เอเจนซีส์ - หน่วยงานยามฝั่งสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (28 มิ.ย.) เชื่อมีการค้นพบหลักฐานสำคัญที่อาจเป็นชิ้นส่วนมนุษย์ที่มาพร้อมกับซากชิ้นส่วนสีขาวที่อาจเป็นส่วนของตัวเรือดำน้ำไททัน ซับเมอร์ซิเบิล ที่ได้มาจากก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ นำขึ้นฝั่งโดยเรือฮอไรซัน อาร์กติก (Horizon Arctic) ของแคนาดา หลังหุ่นยนต์ดำน้ำลึก ROV ดำเจอ พบซีอีโอโอเชียนเกตโดนเตือนหลายปีก่อนหน้า "คาร์บอนไฟเบอร์" ที่ใช้สร้างลำตัวของเรือดำน้ำเป็นจุดตาย ไร้ความทนทานในระดับน้ำลึกแต่เขากลับไม่ฟัง
เดอะการ์เดียนของอังกฤษ รายงานวันนี้ (29 มิ.ย.) ว่า หน่วยงานยามฝั่งสหรัฐฯ แถลงในวันพุธ (28) ว่า ทางหน่วยงานซึ่งเป็นผู้นำการสอบสวนได้รับชิ้นส่วนซากเรือดำน้ำ “ไททัน ซับเมอร์ซิเบิล” (Titan submersible) และหลักฐานที่รวมไปถึง “สิ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนร่างมนุษย์” ที่ได้จากก้นมหาสมุทรในจุดเกิดเหตุที่เชื่อว่าเรือดำน้ำซึ่งน้ำผู้โดยสารมหาเศรษฐี 4 คน และซีอีโอเจ้าของโอเชียนเกต สต็อกตัน รัช (Stockton Rush) 1 คน เสียชีวิตหลังเกิดระเบิด
หน่วยงานยามฝั่งสหรัฐฯ แถลงว่า หลักฐานทั้งหมดจะส่งไปท่าเรือในสหรัฐฯ เพื่อการวิเคราะห์และทดสอบโดยบอร์ดทางทะเลของการสอบสวน
ขณะที่เดลีเมล สื่ออังกฤษระบุว่า การค้นพบในเช้าวันพุธ (28) ชิ้นส่วนถูกพบที่ก้นมหาสมุทร 1,600 ฟุต (500 เมตร) ห่างจากหัวเรือไททานิกที่อยู่ที่ก้นมหาสมุทรลึกกว่า 2 ไมล์ (เกือบ 4 กิโลเมตร) ต่ำกว่าระดับพื้นผิวน้ำมหาสมุทรแอตแลนติก และห่างจากชายฝั่งของเกาะนิวฟาวแลนด์ไปราว 400 ไมล์
ซึ่งซากชิ้นส่วนหลายชิ้นของเรือดำน้ำที่เกิดระเบิดภายใน (implosion) ถูกนำขึ้นฝั่งในนิวฟาวแลนด์ (Newfoundland) แคนาดา ในเช้าวันพุธ (28) ถือเป็นหลักฐานที่บรรดาเจ้าหน้าที่กล่าวว่าจะช่วยเหลือในการสอบสวนต่อเหตุโศกนาฏกรรม และสามารถตอบคำถามได้เกี่ยวกับการออกแบบในเชิงทดสอบของตัวเรือดำน้ำ มาตรฐานความปลอดภัย และการไม่มีใบอนุญาตรับรอง
เดลีเมล สื่ออังกฤษชี้ว่า การค้นพบสร้างความประหลาดใจให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ตั้งข้อสงสัยว่าเรือดำน้ำไททันอาจถูกทำลายทั้งหมดเมื่อเกิดระเบิดภายในระหว่างดำดิ่งเพื่อนำนักท่องเที่ยวไปชมซากเรือไททานิก
เดอะการ์เดียนกล่าวว่า ชิ้นส่วนขนาดใหญ่หลายชิ้นที่ละม้ายคล้ายกับส่วนของตัวเรือที่มีสีขาว และส่วนลงจอดที่ออกแบบสำหรับการลงจอดบนก้นมหาสมุทรนั้นได้มาถึงที่เมืองเซนต์จอห์นส์ (St. John's) บนเกาะนิวฟาวแลนด์ในวันพุธ (28) โดยเรือฮอไรซัน อาร์คติก (Horizon Arctic) ของแคนาดา
นอกจากนี้ ในการค้นพบล่าสุดยังรวมไปถึงสายเคเบิลที่บิดเบี้ยวเกี่ยวข้องกับระบบกลไกของเรือดำน้ำไททันรวมอยู่กับซากชิ้นส่วนจากเรือดำน้ำชื่อดังนี้ที่มีจุดจบคล้ายกับเรือไททานิก ซึ่งเรือดำน้ำไททันเกิดสูญหายหลังขาดการติดต่อกับเรือแม่นาน 1 ชั่วโมง 45 นาที หลังปล่อยลงน้ำเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พบว่าในการค้นหาเรือแคนาดา ฮอไรซัน อาร์คติกใช้หุ่นยนต์ดำน้ำลึกบังคับจากระยะไกล หรือ ROV ของบริษัทอเมริกัน Pelagic Research Services ในการสำรวจในระดับก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือใกล้สุสานเรือไททานิก
ซึ่งหุ่นยนต์ดำน้ำลึก ROV ตัวที่ออกปฏิบัติการนี้ชื่อ Odysseus 6K ซึ่งมีความสามารถดำน้ำได้ลึกมาถึง 20,000 ฟุต ขณะที่จุดที่ซากเรือไททานิกล่มนั้นอยู่ระดับความลึกที่ 12,500 ฟุตวัดจากผิวน้ำ
ทางบริษัทกล่าวผ่านแถลงการณ์วานนี้ (28) ว่า ทางบริษัทเสร็จสิ้นปฏิบัติการนอกชายฝั่งแล้ว
เดอะการ์เดียนชี้ว่า ชิ้นส่วนเรือดำน้ำที่งมมาได้ถือมีความสำคัญเพื่อการสอบสวนหาสาเหตุโศกนาฏกรรมเรือดำน้ำนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมหลายคนตั้งข้อสงสัยไปถึงการออกแบบเรือดำน้ำ พร้อมคำถามไปที่ประวัติทางความปลอดภัยของบริษัทโอเชียนเกต (OceanGate) สัญชาติสหรัฐฯ ที่นำผู้โดยสารชมสุสานเรือไททานิกด้วยราคาที่สูงลิ่ว
เดลีเมลกล่าวว่า เป็นเวลาหลายปีก่อนเกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่คร่าชีวิตซีอีโอโอเชียนเกต เคยมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ออกมาเตือนรัชถึงข้อบกพร่องของการออกแบบเรือดำน้ำของเขาที่มีการใช้วัตถุคาร์บอนไฟเบอร์ (carbon fiber) มาใช้สำหรับวัสดุเพื่อเป็นตัวเรือดำน้ำและกลายเป็นจุดตายของเรือดำน้ำไททัน ซับเมอร์ซิเบิล โดยให้เหตุผลว่า คาร์บอน ไฟเบอร์ไม่เหมาะที่จะใช้เป็นวัสดุสำหรับการดำน้ำระดับความลึกมากเช่นนี้ส่งผลทำให้เรือดำน้ำไม่มีความปลอดภัยสูง
