xs
xsm
sm
md
lg

G7-อียูเรียกร้อง ‘ปักกิ่ง’ สกัดเกาหลีเหนือใช้น่านน้ำจีนลักลอบขนน้ำมันเถื่อน-ฝืนมติคว่ำบาตร UN

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ร่วมกับสหภาพยุโรป (อียู) และอีก 3 ประเทศ เตรียมยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลจีนสกัดกั้นไม่ให้เกาหลีเหนือใช้น่านน้ำจีนลักลอบขนน้ำมัน ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนมติคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ

เนื้อความในจดหมายที่จะถูกส่งถึง จาง จวิน (Zhang Jun) เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ ระบุว่า “เรามีความกังวลเกี่ยวกับเรือบรรทุกน้ำมันซึ่งใช้น่านน้ำของจีนบริเวณอ่าวซานชา (Sansha Bay) เป็นช่องทางในการค้าขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้าม”

จดหมายซึ่งผ่านการลงนามโดยกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น และอังกฤษ บวกกับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป ยังมีการนำเสนอภาพถ่ายดาวเทียม “ซึ่งเป็นหลักฐานชี้ชัดว่ามีการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นภายในเขตอำนาจศาลของจีนตั้งแต่ปี 2022 เรื่อยมาจนถึงปี 2023”

สหประชาชาติได้ออกมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพื่อสกัดกั้นกิจกรรมด้านขีปนาวุธและนิวเคลียร์มาตั้งแต่ปี 2006 และยังได้เริ่มจำกัดปริมาณปิโตรเลียมกลั่นและน้ำมันดิบที่เกาหลีเหนือสามารถนำเข้าได้ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา

ผู้สังเกตการณ์ยูเอ็นพบว่า เกาหลีเหนือมีความพยายามที่จะหลบเลี่ยงบทลงโทษเหล่านี้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่น รวมถึงลักลอบส่งออกถ่านหิน

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ประกาศขึ้นบัญชีดำเรือสินค้าจำนวนมากที่ขนส่งสินค้าต้องห้ามให้เกาหลีเหนือ ขณะที่จดหมายซึ่งกลุ่ม G7 และพันธมิตรยื่นต่อจีนก็จะมีการแนบภาพถ่ายดาวเทียมเป็นหลักฐานว่าเรือบางลำเข้าไปใช้น่านน้ำจีนด้วย

“เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลจีนใช้ความพยายามมากกว่านี้ในการระบุตัวตน และป้องกันมิให้เรือเหล่านี้เข้าไปทอดสมอ หรือล่องลอยเตร็ดเตร่อยู่ในน่านน้ำอาณาเขตของจีน” เนื้อความจดหมายระบุ

รัฐบาลจีนยืนยันเรื่อยมาว่าได้ปฏิบัติตามมติคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นทุกประการ และจนถึงขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจดหมายของกลุ่ม G7 จะถูกส่งถึงมือเอกอัครราชทูต จาง เมื่อใด

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นยังมีความเห็นไม่ลงรอยกันว่าควรจะจัดการกับเกาหลีเหนืออย่างไร โดยรัสเซียและจีนซึ่งเป็นสมาชิกถาวรเช่นเดียวกับสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส มักใช้สิทธิ “วีโต” ขัดขวางบทลงโทษเกาหลีเหนือ โดยอ้างว่าการแซงก์ชันนั้นไม่ได้ช่วยอะไร แต่ควรจะผ่อนคลายคว่ำบาตรเพื่อดึงเปียงยางกลับสู่โต๊ะเจรจาดีกว่า

ที่มา : รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น