ผู้นำกลุ่มชาติสมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization - SCO) ประกาศยกระดับความร่วมมือและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นภายในกลุ่มประเทศแถบยูเรเชีย พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ของกลุ่มที่จะไม่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐอื่นใด ขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเน้นย้ำถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและความร่วมมือกันของ SCO พร้อมทั้งขอให้ผู้นำในภูมิภาคร่วมกันต่อต้านการแทรกแซงจากมหาอำนาจภายนอก
การประชุมซัมมิต SCO ครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดียได้เดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ และประกาศร่วมกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ว่าทั้ง 2 ชาติเป็น “หนึ่งในหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกันที่สุดในโลก”
คำแถลงร่วมภายหลังการประชุมซัมมิตออนไลน์ซึ่งอินเดียเป็นเจ้าภาพวานนี้ (4 ก.ค.) ระบุว่า รัฐสมาชิก SCO คัดค้านการใช้แนวทางเผชิญหน้าแก้ไขปัญหาและประเด็นความมั่นคงต่างๆ และวิจารณ์ผลกระทบจาก “การแผ่ขยายระบบป้องกันขีปนาวุธฝ่ายเดียวแบบไร้การควบคุม โดยบางประเทศหรือกลุ่มประเทศ” โดยไม่ได้เอ่ยตรงๆ ว่าหมายถึงองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และการที่ชาติตะวันตกสนับสนุนอาวุธให้ยูเครน
บรรดาผู้นำ SCO ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน โดยย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้อง “สร้างรัฐบาลที่หลอมรวมทุกฝ่าย โดยเปิดโอกาสให้ผู้แทนจากทุกเชื้อชาติ ศาสนา และกลุ่มการเมืองในสังคมอัฟกันได้เข้าไปมีส่วนร่วม”
ทุกชาติยกเว้น “อินเดีย” ยังประกาศสนับสนุนโครงการริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative - BRI) ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งมีเป้าหมายในการฟื้นฟูเส้นทางสายไหมเก่าเชื่อมจีนเข้ากับเอเชีย ยุโรป และภูมิภาคอื่นๆ ด้วยการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
SCO เป็นกลุ่มความร่วมมือทางการเมืองและความมั่นคงที่ก่อตั้งขึ้นโดยจีนและรัสเซียเมื่อปี 2001 และมีชาติสมาชิกอื่นๆ ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน
“อิหร่าน” กลายเป็นสมาชิกน้องใหม่ล่าสุดประเทศที่ 9 ของ SCO ในวันอังคาร (4) หลังจากที่ประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี ตัดสินใจนำประเทศเข้าร่วมกลุ่มความร่วมมือนี้ ขณะที่ “เบลารุส” ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจซึ่งจะนำไปสู่การได้รับสมาชิกภาพภายในปี 2024
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้เข้าร่วมการประชุม SCO ในคราวนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวในเวทีประชุมระดับนานาชาติครั้งแรกหลังจากที่รัสเซียเผชิญการก่อกบฏทางอาวุธ (munity) ชั่วระยะเวลาสั้นๆ โดยกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์เมื่อปลายเดือน มิ.ย.
ปูติน ยืนยันกับบรรดาผู้นำ SCO ว่า รัสเซียยังคงมีเสถียรภาพและเอกภาพ พร้อมเตือนว่าโลกกำลังเสี่ยงเผชิญความขัดแย้งและวิกฤตเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และในส่วนของมอสโกเองมีแผนที่จะยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับ SCO ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก
ผู้นำรัสเซียยังประกาศจะยืนหยัดต่อสู้กับแรงกดดัน การคว่ำบาตร และ “การยั่วยุ” จากชาติตะวันตกที่มีขึ้นตามหลังสงครามที่รัสเซียเป็นฝ่ายรุกรานยูเครนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่แล้ว
ด้านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เรียกร้องให้ชาติสมาชิก SCO ยกระดับการแลกเปลี่ยน ตลอดจนส่งเสริมความมั่นคงร่วม ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
“เราจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ในภาพรวมระยะยาวของภูมิภาค และกำหนดนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังความพยายามจากภายนอกที่จะปลุกปั่นให้เกิดสงครามเย็นครั้งใหม่ หรือการเผชิญหน้าแบบแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในภูมิภาคของเรา” ผู้นำจีน ระบุ
ทั้ง สี และ ปูติน ยังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนไปสู่ระบบการค้าขายด้วยสกุลเงินท้องถิ่น เพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ และหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่มีขึ้นหลังเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ที่มา : รอยเตอร์