เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ สายเหยี่ยวชื่อดัง กอร์ดอน ชาง ชี้จับตาประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้ดี ชี้มีแผนตารางเวลาแน่ชัดในใจถึงการบุกยึดไต้หวัน ขณะที่อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ สายทรัมป์ ไมค์ พอมเพโอ ตีซ้ำเชื่ออาจล้ำไปไกลกว่าไทเป ลากยาวไปจนถึงดินแดนซับซ้อนกลางทะเลจีนใต้ หมู่เกาะสแปรตลีย์ เป็นต้น หลังฝ่ายค้านไต้หวัน พรรคนิวปาร์ตีแอบไปคุยตัวแทนปักกิ่งต้นเดือนนี้ ยืนกรานถ้าพรรคชนะจะทำให้ไต้หวันกลับมารวมชาติกับจีนแน่นอน
ฟ็อกซ์นิวส์ สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (18 มิ.ย.) ว่า ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันสายเหยี่ยวประจำฟ็อกซ์นิวส์ มีผลงานมากมาย และมีตำแหน่งในภาควิชาประวัติศาสตร์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดชื่อดังของสหรัฐฯ กอร์ดอน ชาง (Gordon Chang) แสดงความเห็นถึงประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ในเวลานี้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กำลังอยู่ในกรุงปักกิ่งสำหรับการเยือนเป็นเวลา 2 วัน เพื่อพยายามเปิดช่องทางการเจรจาสื่อสารระหว่างสหรัฐฯ และจีน
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟ็อกซ์นิวส์เน็ตเวิร์กของมหาเศรษฐี รูเพิร์ต เมอร์ด็อกซ์ โจมตีประธานาธิบดีสหรัฐฯ พรรคเดโมแครต โจ ไบเดน ที่ล่าสุดออกมาชี้ว่า เหตุการณ์บอลลูนสอดแนมจีนที่ล้ำน่านฟ้าอเมริกาไปจนถึงเขตมิดเวสต์นี้ ไบเดนกล่าวว่า เป็นการทำให้ปักกิ่งต้องอับอายมากกว่าเป็น “ความตั้งใจ”
ชางซึ่งเข้าร่วมในวงสนทนาในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นชี้ว่า ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เป็นคนที่จริงจังและชี้ไปว่า เขาได้พูดชี้ว่า “จีน” ใน “ยุคใหม่” ที่เป็นคำที่ผู้นำจีนใช้ในช่วงเวลาที่เขาปกครองจีน
“(นี่หมายความว่า) เขาได้กำหนดระยะเวลาสำหรับการผนวกไต้หวันไว้แล้ว และนี่ถือเป็นสิ่งที่อันตรายมาก”
ชางซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิจัยประจำสถาบันเกตสโตน (Gatestone) และเจ้าของผลงาน “การล่มสลายที่กำลังจะมาถึงของจีน” หรือ The Coming Collapse of China ยืนยันว่า ในสายตาของประธานาธิบดีจีน เขาเชื่อว่าไต้หวันเป็นของจีนเสมอ ซึ่งชางกล่าวว่าสิ่งนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ ที่ได้ประกาศยึดมั่นในการปกป้องอธิปไตยของไต้หวัน
ขณะเดียวกัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ พอมเพโอ ยังได้ออกมาเตือนถึงความทะเยอทะยานทางการเมืองที่ล้ำไปกว่านั้น
“ประธานาธิบดีสีกำลังเล่นไพ่ในมือของเขา...เขาแสดงความตั้งใจอย่างเด่นชัดว่าจากคำพูดของเขาว่า “รวมจีน” นี่หมายความถึงการนำไต้หวันที่ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจีนเข้าไปสู่วงโคจรทางการเมืองของเขา”
โดยใน Fox Nation special พอมเพโอยังได้บรรยายไปถึงความรู้สึกที่เขาพบผู้นำจีนระหว่างการดำรงตำแหน่งสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ชี้ว่า “สี จิ้นผิง” เป็นคนเย็นชาและห่างเหินที่ไม่แค่แสดงจุดยืนถึงการเป็นปฏิปักษ์กับโลกตะวันตกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแผนการของสีที่จะรุกไปไกลพ้นเกินกว่าแค่ดินแดนไต้หวัน
“เขาต้องการทำให้พวกเรารู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรที่พวกเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวภายในพื้นที่ของเขา” อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว และแสดงความเห็นว่า “มันเป็นสิ่งชัดเจนว่า พื้นที่ของเขาไม่ใช่แค่อยู่เฉพาะภายในประเทศของตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่แค่ในซินเจียง มันอยู่ในทะเลจีนใต้ มันอยู่ในไต้หวัน มันอยู่ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ (พื้นที่ทับซ้อนที่ในทะเลจีนใต้) มันอยู่ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในแอฟริกา และทั่วโลก...”
