ดูเหมือนจะมีเพนกวินราว 2,000 ตัว เกยตื้นบนชายฝั่งทางตะวันอกของอุรุกวัยในช่วง 10 วันหลังสุด อย่างไรก็ตาม ต้นตอของเหตุการณ์ครั้งนี้ยังคงปริศนาและไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการระบาดของไข้หวัดนกแต่อย่างใด จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่
เพนกวินมาเจลลันเหล่านี้ ส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยเยาว์ ตายในมหาสมุทรแอตแลนติก และถูกกระแสคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นชายฝั่งต่างๆ ของอุรุกวัย จากการเปิดเผยของคาร์เมน เลซาโกเยน หัวหน้าแผนกสัตว์ท้องถิ่นของกระทรวงสิ่งแวดล้อมอุรุกวัยระบุ
"มันเป็นการตายที่เกิดขึ้นในน้ำ 99% ยังอยู่ในวัยเยาว์ และถูกซัดมาเกยตื้นในสภาพที่ไม่มีไขมันสำรองและกระเพาะว่างเปล่า" เธอกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่า ทุกตัวอย่างที่เก็บมามีผลตรวจเชื้อไข้หวัดนกออกมาเป็นลบ
เพนกวินมาเจลลัน รวมกลุ่มกันอยู่ในทางภาคใต้ของอาร์เจนตินา แต่ในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกใต้ พวกมันจะอพยพขึ้นไปทางเหนือเพื่อหาอาหารและสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่า โดยบางทีถึงขั้นขึ้นไปถึงชายฝั่งรัฐเอชปีรีตูซังตู ของบราซิลเลยทีเดียว
"พบการตายอยู่บ้างถือเป็นปกติ แต่ไม่ใช่ในจำนวนมากเท่านี้" เลซาโกเยน กล่าว พร้อมเล่าว่าเคยเกิดเหตุการตายคล้ายกันนี้เมื่อปีที่แล้วในบราซิล และไม่สามารถสรุปสาเหตุได้
เฮคเตอร์ เคย์มาริส ผู้อำนวยการเขตอนุรักษ์ลากูนา เดอ โรชา ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า แค่ระยะทาง 10 กิโลเมตร ตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอนแลนติก เขาพบร่างไร้วิญญาณของเพนกวินมากกว่า 500 ตัว
พวกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชี้ว่าปัจจัยที่สนับสนุนการตายเพิ่มมากขึ้นของเพนกวินมาเจลลัน คือการประมงเกินขีดจำกัดและการทำประมงผิดกฎหมาย "ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 และ 2000 เริ่มเห็นสัตว์เหล่านี้ขาดแคลนอาหาร มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรมากเกินไป" รีชาร์ด เทโซเร จากกลุ่มเอ็นจีโอ ช่วยเหลือชีวิตสัตว์ทะเล SOS ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
นอกจากนี้ เขากล่าวต่อว่าพายุโซโคลนลูกหนึ่งในแอตแลนติก ซึ่งเล่นงานทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิลในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม บางทีอาจทำให้บรรดาสัตว์ที่อ่อนแอที่สุดเสียชีวิตจากสภาพอากาศเลวร้าย
นอกเหนือจากเพนกวินแล้ว เทโซเร เผยว่าเมื่อเร็วๆ นี้เขาเพิ่งพบนกนางแอ่น นกอัลบาทรอส นกนางนวล เต่าทะเล และสิงโตทะเลตายบนชายหาดมัลโดนาโด ทางตะวันออกของกรุงมอนเตวิเดโอด้วย
(ที่มา : เอเอฟพี)