เอเอฟพี/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ยอดผู้เสียชีวิตหลังฝนพันปีตกที่เกาหลีใต้ล่าสุดเพิ่มเป็น 33 ราย วันอาทิตย์ (16 ก.ค.) หลังเกิดดินถล่มและน้ำท่วมใหญ่ตามมาหลังจากนั้น และสูญหายอีก 10 คน เที่ยวบิน 20 เที่ยวต้องยกเลิกวันเสาร์ (15 ก.ค.) ขณะเดียวกัน ในสหรัฐฯ เจอฮีตเวฟกระหน่ำที่ฟินิกซ์ รัฐแอริโซนาปาไป 48 องศาเซลเซียส ส่วนหุบเขามรณะเดตแวลลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย 54 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวยังแห่ทะลักเข้าไปท้าความตาย
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (16 ก.ค.) ว่า กระทรวงมหาดไทยเกาหลีใต้รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 33 ราย เพิ่มจาก 26 รายก่อนหน้า ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 16 คนเกิดขึ้นในจังหวัดคยองซังเหนือ (North Gyeongsang) ส่วนผู้สูญหายมีทั้งหมด 10 คน หลังฝนตกลงมาอย่างหนัก และทำให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมใหญ่ตามมา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพยายามอย่างหนักที่จะเข้าไปให้ถึงที่ติดอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินความยาว 430 เมตร ในชองจู (Cheongju) ชุงช็องเหนือ (North Chungcheong) กระทรวงแถลง
เกิดขึ้นหลังอุโมงค์ใต้ดินเกิดน้ำท่วมในเช้าวันเสาร์ (15) เกิดขึ้นหลังน้ำท่วมพัดเข้ามาอย่างรวดเร็วทำให้คนหนีออกไปไม่ทัน สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงาน
และในวันนี้ (16) เกาหลีใต้สามารถกู้ศพได้ 7 ศพ ออกมาจากอุโมงค์สำเร็จระหว่างที่ต้องทำงานตลอดเวลาในการค้นหาเหยื่อ
เอพีรายงานว่า ขณะเดียวกันในวันเสาร์ (15) เที่ยวบิน 20 เที่ยวยกเลิก และการบริการรถไฟปกติและรถไฟความเร็วหัวกระสุนจำนวนบางส่วน และถนนอีกเกือบ 200 เส้นยังคงปิด
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงแถลงว่า คาดว่าบางส่วนของเกาหลีใต้จะยังคงมีฝนตกหนักต่อไปในวันอาทิตย์ (16) ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุนซอกยอล ที่เดินทางไปเยือนยูเครนวันเสาร์ (15) ได้สั่งให้นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ฮาน ดัค-ซู (Han Duck-soo) ให้เคลื่อนทรัพยากรทั้งหมดที่มีออกมาเพื่อรับมือเหตุวิกฤตทางธรรมชาติ อ้างอิงจากสำนักงานทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้
ขณะเดียวกัน ในสหรัฐฯ ซึ่งตกอยู่ในสภาพคลื่นความร้อนกำลังท้าทาย บีบีซี ของอังกฤษรายงานวันนี้ (16) ว่า เกือบ 1 ใน 3 ของชาวอเมริกัน หรือราว 113 ล้านคนตั้งแต่รัฐฟลอริดาทางฝั่งตะวันออก ไปจนถึงรัฐแคลิฟอร์เนียทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ กำลังตกอยู่ภายใต้คำเตือนภัยคลื่นความร้อน
สำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ NWS เตือนประชาชนอย่าประมาทต่อวิกฤตที่อาจจะส่งผลร้ายถึงขั้นเสียชีวิต
ซึ่งในวันเสาร์ (15) อุณหภูมิสูงสุดตลอดกาลถูกวัดได้ 48 องศาเซลเซียสที่เมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซซา ซึ่งหมายความว่ามีการวัดอุณหภูมิได้ 43 องศาเซลเซียสเป็นเวลานาน 16 วันติดกัน
ส่วนคลินิกเคลื่อนที่ให้การรักษาชาวไร้บ้านที่ประสบปัญหาจากแดดร้อนจัดถึงขั้นไฟลวกระดับ 3
ส่วนที่หุบเขามรณะ หรือเดตแวลลีย์ (Death Valley) ในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีอากาศร้อนมากที่สุดในโลก มีการพยากรณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงถึง 54 องศาเซลเซียส ใกล้เคียงกับอุณหภูมิสูงที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการจดบันทึกที่น่าเชื่อถือระบุไว้
นิวยอร์กโพสต์รายงานวันศุกร์ (14) ว่า ถึงแม้ว่าหุบเขามรณะจะมีอากาศร้อนจัดมากและเคยมีนักท่องเที่ยวถูกพบเสียชีวิตจากอากาศร้อนจัดระหว่างการไต่เขาแถวนี้มาแล้ว แต่ทว่าล่าสุดนักท่องเที่ยวยังคงแห่ทะลักเข้าไป
หนึ่งในนั้นเป็น อเลสเซีย เดมป์สเตอร์ (Alessia Dempster) นักท่องเที่ยวจากเอดินบะระ สกอตแลนด์ ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีอากาศหนาวเย็นกล่าวแสดงความเห็นว่า “มันร้อนมาก โดยเฉพาะตอนที่มันมีลมพัด คุณคงคิดไปว่า มันอาจจะทำให้คลายร้อนได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเหมือนกับลมร้อนที่เป่าจากเครื่องเป่าผมออกมาที่ใบหน้าของคุณ”
บีบีซีรายงานว่า บางส่วนของตะวันตกเฉียงใต้นั้นผจญกับอากาศร้อนมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ในเอล พาโซ (El Paso) รัฐเทกซัส นั้นพบตัวเลขอุณหภูมิสูงเกิน 100 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 37.7 องศาเซลเซียสมาเป็นเวลา 27 วันติดต่อกัน มีการใช้เครื่องปรับอากาศทำลายสถิติของรัฐ สวนสาธารณะและสวนสัตว์หากไม่ปิดการให้บริการก็จะลดเวลาการให้บริการลง