ประธานาธิบดี ยุน ซุกยอล แห่งเกาหลีใต้ประกาศวันนี้ (6 มิ.ย.) ว่าตนได้ยกระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ สู่การเป็นพันธมิตรบนพื้นฐานนิวเคลียร์ (nuclear-based) เพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรง
ผู้นำเกาหลีใต้อ้างถึงเมื่อครั้งที่ตนได้หารือร่วมกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เมื่อเดือน เม.ย. ซึ่งตอนนั้นวอชิงตันรับปากจะแชร์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแผนการด้านนิวเคลียร์ให้เกาหลีใต้รับทราบ ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งรุนแรงกับเกาหลีเหนือ
“เกาหลีเหนือมีการเสริมศักยภาพด้านขีปนาวุธและนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง และทำให้การใช้อาวุธนิวเคลียร์เป็นเรื่องถูกกฎหมาย” ยุน กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันแห่งความทรงจำ (Memorial Day) 6 มิ.ย. ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารและพลเรือนที่ได้สละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศ
ระหว่างการประชุมซัมมิตที่วอชิงตัน ผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีใต้เห็นพ้องที่จะยกระดับขีดความสามารถในการขยายการป้องปรามของสหรัฐฯ ( U.S. Extended Deterrence) ซึ่งอาจหมายถึงการที่วอชิงตันจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อช่วยป้องกันเกาหลีใต้
“ความเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้ถูกยกระดับสู่การเป็นพันธมิตรบนพื้นฐานนิวเคลียร์แล้ว” ยุน ระบุ
แม้ ยุน จะพยายามสื่อในทำนองว่าตนและ ไบเดน บรรลุข้อตกลงให้สหรัฐฯ นำอาวุธนิวเคลียร์เข้ามาใช้ได้ในกรณีที่โสมแดงลงมือโจมตีโซล ทว่าตัวผู้นำสหรัฐฯ เองยังคงให้คำมั่นว่าจะ “พยายามปรึกษาหารือ” กับพันธมิตรทุกชาติเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์
ผู้นำเกาหลีใต้ไม่ได้ให้รายละเอียดลึกลงไปกว่านี้ และสุนทรพจน์ในช่วงที่เหลือก็เป็นการสดุดีทหารและพลเรือนที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ
เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในปีนี้ และสัปดาห์ที่แล้วก็พยายามที่จะส่ง “ดาวเทียมสอดแนม” ดวงแรกขึ้นสู่วงโคจร ทว่าจรวดทำงานล้มเหลวและร่วงตกลงสู่ทะเล
กองทัพเกาหลีใต้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ซากจรวดและดาวเทียมที่เกาหลีเหนือยิงเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ในน่านน้ำฝั่งตะวันตกของประเทศ โดยคาดว่าชิ้นส่วนเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญของเกาหลีใต้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือ
ที่มา: รอยเตอร์