รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ผู้ว่าการภูมิภาคเคียร์ซอน ยืนยัน 'มิสไซล์สตอร์ม ชาโดว์' ของยูเครนที่ได้จากอังกฤษเข้าโจมตีเสียหายแต่ไม่มีการสูญเสีย เกิดขึ้นหลังจู่ๆ นักวิทยาศาสตร์รัสเซีย กริกอรี คลินีชอฟ (Grigory Klinishov) หนึ่งในผู้คิดค้นระเบิดความร้อนนิวเคลียร์รัสเซียเมื่อวันพุธ (21 มิ.ย.) ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์กรุงมอสโก เชื่อเป็นการฆ่าตัวตาย ระหว่างที่ผู้นำรัสเซียยังคงยืนยันแผนการหวังที่จะทำให้หัวรบนิวเคลียร์ซาตาน 2 พิสัยข้ามทวีปสามารถเข้าประจำการได้ในอนาคตอันใกล้จากแรงกดดันจากชาติตะวันตก
เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานวันนี้ (22 มิ.ย.) ว่า เซอร์เก อัคสโยนอฟ (Sergey Aksyonov) ผู้ว่าการภูมิภาคเคียร์ซอนที่ได้รับการแต่งตั้งออกมาจากเครมลิน ยืนยันว่าสะพานชอนการ์สกี (Chongarsky) หรือที่รู้จักในนาม สะพานไครเมีย ที่เชื่อมกับแหลมไครเมียกับภูมิภาคเคียร์ซอนได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศของฝ่ายเคียฟ
โดยภาพที่ปรากฏออกมาถึงความเสียหายที่นอกจากพื้นถนนถูกทำลาย ยังพบว่า มิสไซล์สตอร์ม ชาโดว์ (Storm Shadow) ของอังกฤษที่มอบให้เคียฟไว้ใช้สอยยังทำให้พื้นสะพานพังทะลุเป็นช่องโหว่เห็นทะเลอาซอฟที่อยู่เบื้องล่างอย่างถนัดตา
อัคสโยนอฟซึ่งเป็นคนที่ชี้ว่า การโจมตีครั้งนี้ทางเคียฟใช้มิสไซล์อังกฤษโจมตีแล้วยังกล่าวว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญจะทำการศึกษาว่าเมื่อใดที่จะสามารถเปิดใช้การจราจรบนสะพานไครเมียซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สามารถกลับมาใช้งานได้
เดลีเทเลกราฟรายงานว่า ผู้นำยูเครน ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ยอมรับว่า การตีโต้กลับของเคียฟนี้คืบอย่างล่าช้าหลังยึดหมู่บ้านได้ 8 แห่ง และไม่เป็นไปตามความหวัง แต่ชี้ว่า เป็นการรบในสมรภูมิจริงไม่ใช่บนจอภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่มีความหวือหวาท้าทาย
ซึ่งทหารยูเครนที่บาดเจ็บจากสมรภูมิรบจำนวนหลายพันนายเข้ารับการรักษาด้วยเครื่องมือการแพทย์ทันสมัยทั่วยุโรป ตามนโยบายโครงการปกป้องพลเมืองของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งที่เยอรมนีรับตัวไป 800 นาย นับตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม
สื่ออังกฤษยังกล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เจมส์ เคลฟเวอร์ลี (James Cleverly) ยืนยันว่า รัฐบาลลอนดอนสนับสนุนยูเครนในการเข้าเป็นสมาชิกนาโตแบบฟาสต์แทร็ก ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนที่แสดงให้เห็นถึงเสียงที่ออกมาดังเพิ่มมากขึ้นของการเข้าร่วมยูเครน แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการขัดแย้งในเรื่องเงื่อนเวลาการเป็นสมาชิกระหว่างลอนดอนและวอชิงตัน
ขณะที่อีกด้านที่กรุงมอสโก อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานวันนี้ (22) ว่า นักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ชื่อดังของรัสเซีย หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นระเบิดนิวเคลียร์ความร้อน RDS-37 กริกอรี คลินีชอฟ (Grigory Klinishov) ที่ปัจจุบันอยู่ในวัยราว 90 กว่าปี
อ้างอิงจากสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย คลินีชอฟนั้นในวันพุธ (21) ถูกพบเป็นศพในสภาพที่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เกิดขึ้นภายในอพาร์ตเมนต์ของเขาที่กรุงมอสโก และมีการค้นพบจดหมายตกอยู่ข้างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่รัสเซียกำลังอยู่ระหว่างเปิดการสอบสวนในการเสียชีวิตของเขา
ระเบิดนิวเคลียร์ความร้อน RDS-37 ถูกทดสอบครั้งแรกในปี 1955 ในช่วงสมัยสงครามเย็น ซึ่งผลการทดสอบพบว่า คลื่นช็อกเวฟจากระเบิดทำให้กระจกหน้าต่างแตกภายในรัศมีศูนย์กลางการระเบิด 240 กิโลเมตร และทำให้สิ่งปลูกสร้างหลายแห่งเกิดถล่ม รวมไปถึงเด็กชายคนหนึ่งที่อาศัยห่างออกไปราว 75 กิโลเมตร
สื่อกาตาร์รายงานว่า ผู้ตายยังมีส่วนช่วยกองทัพรัสเซียพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์สมัยใหม่รวมไปถึงระเบิดไฮโดรเจนอีกด้วย ซึ่งข่าวการเสียชีวิตของคลิลิชอฟ เกิดขึ้นในวันเดียวกัน (21) ที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ยังคงย้ำถึงการทำให้กองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซียแข็งแกร่ง อ้างอิงจากสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย
โดยผู้นำรัสเซียวางแผนต้องการให้หัวรบขีปนาวุธนิวเคลียร์ ซาร์มาต 2 (Sarmat II) หรือที่รู้จักในชื่อซาตาน 2 ออกมาใช้ในอนาคตอันใกล้ กำหนดการทำให้หัวรบอานุภาพร้ายกาจนี้สามารถเข้าประจำการได้นั้นล่าช้า ซึ่งปูตินเคยออกมาประกาศว่า มีความสามารถมากกว่าหัวรบนิวเคลียร์ปกติถึง 10 เท่า กระทรวงกลาโหมอังกฤษชี้ว่า แต่ทว่าบรรดานายพลรัสเซียยังคงวิตกที่เห็นยูเครนสามารถโจมตีโดยตรงที่ไครเมีย สามารถสร้างการป้องกันใกล้ไครเมียซึ่งเป็นจุดที่รัสเซียยึดครอง