เอเจนซีส์ - กลายเป็นสีสันไปสำหรับการเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) เมื่อเสียงเฮลิคอปเตอร์มารีน 1 ของไบเดนดังลั่นทั่วปราสาทวินด์เซอร์ สื่อแดนผู้ดีรายงาน ผู้นำสหรัฐฯ ละเมิดขนบธรรมเนียมปฏิบัติเกินเรดาร์ใช้มือสัมผัสพระองค์ ขณะที่เหยี่ยวข่าวตาดีส่องกระดาษในมือผู้นำสหรัฐฯ เขียนชัดหัวข้อ "นาโต" ระหว่างปาร์ตี้ในสวนร่วมกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษก่อนบิน ฮ.เข้าเฝ้า
GB สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (10 ก.ค.) ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ใช้เวลาแค่ 42 นาที ที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิงในวันจันทร์ (10) หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก อ้างอิงจากเดลีเมล สื่ออังกฤษ ก่อนที่จะเดินทางไปเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษในฐานะพระราชอาคันตุกะ
เดลีเมลรายงานว่า ทั้งผู้นำสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีอังกฤษได้สนทนาร่วมกันภายในสวนด้านทำเนียบ แต่นักข่าวตาดีซูมไปที่กระดาษจดโน้ตที่ไบเดนถือไว้ที่มีหัวข้อคือ “นาโต” ซึ่งคนทั้งคู่มีการหารือร่วมกันไปถึงเครื่องบิน F-16 ตุรกี และคำแถลงแอตแลนติก
ผู้นำสหรัฐฯ ที่มีวัยแตกต่างจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษถึง 37 ปี ได้หยอดคำหวานว่า “เขาไม่สามารถพบกับเพื่อนที่ใกล้ชิดกว่าและพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่กว่าได้ไปกว่านี้”
GB กล่าวว่าตามการรายงานระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางมาถึงในช่วงบ่ายที่ปราสาทวินด์เซอร์ด้วยเฮลิคอปเตอร์มารีน 1 ประจำตำแหน่ง ออกจากถนนดาวน์นิงซึ่งอยู่กลางกรุงลอนดอน
ซึ่งก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางมาถึงทั่วทั้งปราสาทได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังลั่น
และหลังจากนั้นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางด้วยรถเข้ามาด้านในพระราชวังเพื่อเข้าเฝ้า เดลีเมลรายงานว่า เขาได้รับเกียรติในการเดินตรวจแถวทหารรักษาพระองค์ท่ามกลางการรายงานจากสื่ออังกฤษหลายสำนักว่า ผู้นำสหรัฐฯ ละเมิดกฎธรรมเนียมที่ระบุว่า จะไม่มีการสัมผัสพระวรกายเกิดขึ้นสำหรับสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ
แต่ทว่าแหล่งข่าววงในเปิดเผยกับเดลีเมลกล่าวว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีความสนิทสนมพระทัยกับผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งภาพที่ออกมาแสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีไบเดนใช้มือสัมผัสพระขนง (หลัง) ของพระองค์
ซึ่งระหว่างที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และผู้นำสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการเดินตรวจแถวสวนสนามรักษาพระองค์อยู่นั้น พบว่าไบเดนได้เผลอเอื้อมมือไปสัมผัสพระขนง
ทั้งพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระสรวลระหว่างมีพระราชปฏิสันถารกับไบเดน แสดงให้เห็นทั้งคู่นั้นไปด้วยกันได้ดี
แหล่งข่าวในพระราชวังกล่าวว่า “พระองค์ทรงมีความสะดวกพระราชหฤทัยเป็นอย่างมากต่อการสัมผัสเช่นนั้น และกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างวิเศษของความอบอุ่นและความรักระหว่างทั้งสองและตลอดทั้ง 2 ชาติ”
เอเอฟพีรายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้เข้าร่วมงานปาร์ตี้น้ำชายามบ่ายกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และมีการสนทนาระหว่างกันเกี่ยวปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลก
