เอเจนซีส์ - ทหารอเมริกัน สิบเอกทราวิส คิง อยู่ในการคุมตัวของเปียงยาง ล่าสุด พบเพิ่งถูกปล่อยจากคุกในเกาหลีใต้เกือบ 2 เดือนคดีทำร้ายร่างกาย เตรียมถูกส่งกลับสหรัฐฯ เพื่อรับโทษเพิ่ม ฉลาดเป็นกรดวางแผนหลบหนีข้ามแดนเข้าเกาหลีเหนือปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปหมู่บ้านปันจอมมุน ก่อนโดนจับในที่สุด ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติ ด้านแม่ของนายสิบในอเมริกาออกมาเรียกร้องให้ลูกกลับบ้าน ส่วนบิ๊กเพนตากอน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และประธานคณะเสนาธิการทหารสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์รับทราบมีทหารอเมริกันถูกจับในเกาหลีเหนือ
ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันนี้ (19 ก.ค.) ว่า มีรายงานเปิดเผยเพิ่มมากขึ้นถึงรายละเอียดทหารอเมริกันยศเทียบเท่าสิบเอกชื่อ ทราวิส คิง (Travis King) อายุ 23 ปี ที่อยู่ในการควบคุมของเปียงยางเวลานี้ว่า ทหารนายนี้ตั้งใจหลบหนีข้ามแดนเข้าเกาหลีเหนือไปเอง
พบว่าเขาโดนจำคุกเป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือน ในข้อหาทำร้ายร่างกาย แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้เปิดเผย
ทหารสหรัฐฯ นายนี้คาดว่าจะต้องพบกับการลงโทษทางวินัยเพิ่มขึ้นหลังจากเดินทางกลับไปรัฐเทกซัสในวันจันทร์ (17) ก่อนที่จะหลบหนีข้ามแดนไปเกาหลีเหนือ
ด้านโฆษกกองกำลังทหารสหรัฐฯ ประจำเกาหลีใต้ พ.อ.ไอแซค เทย์เลอร์ (Colonel Isaac Taylor) กล่าวผ่านแถลงการณ์ให้ดิอินดีเพนเดนท์ว่า “ทหารสหรัฐฯ ที่ร่วมอยู่ในทัวร์ JSA นั้นมีความตั้งใจและไม่ได้รับอนุญาตข้ามเส้นแดนปลอดทหาร MDL เข้าไปในเกาหลีเหนือ ทางเราเชื่อว่าเขาในเวลานี้อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเกาหลีเหนือ ทางเรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตร KPA เพื่อแก้ปัญหานี้”
คิงอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านปันจอมมุน ซึ่งเป็นโซนแบ่งแยกดินแดนระหว่าง 2 ชาติเกาหลีก่อนที่ทหารสหรัฐฯ ข้ามแดนเข้าไป
อย่างไรก็ตาม หลังการข้ามแดนเข้าไปนานร่วม 12 ชั่วโมง เปียงยางยังคงนิ่งเงียบต่อสิ่งผิดปกติอย่างมากที่มีทหารอเมริกันข้ามแดนเข้าไป
ดิอินดีเพนเดนท์ชี้ว่า การข้ามแดนเข้าเกาหลีเหนือของคิงนี้น่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการยิงมิสไซล์ทดสอบของเปียงยางที่ถูกแปรความหมายว่าเป็นการประท้วงต่อต้านการส่งเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ที่เดินทางเข้าไปในเกาหลีใต้ 1 วันก่อนหน้า
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า คิงเป็นทหารลาดตระเวน เขาเข้าร่วมกับกองทัพสหรัฐฯ เมื่อมกราคมปี 2021 และประจำที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในรัฐเทกซัส ก่อนถูกส่งมาเกาหลีใต้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยว่า ทหารอเมริกันนายนี้อยู่ในเกาหลีใต้นานเท่าใด แต่ในจุดหนึ่งพบว่าเขาถูกลงโทษทางวินัยและต้องอยู่ในเรือนจำนาน 50 วัน
