ฮิวแมนไรต์วอตช์จี้รัสเซีย-ยูเครนหยุดใช้ ‘ระเบิดพวง’ เข่นฆ่ากันในสงคราม

องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรต์วอตช์ (Human Rights Watch - HRW) เผยแพร่รายงานวันนี้ (6 ก.ค.) ว่ากองทัพรัสเซียและยูเครนต่างมีการนำระเบิดพวง หรือ “คลัสเตอร์บอมบ์” (cluster bombs) ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามมาใช้ในสงคราม ทำให้พลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังตัดสินใจว่าจะมอบอาวุธดังกล่าวให้เคียฟตามที่ถูกเรียกร้องมาหรือไม่

HRW เรียกร้องให้ทั้งรัสเซียและยูเครนหยุดใช้อาวุธดังกล่าวทันที และเตือนสหรัฐฯ ว่าอย่าได้มอบอาวุธชนิดนี้ให้แก่ยูเครนด้วย

กว่า 120 ประเทศทั่วโลกได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยระเบิดพวงปี 2008 (Convention on Cluster Munitions) ซึ่งห้ามการใช้อาวุธประเภทนี้ เนื่องจากระเบิดพวงนั้นจะปลดปล่อยลูกระเบิดขนาดเล็กกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง ระเบิดเหล่านี้หากไม่ทำงานอาจฝังตัวอยู่ในพื้นดิน และก่ออันตรายกับพลเรือนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในอีกหลายเดือนหรือหลายปีให้หลัง

รัสเซีย ยูเครน และสหรัฐฯ ต่างยังปฏิเสธที่จะเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาฉบับนี้

รัฐบาลยูเครนพยายามเรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ช่วยกดดันรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ให้ยอมอนุมัติส่งมอบระเบิดพวงให้แก่ยูเครน ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอนก็ออกมาพูดเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ว่า ระเบิดพวงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับยูเครนในการขับไล่กองกำลังรัสเซีย ทว่าที่ผ่านมาสหรัฐฯ ยังไม่เคยส่งออกอาวุธประเภทนี้ให้เคียฟมาก่อน เนื่องจากติดข้อจำกัดในสภาคองเกรส รวมไปถึงความกังวลในหมู่ชาติพันธมิตร

HRW อ้างข้อมูลจากการสัมภาษณ์พลเรือน ผู้เห็นเหตุการณ์ และเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินท้องถิ่นกว่า 100 คน ซึ่งยืนยันว่ากองทัพยูเครนเคยมีการยิงจรวดบรรจุกระสุนคลัสเตอร์เข้าไปในเขตยึดครองของรัสเซียที่เมืองอีเซียม (Izium) เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งการโจมตีดังกล่าวส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 8 คน และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 15 คน

HRW เคยเผยแพร่รายงานการใช้กระสุนคลัสเตอร์โดยรัสเซียว่าได้คร่าชีวิตพลเรือนยูเครนไปเป็นจำนวนมาก ขณะที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations' Human Rights Council) ก็จดบันทึกรายงานการใช้ระเบิดชนิดนี้โดยคู่สงครามทั้ง 2 ฝ่าย

ที่มา : รอยเตอร์