ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนออกมาเรียกร้องวานนี้ (24 ก.ค.) ให้สหภาพยุโรป (อียู) รับรองว่าคำสั่งแบนนำเข้าธัญพืชยูเครนโดย 5 ชาติยุโรปตะวันออกจะถูกยกเลิกภายในกำหนดเส้นตาย 15 ก.ย. พร้อมย้ำว่านโยบายดังกล่าวเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้” และ “ไม่สมกับความเป็นยุโรป”
บัลแกเรีย ฮังการี โปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวะเกีย ต้องการให้อียูยอมขยายคำสั่งแบนนำเข้าต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปีนี้
ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อค่ำวันจันทร์ (24) เซเลนสกี ระบุว่า ข้อจำกัดในการนำเข้าธัญพืชยูเครนไม่ควรถูกต่อเวลาออกไปอีกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม
“เราเชื่อว่าทางยุโรปคงจะปฏิบัติตามพันธสัญญาว่าด้วยกำหนดเส้นตายที่ข้อจำกัดชั่วคราวเหล่านี้จะต้องถูกยกเลิก” ผู้นำยูเครนกล่าว
“การขยายข้อจำกัดต่อไปเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และไม่สมกับความเป็นยุโรปโดยสิ้นเชิง ยุโรปมีศักยภาพที่จะทำในสิ่งที่สมเหตุสมผลมากกว่าการปิดพรมแดนด้านนั้นด้านนี้ หรือห้ามนำเข้าสินค้าประเภทนั้นประเภทนี้”
เซเลนสกี ย้ำด้วยว่า ยูเครน “กำลังทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อแสวงหาทางออกที่สอดคล้องกับสปิริตความเป็นยุโรป”
เมื่อเดือน พ.ค. สหภาพยุโรปอนุญาตให้ 5 ชาติยุโรปตะวันออกซึ่งได้แก่ บัลแกเรีย ฮังการี โปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวะเกีย แบนการจำหน่ายข้าวสาลี ข้าวโพด และเมล็ดทานตะวันที่นำเข้าจากยูเครน ทว่ายังคงอนุญาตให้ธัญพืชจากยูเครนถูกขนส่งผ่านดินแดนของทั้ง 5 ชาติเพื่อส่งต่อไปจำหน่ายประเทศอื่นๆ ได้
แม้บางประเทศในกลุ่มนี้ เช่น โปแลนด์ จะเป็นชาติที่ให้การสนับสนุนยูเครนอย่างเข้มแข็งในสงครามต่อต้านรัสเซีย แต่พวกเขามองว่าการปล่อยให้ธัญพืชราคาถูกจากยูเครนไหลเข้าสู่ตลาดในประเทศจะส่งผลเสียร้ายแรงต่อภาคการเกษตรของตน
นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ประเทศของเขาจะไม่ยกเลิกคำสั่งแบนธัญพืชยูเครนในวันที่ 15 ก.ย.นี้อย่างแน่นอน แม้ว่าอียูจะไม่เห็นชอบด้วยก็ตามที
ที่มา : รอยเตอร์