิดนโยบายใหม่หันไปลดการพึ่งพาจีนในด้านเซกเตอร์สำคัญ เป็นต้นว่า ยา แบตเตอรี่ลิเธียมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตชิป โดยอ้างเหตุผลว่า "จีนเปลี่ยนไป" ซึ่งปักกิ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของเยอรมนี และมียอดการค้าขายนำเข้าและส่งออกระหว่างกันประจำปี 2022 ที่ 335 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงตัวเลขจากรัฐบาลเบอร์ลิน

ส่งผลทำให้บรรดาบริษัทจีนเพิ่มมากขึ้นหันไปหาแหล่งใหม่แทน โดยมีรายงานว่ามีจำนวนบริษัทจีนเพิ่มมากขึ้นหันไปทุ่มเม็ดเงินในโรงงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอุตสาหกรรมเหมืองแร่และโปรเจกต์พลังงานในเอเชีย รวมไปถึงที่ตะวันออกกลางและทวีปอเมริกาใต้

วอลล์สตรีทเจอร์นัลชี้ว่า “อินโดนีเซีย” เป็นประเทศที่ได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ จากการลงทุนเม็ดเงินจีนเพราะเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยแร่ยุทธศาสตร์คือ แร่นิกเกิลสำคัญสำหรับการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่แม้กระทั่ง อีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทเทสลายังให้ความสนใจแก่แดนอิเหนา

ซึ่งในครึ่งแรกของปีนี้ การลงทุนต่างประเทศโดยบริษัทจีนรวมกันที่ 29.5 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงจากสถาบันอเมริกันเอนเตอร์ไพรซ์ (American Enterprise Institute) ในการคาดการณ์เบื้องต้น

วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า อินโดนีเซียคาดว่าจะได้รับ 17% ของทั้งหมดแต่ยังไม่เป็นตัวเลขแน่นอนที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังหากมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น

สื่อธุรกิจชื่อดังชี้ว่า การเปลี่ยนทิศทางการลงทุนแสดงให้เห็นว่าจีนกำลังตอบโต้ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่างปักกิ่งและโลกตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งในความสัมพันธ์การลงทุนและการค้ากับส่วนอื่นๆ ของโลก

การไหลออกจากทุนจีนจากโลกตะวันตกนั้นนำมาสู่การสร้างงานที่น้อยลงในบางประเทศแต่อาจมีข้อดีที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในตะวันตกแต่เดิมที่สูงลิ่วจากการมีการเก็งกำไรนั้นดูผ่อนคลายลง

การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศจากจีนไปยังทั่วโลกตกไป 18% จากปีก่อนหน้า ซึ่งถึงแม้ปักกิ่งจะผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ที่เข้มงวดในปีที่ผ่านมา วอลล์สตรีทเจอร์นัลชี้ว่าแต่ไม่คาดว่า จีนจะกลับไปสู่ยุคทองของการทำดีลต่างแดนอย่างโชติช่วงจากส่วนใหญ่เป็นเพราะความตึงเครียดกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่มีการปิดกั้นการลงทุนจากจีนมากขึ้นโดยใช้เหตุผลด้านความมั่นคงประเทศเป็นเหตุผลหลัก

ขณะที่ภายในปักกิ่งจากการที่ค่าสกุลเงินอ่อนตัวลง ความยากลำบากของภาคเอกชน และการให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจภายในจีนเองสะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพาตัวเองของจีน

เชื่อว่าปักกิ่งน่าจะปักหมุดการลงทุนเพื่อครองความเป็นผู้นำตลาดในเซกเตอร์ต่างๆ เป็นต้นว่า พลังงานหมุนเวียน และอุตสากรรมรถยนต์ไฟฟ้า และเป็นที่คาดว่าปักกิ่งน่าจะเพิ่มการลงทุนในตลาดเกิดใหม่จากตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงตะวันออกกลางและทวีปแอฟริกาจากการที่เจ้าของโรงงานจีนต้องการหาที่ใหม่ในการขยายกิจการและหาลูกค้าใหม่ โดยปักกิ่งมีเป้าหมายในตลาดที่ร่ำรวยทางทรัพยากร

ทั้งนี้ พบว่าบริษัทจีนและการลงทุนจากภาครัฐรวมกันอยู่ที่ 24.5 พันล้านดอลลาร์ในเอเชีย อเมริกาใต้ และตะวันออกกลางเมื่อปี 2022 อ้างอิงจากฐานข้อมูลของสถาบันอเมริกัน เอนเตอร์ไพรซ์ (American Enterprise Institute)

เป็นการเพิ่ม 13% จากปี 2021 ซึ่งข้อตกลงรวม 1.9 พันล้านดอลลาร์ในการลงทุนโดย Cnooc บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลปักกิ่งในบราซิลและการลงทุนโดยผู้ผลิตรถยนต์จีน Great Wall Motor และ BYD ในไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น