xs
xsm
sm
md
lg

ผู้กำกับดัง ‘เจมส์ คาเมรอน’ ยอมรับ ‘เสียใจที่ไม่ได้เตือน’ หลังพบเรือดำน้ำไททันออกแบบไม่ปลอดภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์ “ไททานิค” ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่เชี่ยวชาญและหลงใหลการสำรวจโลกใต้น้ำ ออกมาให้สัมภาษณ์วานนี้ (22 มิ.ย.) ว่ารู้สึก “เสียใจ” ที่ไม่เคยท้วงติงเรื่องการออกแบบเรือดำน้ำไททัน (Titan) ซึ่งเขามองว่ามีความสุ่มเสี่ยงอันตราย

เรือดำน้ำลำนี้ขาดการติดต่อกับเรือแม่ ขณะดำลงไปสำรวจซากเรือไททานิคที่ความลึก 3,800 เมตร ใต้มหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (18 มิ.ย.) นำมาซึ่งปฏิบัติการค้นหาครั้งใหญ่เพื่อช่วยชีวิตกัปตันและลูกเรืออีก 4 คน

ล่าสุด มีคำยืนยันจากบริษัท OceanGate ซึ่งเป็นเจ้าของเรือวานนี้ (22 มิ.ย.) แล้วว่า เรือดำน้ำความยาว 6.7 เมตรลำนี้ได้เกิดการ “ระเบิด” และผู้โดยสารบนเรือทั้ง 5 คนไม่รอดชีวิต

คาเมรอน เริ่มผันตัวมาเป็นนักสำรวจใต้ทะเลลึกตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 ระหว่างที่ทำวิจัยและเตรียมสร้างภาพยนตร์ไททานิค ซึ่งคว้ารางวัลออสการ์ถึง 11 สาขา ปัจจุบันเขาเป็นหุ้นส่วนในบริษัท Triton Submarines ซึ่งผลิตยานดำน้ำเพื่อการวิจัยและการท่องเที่ยว

คาเมรอน เล่าว่า ตอนที่เขาได้ยินว่า OceanGate จะสร้างยานดำน้ำเพื่อการสำรวจใต้ทะเลลึกโดยใช้วัสดุคอมโพสิตคาร์บอนไฟเบอร์และไทเทเนียมมาทำเป็นตัวเรือ เขาก็รู้สึกไม่ค่อยเชื่อมั่นตั้งแต่แรก

“ผมรู้สึกว่ามันเป็นความคิดไม่โอเคเลย และผมเสียดายที่ไม่ได้พูดออกไป เพราะคิดว่ายังมีคนอื่นๆ ที่เชี่ยวชาญกว่าผมอีกเยอะ ตัวผมเองก็ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้มาก่อน แต่ฟังดูแล้วมันไม่น่าจะเหมาะ” คาเมรอน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ผ่าน Zoom

แม้สาเหตุการระเบิดของเรือดำน้ำไททันจะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ คาเมรอน ค่อนข้างให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานของนักวิจารณ์บางคนที่ระบุว่า วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และไทเทเนียมจะนำไปสู่การหลุดลอก (delamination) และทำให้มีน้ำรั่วซึมในระดับที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น (microscopic water ingress) ซึ่งก่อความเสียหายในระยะยาว

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในแวดวงอุตสาหกรรมยานดำน้ำ รวมถึงอดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรมของ OceanGate คนหนึ่งเคยออกมาเตือนบริษัทตั้งแต่ปี 2018 เรื่องที่เรือดำน้ำไททันไม่ผ่านกระบวนการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถืออย่าง American Bureau of Shipping หรือ DNV ของยุโรป

หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (22) ว่า เรือดำน้ำไททันน่าจะระเบิด (implode) ขณะที่ดำลงไปสำรวจซากเรือไททานิคใต้มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทว่าการสอบสวนยังต้องใช้เวลา

ด้านกองทัพเรือสหรัฐฯ ให้ข้อมูลกับวอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) ว่า ระบบตรวจจับเสียงใต้น้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯ สามารถ “บันทึกเสียงผิดปกติที่คล้ายกับเสียงระเบิดในบริเวณใกล้ๆ กับจุดที่เรือดำน้ำไททันขาดการติดต่อ”

คาเมรอน ยอมรับว่า เขาได้รับข้อมูลคล้ายๆ กันจาก “แหล่งข่าว” และคาดเดาได้ตั้งแต่ต้นว่าเรือดำน้ำไททันคงจะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นแล้วตั้งแต่ตอนที่ขาดการติดต่อกับเรือแม่

“เราได้รับข้อมูลภายใน 1 ชั่วโมงว่าเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เรือขาดการติดต่อไป มีเสียงระเบิดจากไฮโดรโฟน (hydrophone) ระบบทรานสปอนเดอร์ (transponder) ขาดหาย การสื่อสารสูญหาย... แค่นั้นผมก็รู้แล้วว่าเรือต้องระเบิดแน่” คาเมรอน กล่าว พร้อมเผยว่าตนเองส่งอีเมลบอกเพื่อนในแวดวงตั้งแต่วันจันทร์ (19) ว่า “เราสูญเสียเพื่อนบางคนไปแล้วนะ มันคงแตกเป็นชิ้นๆ อยู่ที่ก้นทะเลแล้ว”

ผู้โดยสาร 5 คนบนเรือ ประกอบด้วย ฮามิช ฮาร์ดิง มหาเศรษฐีและนักสำรวจชาวอังกฤษ วัย 58 ปี ชาห์ซาดา ดาวูด เจ้าสัวนักธุรกิจที่เกิดในปากีสถานวัย 48 ปี และซูเลมาน ลูกชายวัย 19 ปี ของเขา ซึ่งทั้งคู่เป็นพลเมืองสหราชอาณาจักร พอล-อองรี นาร์เจอเลต นักสมุทรศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเรือไททานิค ชาวฝรั่งเศสวัย 77 ปี ที่ลงไปสำรวจซากเรือมาแล้วหลายสิบครั้ง และสตอคตัน รัช ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ OceanGate ซึ่งเป็นคนขับเรือดำน้ำลำดังกล่าว

คาเมรอน ชี้ว่า มาตรฐานของอุตสาหกรรมยานดำน้ำคือการผลิตโครงสร้างต้านความดัน (pressure hulls) ด้วยวัสดุ contiguous จำพวกเหล็กกล้า ไทเทเนียม เซรามิก หรืออะคริลิก ซึ่งจะให้ผลที่ดีกว่าในการทดสอบ

“เรายกย่องนวัตกรรมกันอยู่แล้ว ถูกไหม? แต่คุณไม่ควรนำยานรุ่นทดลองไปบรรทุกผู้โดยสารที่จ่ายเงิน และไม่ใช่นักวิศวกรรมที่เชี่ยวชาญด้านทะเลลึก” คาเมรอน กล่าว

ผู้กำกับดังรายนี้ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทั้ง “ไททานิค” และ “ไททัน” ล้วนเผชิญจุดจบอันน่าเศร้า หลังจากที่กัปตันผู้ควบคุมเรือไม่ใส่ใจคำเตือน

“มันเกิดขึ้นอีกครั้งในสถานที่เดิม เวลานี้มีซากเรืออีกลำลงไปจมแน่นิ่งอยู่ข้างๆ เรือลำก่อน ด้วยเหตุผลที่ไม่แตกต่างกันเลย”

ที่มา : รอยเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น