xs
xsm
sm
md
lg

ให้เกียรติอย่างยิ่ง! ‘สี จิ้นผิง’ พบ ‘เฮนรี คิสซินเจอร์’ ด้าน ‘หวัง อี้’ ยกย่องเป็นปราชญ์การทูตที่สหรัฐฯ ควรมี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เฮนรี คิสซินเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศคนสำคัญของสหรัฐฯ เดินทางเข้าพบประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนในวันนี้ (20 ก.ค.) ในขณะที่ หวัง อี้ นักการทูตอาวุโสของปักกิ่ง ย้ำว่านโยบายการทูตอันชาญฉลาดในแบบของ คิสซินเจอร์ คือสิ่งที่สหรัฐฯ ควรต้องมี

คิสซินเจอร์ วัย 100 ปี ได้เข้าพบผู้นำสูงสุดของจีนที่เรือนรับรองเตี้ยวอี๋ว์ไถในกรุงปักกิ่ง ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ CCTV

ก่อนหน้านั้น เขาได้มีโอกาสพบปะหารือกับ หวัง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมไปถึง พล.อ.หลี่ ช่างฝู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของจีนที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2018 ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้ออาวุธจากรัสเซีย

การได้เข้าพบ สี จิ้นผิง ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องบ่งชี้ว่า รัฐบาลจีนยกย่องให้เกียรติอดีตนักการทูตอาวุโสของอเมริกาผู้นี้มากเพียงใด

คิสซินเจอร์ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในสมัยของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน และประธานาธิบดี เจอรัลด์ ฟอร์ด และเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตสหรัฐฯ และจีนให้กลับสู่ระดับปกติในช่วงทศวรรษ 1970

วอชิงตันระบุว่า “รับทราบ” เรื่องการไปเยือนจีนของ คิสซินเจอร์ ในสัปดาห์นี้ แต่ยืนยันว่าเขาไปในฐานะ “พลเรือน” และไม่ถือเป็นตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ แต่อย่างใด

หวัง ซึ่งเพิ่งพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว เอ่ยถึง คิสซินเจอร์ ว่าเป็น “เพื่อนเก่า” และยกย่องรัฐบุรุษผู้นี้ว่ามีบทบาท “อันไม่สามารถทดแทนได้” ในการส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

“นโยบายที่สหรัฐฯ มีต่อจีนจำเป็นจะต้องอาศัยความชาญฉลาดทางการทูตในแบบของ คิสซินเจอร์ และความกล้าหาญทางการเมืองในแบบของนิกสัน” กระทรวงการต่างประเทศจีนอ้างคำพูดของ หวัง อี้ ที่กล่าวต่อ คิสซินเจอร์ ขณะประชุมหารือร่วมกันเมื่อวานนี้ (19)

หวัง ยังบอกกับ คิสซินเจอร์ ด้วยว่า การพยายามที่จะปฏิรูปจีน “เป็นไปไม่ได้” และการจะปิดล้อมหรือควบคุมจีนนั้นก็ “ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย"

คิสซินเจอร์ เดินทางเยือนจีนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1971 ที่เขาได้กระทำภารกิจการทูตแบบลับๆ ที่ปักกิ่งเพื่อปูทางสู่การเยือนจีนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ในปีต่อมา ซึ่งถือเป็นย่างก้าวสำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐฯ และจีน

ที่มา : รอยเตอร์, CNN




กำลังโหลดความคิดเห็น