เอพี/เอเจนซีส์ - เครมลินแถลงวันจันทร์ (10 ก.ค.) ยอมรับครั้งแรกว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน พบกับผู้นำกลุ่มวากเนอร์ เยฟเกนี ปรีโกจีน 5 วัน หลังกบฏที่วากเนอร์ก่อล้มเหลวเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. พบคุยกันนานเกือบ 3 ชั่วโมง แต่เจ้าตัวยังคงไม่โผล่หน้าต่อสาธารณะ ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนยืนยัน นาโตตกลงที่จะเร่งกระบวนการสมัครสมาชิกเข้าร่วม ประสบความสำเร็จปลดปล่อยทางใต้ขนาดเท่าเมืองโอเดสซาจากเงื้อมมือรัสเซียระหว่างรอระเบิดพวงจากสหรัฐฯ
เอพีรายงานวันนี้ (10 ก.ค.) ว่า ท่ามกลางข่าวที่ยังสับสนถึงชะตาชีวิตของนายใหญ่กลุ่มวากเนอร์ ล่าสุดโฆษกเคมลิน ดมิตรี เพรสคอฟ ในวันจันทร์ (10) เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน พบผู้นำกลุ่มวากเนอร์ เยฟเกนี ปรีโกจีน หลังก่อกบฏล้มเหลวเมื่อวันเสาร์ที่ 24 มิ.ย.
เพรสคอฟกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า การหารือเกิดขึ้นภายในทำเนียบเครมลินเมื่อวันที่ 29 มิ.ย หรือ 5 วันหลังการกบฏวากเนอร์ยุติลง ซึ่งในการประชุมมีผู้บัญชาการรบกลุ่มวากเนอร์รวมไปถึง “ปรีโกจีน” ผู้ก่อตั้ง
ในที่ประชุมที่ยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง มีคนเข้าร่วมการประชุมทั้งหมด 35 คน โฆษกเครมลินสรุป
“ผู้บัญชาการรบเหล่านี้ได้ออกมาเล่าถึงสิ่งพวกเขาคิดต่อเหตุที่เกิด คนทั้งหมดกล่าวยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนที่จงรักภักดีและเป็นทหารของประมุขแห่งรัฐและผู้บัญชาการสูงสุด และคนเหล่านี้กล่าวยืนยันว่า พร้อมที่จะยังคงสู้รบเพื่อบ้านเกิดต่อไป” โฆษกเครมลินแถลง
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานเพิ่มเติมว่า เพรสคอฟยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมหารือพบว่าผู้นำรัสเซียยังได้ให้การประเมินต่อกลุ่มวากเนอร์สำหรับการสู้รบที่บัคมุตในยูเครนและรวมไปถึงเหตุการณ์ก่อกบฏเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.
“การประชุมเกิดขึ้นในเครมลินเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. และเป็นเวลานานร่วมเกือบ 3 ชั่วโมง รายละเอียดยังคงไม่ปรากฏ แต่สิ่งที่ทางเราสามารถกล่าวได้คือประธานาธิบดีรัสเซียได้ให้การประเมินถึงปฏิบัติการในการสู้รบที่แนวหน้าระหว่างปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย รวมไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.เช่นกัน”
และกล่าวต่อว่า “ประธานาธิบดีปูตินฟังต่อคำอธิบายที่ออกมาจากเหล่าผู้บัญชาการรบและได้เสนอทางเลือกสำหรับการประจำการและการบในอนาคต”
CNN ชี้ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เครมลินแถลงว่า ไม่ต้องการและไม่มีความปรารถนาในการติดตามความเคลื่อนไหวของปรีโกจีน
เอพีวิเคราะห์ว่า การออกมาแถลงของเครมลินในวันจันทร์ (10) เป็นความพยายามจากฝ่ายมอสโกเพื่อควบคุมทิศทางของข่าวสารหลังเกิดเหตุการณ์วากเนอร์ลุกขึ้นก่อกบฏ
เดลีบีสต์ของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างจากสื่อรัสเซีย RIA Novosti มีการถามโฆษกเครมลินว่า รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู เข้าร่วมการประชุมด้วยหรือไม่ แต่ทว่าเพรสคอฟตอบปัดโดยชี้ว่า ไม่มีอะไรต้องกล่าวมากไปกว่านี้
CNN รายงานว่า ในวันเดียวกันยูเครนได้รับข่าวดีเพราะรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ดมิโตร คูเลบา (Dmytro Kuleba) ออกมาเปิดเผยว่า ทางนาโตตกลงที่จะเร่งกระบวนการสมัครรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกให้เร็วขึ้น
ในแถลงการณ์ผ่านทางทวิตเตอร์มีใจความว่า “หลังจากการหารืออย่างเคร่งเครียด พันธมิตรนาโตบรรลุฉันทมติในการปลดล็อก “แผนปฏิบัติการสมาชิก” หรือ MAP (Membership Action Plan) ออกจากเส้นทางของยูเครนในการเข้าร่วมเป็นสมาชิก”
และเสริมว่า “ผมยินดีต่อการตัดสินใจที่เฝ้ารอมาอย่างยาวนานนี้ที่จะทำให้เส้นทางการเข้าเป็นสมาชิกของพวกเราสั้นขึ้น และมันยังเป็นช่วงโอกาสที่ดีที่สุดต่อการทำให้ชัดเจนขึ้นในการเชื้อเชิญยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิก”
ทั้งนี้ แผน MAP นี้โครงการของนาโตในการช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับบรรดาประเทศที่ประสงค์เข้าร่วมการเป็นพันธมิตรนาโตที่อยู่ภายใต้การนำของสหรัฐฯ ซึ่งไม่มีอคติในการตัดสินใจใดๆ โดยชาติพันธมิตร แต่ทว่ากระบวนการนั้นอาจจะยาวนาน
ขณะเดียวกัน อ้างอิงจากบิสซิเนสอินไซเดอร์ยังเป็นครั้งแรกที่เคียฟออกมายอมรับเป็นทางการว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโจมตีสะพานไครเมียที่รู้จักในนามสะพานช่องแคบเคิร์ช (Kerch Strait Bridge) ในปีที่ผ่านมาในการแถลงทางช่องทางเทเลแกรมโดยผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ฮันนา มาเลียร์ (Hanna Maliar)
CNN ชี้ว่า เคียฟยังประสบความสำเร็จปลดปล่อยทางใต้พื้นที่ราว 169 ตารางกิโลเมตรขนาดเท่าเมืองโอเดสซาจากเงื้อมมือรัสเซียระหว่างรอระเบิดพวงจากสหรัฐฯ แต่ยอมรับว่าปฏิบัติการตีโต้กลับรุกคืบช้า