เอเจนซีส์ - เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วเมื่อกองกำลังทหารอินเดียปรากฏตัวร่วมอยู่ในพิธีสวนสนามวันชาติฝรั่งเศสที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันศุกร์ (14 ก.ค.) ซึ่งมีประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครงร่วมอยู่ในขบวนในฐานะจอมทัพ และมีแขกพิเศษนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ปรากฏตัวร่วมในพิธีอย่างชื่นมื่น หลังดีลข้อตกลงอาวุธที่โมดียอมเทกระเป๋าจ่าย 10 พันล้านดอลลาร์
ฮินดูสถาน สื่ออินเดียรายงานวันนี้ (14 ก.ค.) ว่า พิธีสวนสนามวันชาติฝรั่งเศสในปีนี้มีการใช้ทหารเข้าร่วมประมาณ 6,300 นาย ซึ่งในปีนี้ถือเป็นปีพิเศษที่จะมีทหารอินเดียเข้าร่วม
เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง ปูพรมแดงต้อนรับการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการต่อนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ซึ่งเริ่มการเยือนฝรั่งเศสมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี (13)
ซึ่งหน่วยกองร้อยทหารปัญจาบเป็นผู้นำการเข้าร่วมที่เกิดขึ้นบนกลางถนนช็องเซลีเซในวันศุกร์ (14) อ้างอิงจากทริบูนอินเดีย ที่รายงานก่อนหน้าพบว่า จำนวนทหารอินเดียเข้าร่วมพิธีทั้งหมดมีราว 269 นาย
ทั้งนี้ อัลญะซีเราะฮ์รายงานวันพฤหัสบดี (13) ว่า นอกเหนือจากนี้ยังพบว่า ทหารกองทัพอากาศอินเดียจะร่วมบินผาดโผนเหนือท้องฟ้ากรุงปารีสในวันบาสตีย์เดย์อีกด้วย
โมดีเดินทางถึงกรุงปารีสตามการเชิญของผู้นำฝรั่งเศสวานนี้ (13) และเขาได้รับเกียรติในฐานะผู้นำต่างชาติให้ร่วมพิธีฉลองวันประกาศอิศรภาพในวันถัดมา (14)
ซึ่งที่สนามบินออร์ลี (Orly) ใกล้กรุงปารีส มาครงส่งนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เอลีซาแบ็ต บอร์น (Elisabeth Borne) ไปต้อนรับถึงเครื่องหลังร่อนลงจอด
เกิดขึ้นในวันเดียวกันที่หน่วยงานรับผิดชอบการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เข้ากองทัพอินเดียได้ไฟเขียวสั่งซื้อเครื่องบินรบราฟาเอล 26 ลำ จากฝรั่งเศส
กระทรวงกลาโหมอินเดียเสริมต่อว่า สภาการจัดซื้อกลาโหมอินเดียยังอนุมัติเพิ่มเติมเรือดำน้ำฝรั่งเศสชั้น Scorpene-class อีก 3 ลำ
ซึ่งข้อตกลงสั่งซื้ออาวุธฝรั่งเศสล่าสุดมีมูลค่าราว 10 พันล้านดอลลาร์
บรรดาผู้เชี่ยวชาญทางความมั่นคงอินเดียต่างแสดงความเห็นปกป้องการจัดซื้ออาวุธจากฝรั่งเศสหนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาหลายสิบปีแดนภารตะนั้นใช้ยุทโธปกรณ์จากแดนน้ำหอม เป็นต้นว่า เครื่องบินรบขับไล่ราฟาเอล
โดยชี้ว่าจะช่วยทำให้นิวเดลีสามารถสร้างความหลากหลายในพันธมิตรผู้ผลิตยุทโธปกรณ์ทางการทหาร และลดการพึ่งพาต่ออาวุธยุทโธปกรณ์รัสเซียที่เก่าและล้าสมัย
สถาบันวิยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (Stockholm International Peace Research Institute) ให้ข้อมูลว่ามาตั้งแต่ปี 2018-2022 ฝรั่งเศสกลายเป็นคู่ค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ให้แดนภารตะ คิดเป็น 29% ของการนำเข้า
Parth Satam ผู้เชี่ยวชาญนโยบายต่างประเทศและบรรณาธิการประจำสื่อ EurAsian Times เปิดเผยกับอัลญะซีเราะฮ์ว่า ฝรั่งเศสต่างจากสหรัฐฯ ที่จะไม่ผลักดันให้อินเดียให้ออกห่างจากรัสเซียหรือใช้ไม้แข็งมากขึ้นกับมอสโก
“ฝรั่งเศสรู้ว่าอินเดียจะยังคงยืนในแนวทางเป็นกลางของตัวเอง และในแถลงการณ์ร่วมซึ่งหากว่ามีหลังจากที่นายกรัฐมนตรีโมดี และประธานาธิบดีมาครงได้เสร็จสิ้นการหารือร่วมกัน อาจจะไม่เห็นการอ้างอิงไปถึงยูเครน ซึ่งแถลงการณ์ของฝ่ายอินเดียจะยังคงอ้างไปถึงสงครามโดยเรียกว่า “ความขัดแย้งยูเครน”
เดลีเมลของอังกฤษรายงานว่า สำหรับในปีนี้ประชาชนแดนน้ำหอมสามารถเข้าชมข้างทางได้แค่ 10,000 คนเท่านั้น จากแต่เดิม 25,000 คน ซึ่งกองกำลังสวนสนามของฝรั่งเศสมาจากหลายหน่วย เป็นต้นว่า กองกำลังทหารม้า กองกำลังหน่วยรบพิเศษต่อต้านกลุ่มมุสลิมสุดโต่งญิฮัดในแอฟริกา และปรากฏภาพน่ารักเมื่อมีทหารฝรั่งเศสในเครื่องแบบสีฟ้านายหนึ่งคุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงานก่อนบรรจงจุมพิตเมื่อสาวเจ้าตอบตกลง สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะไปทั่ว