พอมเพโอ กล่าวต่อว่า “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงมีวิสัยทัศน์นี้ในการควบคุมจีนที่มันลึกไปกว่าและยังกว้างขวางกว่าตามการเข้าใจของอดีตผู้นำจีนคนก่อนๆ หน้าเขา”
คำพูดของชาง และพอมเพโอในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ สะท้อนไปถึงแผนการเดินหน้าผนวกดินแดนไต้หวันของปักกิ่ง ซึ่งนอกจากอดีตประธานาธิบดีไต้หวัน หม่า อิงจิ่ว กลายเป็นผู้นำไทเปเพียงคนเดียวที่เดินทางข้ามช่องแคบไต้หวันเข้าไปเยือนจีนเมื่อวันที่ 28 มี.ค.
ทั้งนี้ การรายงานของสื่อทางการจีน ซินหัวเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา หวู เฉิงเตียน (Wu Cheng-tien) ประธานพรรคนิวปาร์ตีของไต้หวันซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านเข้าพบกับ หวัง หูหนิง (Wang Huning) คณะกรรมการแห่งชาติองการประชุมที่ปรึกษาทางการเมืองจีน (Political Consultative Conference) ได้พบหารือกันที่กรุงปักกิ่ง โดยเข้าหารือถึงแผนการของทางพรรคที่ชี้ไปว่า พรรคจะยอมให้ไต้หวันผนวกดินแดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจีนหากพรรคชนะการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
โดยหวังกล่าวว่า “การเป็นเอกราชของไต้หวันถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่จะนำหายนะมาสู่ประชาชนไต้หวันและจะไม่นำไปสู่สิ่งใด”
ซินหัวรายงานว่า เขากล่าวว่า นโยบายการรวมไต้หวันอย่างสันติ และ “1 ประเทศ 2 ระบบ” นั้นเป็นหนทางดีที่สุดในการยอมรับต่อการรวมชาติข้ามช่องแคบไต้หวัน ซึ่งมันถือเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่สุดต่อทั้งชาวจีนของทั้ง 2 ฟากฝั่ง และต่อจีนทั้งชาติ
ทั้งนี้ นิกเกอิเอเชียรายงานวันศุกร์ (16) ว่า ผลโพลสำรวจล่าสุดเป็นที่น่าประหลาดใจที่ไม่ต่างจากพลังสีส้มของพรรคก้าวไกลในไทยเพราะพรรคประชาชนไต้หวัน (Taiwan People's Party) ตั้งขึ้นเมื่อปี 2019 โดยอดีตนายกเทศมนตรีไทเป โก เหวิน-เจ๋อ (Ko Wen-je) ผงาดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ที่ 22.2% เขี่ยก๊กมินตั๋งซึ่งครองอำนาจมาตั้งแต่ไต้หวันประกาศเอกราชจากจีนในสมัยของอดีตประธานาธิบดีไต้หวัน เจียง ไคเช็ก
ซึ่งพรรคก๊กมินตั๋งได้ไปเป็นอันดับ 3 ที่ 20.4% ส่วนพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของประธานาธิบดีไต้หวันคนปัจจุบัน ไช่ อิงเหวิน ได้ไปในลำดับ 1 ที่ 24.6%
นิกเกอิเอเชียชี้ว่า ผลโพลนี้แสดงว่าประชาชนไต้หวันที่หันมาให้ความสนับสนุนพรรคทางเลือกที่ 3 เช่น พรรคของโก เป็นเพราะเบื่อหน่ายกับ 2 ขั้วอำนาจระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งที่โปรปักกิ่ง และพรรครัฐบาลไต้หวันปัจจุบันที่นำนโยบายสุดโต่งเป็นปฏิปักษ์กับปักกิ่ง สื่อญี่ปุ่นชี้ว่า พรรคประชาชนไต้หวันออกนโยบายสายกลาง ซึ่งโกผู้นำพรรคมีแผนจะลงรับสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในมกราคมปี 2024