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสิบเอกทราวิส คิง นั้นถูกสั่งขังในเรือนจำทหารหรือของเกาหลีใต้ แต่ตามการแถลงของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พบว่า คิงถูกนำตัวส่งไปที่สนามบินเพื่อส่งตัวกลับสหรัฐฯ
แต่มีปัญหาที่สนามบินเกิดขึ้นคนควบคุมตัวไม่ผ่านการตรวจทางความมั่นคงพร้อมกับเขา และหลังจากนั้นพบว่าคิงได้หลบหนีมุ่งหน้ารวมกลุ่มท่องเที่ยวหมู่บ้านปันจอมมุน ก่อนข้ามแดนเข้าไป
เอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้หลังจากคิงถูกปล่อยตัวจากเรือนจำและได้อยู่ในค่ายกองกำลังสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ภายใต้การมอนิเตอร์ และในวันจันทร์ (17) โดนคุมตัวไปท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนเกาหลีใต้ และที่จุดตรวจเช็กพบว่าคนคุมที่มาซึ่งเป็นทหารไม่มีตั๋วเครื่องบินโดยสารจึงทำให้คิงถูกปล่อยให้เข้าสู่ด้านในตามลำพัง
ทั้งนี้ พบว่าเขาต้องขึ้นเครื่องเที่ยวบินมุ่งหน้าไปที่เมืองฟอร์ต บลิสส์ (Fort Bliss) รัฐเทกซัส อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ แต่ทว่าเขากลับไปอยู่ที่หมู่บ้านปันจอมมุนติดเกาหลีเหนือ ซึ่งไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคิงสามารถไปซื้อบัตรเที่ยวหมู่บ้านปันจอมมุนได้ตั้งแต่เมื่อใด
ทำให้เชื่อกันว่าคิงกลายเป็นทหารสหรัฐฯ คนแรกที่ข้ามแดนเข้าเกาหลีเหนือนับตั้งแต่ปี 1982
ขณะเดียวกัน แม่ของนายสิบเอกรายนี้ที่อยู่ในสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องขอให้ลูกชายกลับบ้าน เอบีซีรายงานว่า Claudine Gates แม่ของคิงแสดงความตกใจพร้อมกับยืนยันไม่เชื่อว่า ลูกชายจะสามารถทำสิ่งนี้ได้
เธออาศัยอยู่ที่ Racine รัฐวิสคอนซินระหว่างการให้สัมภาษณ์โดยกล่าวว่า “ดิฉันมองไม่เห็นว่าทราวิสจะสามารถทำอะไรเช่นนี้ได้"
เธอเปิดเผยว่าทางกองทัพสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อเธอในเช้าวันอังคาร (18) ว่า บุตรชายเดินทางข้ามเข้าไปในเกาหลีเหนือ ซึ่งเกตส์กล่าวว่าได้รับการติดต่อจากคิงเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า โดยลูกชายบอกว่าจะเดินทางกลับมาที่ค่ายที่ฟอร์ต บลิสส์ในสหรัฐฯ ในไม่ช้า
เกตส์กล่าวว่า เธอหวังแต่ว่าขอให้ลูกกลับบ้าน
ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน และประธานคณะเสนาธิการทหารสหรัฐฯ พล อ.มาร์ค มิลลีย์ กล่าวถึงเหตุทหารสหรัฐฯ หลบหนีเข้าเกาหลีเหนือในวันอังคาร (18) มีใจความว่า
“พวกเรารู้เรื่องแค่เบื้องต้นในเหตุการณ์นี้ ดังนั้นจึงมีอีกมากมายที่ทางเรากำลังพยายามจะทราบ”
และเสริมต่อว่า “ สิ่งที่เรารู้คือหนึ่งในทหารกองกำลังของพวกเราที่เดินทางท่องเที่ยวนั้น “ตั้งใจ” และ “ปราศจากการอนุญาต” ในการข้ามเส้นปลอดทหาร พวกเราเชื่อว่าเขาอยู่ในการควบคุมของเกาหลีเหนือ”
และกล่าวต่อว่า “พวกเรากำลังติดตามอย่างใกล้ชิดและตรวจสอบสถานการณ์ และได้แจ้งญาติของทหารนายนี้ให้รับทราบและอยู่ระหว่างการตอบโต้ต่อสถานการณ์นี้”