เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - วุฒิสภาสหรัฐฯ วานนี้ (1 มิ.ย.) ลงมติ 63-36 ผ่านมติขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่รู้จักในชื่อกฎหมาย “The Fiscal Responsibility Act" เพื่อป้องกันอเมริการอดพ้นผิดนัดชำระหนี้ได้ทันก่อนที่จะยื่นต่อให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้ ท่ามกลางข่าวทีวีในประเทศรายงานทั่ว ห้างยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ทั้งห้าง Macy’s และห้าง Costco ออกคำเตือนเศรษฐกิจอเมริกายังคงสีแดง ผู้บริโภคประหยัดจ่ายเฉพาะที่จำเป็น และซื้อช้าลง
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (2 มิ.ย.) ว่า สภาสูงสหรัฐฯ คืนวันพฤหัสบดี (1) ได้ออกเสียงลงมติ 63-36 มีมติอนุมติกฎหมาย The Fiscal Responsibility Act ซึ่งเป็นการอนุมัติให้สามารถขยายเพดานหนี้สาธารณะของอเมริกาได้
ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่มีข่าวพลาดลื่นล้มจนหัวคะมำสะดุดถุงทรายที่ขั้นบันไดระหว่างกำลังลงจากเวทีมอบประกาศนียบัตรในพิธีสำเร็จการศึกษาวิทยาลัยกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่รัฐโคโลราโด และสร้างความวิตกให้ฐานเสียงของเขาว่า อาจไม่มีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะเป็นผู้นำต่อในสมัย 2 ได้เคยประกาศก่อนหน้าว่า เขาพร้อมที่จะลงนามเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายเพื่อให้สหรัฐฯ สามารถเลี่ยงพ้นการผิดนัดชำระหนี้ของตัวเองจำนวน 31.5 ล้านล้านดอลลาร์
NBC News สื่ออธิบายว่า การขยายเพดานหนี้นั้นไม่ใช่เป็นการอนุมัติงบประมาณใช้จ่ายใหม่ แต่จะเป็นการทำให้สหรัฐฯ สามารถจ่ายหนี้ปัจจุบันที่มีอยู่ ที่ทั้ง 2 พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างพากันเพิ่มในความต้องการที่สูงขึ้นผ่านงบประมาณทั้งในประเทศ และงบประมาณการป้องกันประเทศ รวมไปถึงมาตรการลดภาษี
ซึ่งหากไบเดน ที่เป็นตัวกลางเจรจาทำให้ดีลขยายเพดานหนี้สามารถผ่านฉลุยไปได้นี้ลงนามบังคับใช้ กฎหมายขยายเพดานหนี้ จะจำกัดเพดานงบประมาณการใช้จ่ายเป็นเวลานาน 2 ปี พร้อมไปกับการตัดลดในระดับต่ำสุดสำหรับการใช้จ่ายในด้านที่ไม่ใช่ทางการทหาร และการเพิ่มต่ำสุดของงบประมาณทางการทหาร
ซึ่งรวมไปถึงมาตรการอนุรักษนิยมที่เรียกคืนเงิน 28 พันล้านดอลลาร์ในงบฟื้นฟูวิกฤตโควิด-19 ที่ไม่ได้ใช้กลับมา ตัดงบ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ของสำนักงานสรรพากรสหรัฐฯ IRS และยกเครื่องกระบวนการอนุมัติสำหรับโปรเจกต์พลังงาน เป็นต้น
ซึ่งตามข้อตกลงระหว่างไบเดน และประธานสภาสหรัฐฯ เควิน แมคคาร์ธี พบว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางสวัสดิการสังคม ประกันสุขภาพทั้ง Medicare หรือ Medicaid.
