เอเจนซีส์ - กลายเป็นคนสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซียเกิดความตึงเครียด ล่าสุด ตำรวจแดนเสือเหลืองยืนยันว่าจะส่งเรื่องขอให้ตำรวจสากลช่วยติดตามตัว โจเซลีน เจี่ย (Jocelyn Chia) ซึ่งเกิดในสหรัฐฯ แต่เติบโตขึ้นที่สิงคโปร์ เพื่อนำตัวมาลงโทษดำเนินคดี หลังเล่าตลกจนเกิดเรื่องระหว่างการแสดงในนิวยอร์ก ล้อโศกนาฏกรรมเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส์ที่สูญหายเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 ระหว่างบินจากท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ประเทศจีน
หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สของสิงคโปร์รายงานวันนี้ (14 มิ.ย.) ว่า จเรตำรวจมาเลเซีย อาคริล ซานี อับดุลลาห์ ซานี (Acryl Sani Abdullah Sani) ตามการรายงานของสำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียกล่าวในวันอังคาร (13) ว่า จะมีการยื่นเรื่องในวันพุธ (14) ต่อสำนักงานตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพลที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฝรั่งเศสให้ออกติดตามหาตัวศิลปินเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง โจเซลีน เจี่ย (Jocelyn Chia) เพื่อต้องการทราบข้อมูลของเธอ และติดตามหาที่อยู่ครั้งสุดท้ายของเธอให้มาดำเนินคดีที่ในมาเลเซียต่อไป
เจี่ยซึ่งเกิดในสหรัฐฯ และยังคงถือสัญชาติสหรัฐฯ แต่เติบโตในสิงคโปร์ ในเวลานี้กำลังถูกตำรวจมาเลเซียสอบสวนในคดีล้อโศกนาฏกรรมเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส์ที่สูญหายเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 ระหว่างบินจากท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ประเทศจีน
โดยในระหว่างการแสดงที่คลับในนิวยอร์กและมีการนำคลิปการแสดงโพสต์ขึ้นทางเว็บไซต์สัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้มาเลเซียต้องออกมาประท้วงและสิงคโปร์ต้องออกมาแสดงการขอโทษ บีบีซี สื่ออังกฤษรายงาน
ทั้งนี้ อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของเธอระบุว่า เป็นนักกฎหมายที่ผันตัวไปเพื่อทำงานด้านโชว์บิซเดี่ยวไมโครโฟนที่มีฐานอยู่ในนิวยอร์ก และมีผลงานปรากฏหน้าสื่อชื่อดังระดับโลกทั้ง CNBC ของสหรัฐฯ และหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกง และรวมถึง Comedy Central โชว์บิซชื่อดังในอเมริกา เป็นต้น
สเตรทไทม์สของสิงคโปร์กล่าวว่า ในคลิปยาว 89 วินาที บนอินสตาแกรม ที่มีเนื้อหาล้อเลียนความแตกต่างระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซีย ที่ลามไปถึงชะตากรรมของเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส์
โดยเธอกล่าวว่า ประเทศของเธอสิงคโปร์หลังจากที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ พวกเราเป็นชาติเล็กๆ ที่ยากลำบาก แต่เพื่อที่จะทำให้อยู่รอด พวกเราร่วมกันกับชาติที่ใหญ่กว่าและมีอำนาจมากกว่าคือ “มาเลเซีย”
และเสริมต่อว่า แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ประกาศผ่านทางโทรทัศน์ว่า มาเลเซียได้ทิ้งสิงคโปร์ไป และเขาร้องไห้เพราะคิดไปว่าสิงคโปร์คงจะไม่รอดหากปราศจากแดนเสือเหลือง
เจี่ยที่ยังคงเป็นพลเมืองสหรัฐฯ กล่าวต่อว่า “แต่ทว่าในอีก 40 ปีให้หลัง พวกเรากลายเป็นประเทศโลกที่ 1 ไป”
“และพวกคุณล่ะ? มาเลเซีย สิ่งที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้? ยังคงเป็นชาติที่กำลังพัฒนา”
ในวิดีโอคลิปเธอชี้ไปว่า มาเลเซียพยายามที่จะหวนมาหาสิงคโปร์อีกครั้งหลังสิงคโปร์มีระบบเศรษฐกิจที่ดี แต่เธอตั้งคำถามสะท้านใจที่ว่า เหตุใดจึงไม่หวนมาเมื่อ 40 ปีก่อนหน้า
ในคลิปที่กลายเป็นประเด็นพาดพิงข้ามชาติ เจี่ยกล่าวว่า “และมาเลเซียก็แบบว่า “ใช่ก็ฉันพยายามไง..แต่คุณรู้ไหมว่าเครื่องบินของฉันมันบินไม่ได้” เธอกล่าวกลางเวทีพร้อมกับหัวเราะ ท่ามกลางความตกตะลึงจากผู้ชม
นักเดี่ยวไมโครโฟนหญิงชื่อดังกล่าวต่อว่า “ทำไมหรือ ทำไมเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สหายไปถึงไม่ขำ ทำไมหรือ? บางทีตลกบางมุกก็แป้กไม่ขำ”
สเตรทไทม์สรายงานว่า โจเซลีน เจี่ย ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้กับ CNN สื่อสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (11) ว่า เธอยืนยันอยู่ข้างเนื้อหาการแสดงของเธอ และชี้ว่าเนื้อหามีความเหมาะสมเพราะเป็นการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนภายในคลับ นอกจากนี้ ยังชี้ว่าเป็นอันตรายที่ตีความออกนอกเนื้อหาของการแสดงในคลับมากเกินไปจากคลิปที่โพสต์
เธอกล่าวต่อว่า เธอขึ้นแสดงประจำไม่ต่ำกว่า 100 ครั้งมาเป็นเวลา 1 ปีครึ่งโดยที่ไม่มีปัญหาใดๆ