นอกจากนี้ การลงนามขยายเพดานหนี้จะทำให้ชาวอเมริกันทั้งหลายที่ยังจ่ายเงินกู้เพื่อการศึกษาไม่หมด และหยุดไปช่วยวิกฤตโควิด-19 จะต้องกลับมาจ่ายอีกครั้ง ถือเป็นความพ่ายแพ้เล็กๆ ของไบเดน ที่ต้องการหาเสียงในกลุ่มชาวอเมริกันคนรุ่นใหม่และในกลุ่มคนทำงานที่ต้องจ่ายหนี้เพื่อการศึกษาซึ่งถือเป็นเงินกู้ก้อนใหญ่ในชีวิตไม่แพ้เงินกู้ซื้อบ้านทีเดียว
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานว่า ในทางกลับกันหากว่า สหรัฐฯ ไม่สามารถผ่าทางตันขยายเพดานหนี้สำเร็จ และอเมริกาเกิดผิดนัดชำระหนี้ขึ้นมาจริง จะทำให้รัฐบาลวอชิงตันโดนจำกัดในความสามารถการกู้เงินหรือจ่ายชำระคืนหนี้ทั้งหมด และจะเป็นหายนะคุกคามลามไปต่างประเทศ กระทบต่ออัตราเงินกู้ประเทศอื่นๆ
สื่ออังกฤษชี้ว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าในบรรดาพรรคเดโมแครตที่ออกเสียงคัดค้านมติขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ในคืนวันพฤหัสบดี (1) นั้นมี ส.ว.คนดังจากสายโปรเกรสซีฟ เป็นต้นว่า ส.ว.เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส ส.ว.อลิซาเบธ วอร์เรน และ ส.ว.จอห์น เฟตเตอร์แมน (John Fetterman) รวมอยู่ด้วย โดยแซนเดอร์ส ออกมาให้เหตุผลคัดค้านว่า เป็นเพราะหากสนับสนุนจะเป็นการตัดลดสวัสดิการสำหรับกลุ่มคนผู้สูงอายุหรือกลุ่มที่เปราะบาง
ซึ่งในการโหวตพบว่า ส.ว.ไดแอน ไฟน์สไตน์ (Dianne Feinstein) อายุ 89 ปี ที่มีปัญหาสุขภาพรุมเร้า และถูกเพื่อนร่วมพรรคเดโมแครตบังคับให้เกษียณอายุตามอดีตประธานสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ปรากฏตัวในรถเข็นเพื่อร่วมโหวตในวันพฤหัสบดี (1) อ้างอิงจากภาพข่าวเอพี
สถานการณ์เศรษฐกิจอเมริกายังคงเป็นสีแดงในสายตาของห้างค้ายักษ์ใหญ่สหรัฐฯ CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (1) ว่า ทั้งห้าง Macy’s และห้าง Costco ซึ่งเป็นต้นแบบของห้างสมัครสมาชิกขายของยกโหล Tops CLUB ในไทยออกมาเตือนว่า ผู้บริโภคอเมริกันลดการใช้จ่ายและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เป็นต้นว่า เลิกซื้อเนื้อวัวเพื่อทำอาหาร เช่น สเต๊กจานโปรด หันไปหาไก่สดแทนเพื่อประหยัด
ผู้บริโภคอเมริกันที่มีรายได้น้อยนั้นเลือกที่จะลดค่าใช้จ่ายและซื้อช้าลง ซึ่งเป็นที่น่าตกใจเพราะพบว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ห้าง Dollar Tree ที่จำหน่ายคล้ายกับร้านไดโซะของญี่ปุ่นได้ตัดลดตัวเลขการคาดการณ์ประจำปีลง โดยกล่าวว่าพบว่าผู้บริโภคซื้อของพื้นฐานที่จำเป็นเท่านั้น และลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีห้างร้านใดในสหรัฐฯ เวลานี้ที่อยู่ในสถานการณ์ลำบาก
และในทางตรงข้าม พบว่า มีบางห้างกลับได้อานิสงส์จากการที่ผู้บริโภคหันไปซื้ออาหารและสิ่งของพื้นฐานมากขึ้น เป็นต้นว่า ห้างวอลมาร์ท ท่ามกลางวิกฤตห้างร้านทั้งเล็กและใหญ่เจอวิกฤตอาชญากรรมพุ่งสูงและหนักข้อมากขึ้น แก๊งอาชญากรสวมโม่งบุกปล้นร้านค้าขนสินค้าราคาแพงชิ้นใหญ่ออกไปเป็นจำนวนมากในครั้งเดียว เป็นต้นว่า เครื่องมือต่างๆ ในร้านก่อสร้าง หลังแต่เดิมเคยเห็นโจรตัวเล็กๆ ปล้นร้านขายยา หรือเข้ากวาดไอโฟนก่อนหน้า