รอยเตอร์/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - องค์การบริหารอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ NASA จัดประชุมสาธารณะครั้งแรกเรื่อง UFO วันพุธ (31 พ.ค.) หลังศึกษาร่วม 800 ปรากฏการณ์ก่อนที่จะเผยแพร่รายงานในกรกฎาคม แต่ทว่ามีจำนวนแค่เสี้ยวเดียวที่สามารถอธิบายได้ ไม่นานก่อนหน้าหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงกองทัพสหรัฐฯ ยืนยัน อเมริกาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพร้อมสำหรับการสู้ในอวกาศนอกโลกหากจำเป็นหลังเจอความก้าวร้าวจากรัสเซีย และความทะเยอทะยานครอบครองอวกาศของจีน
รอยเตอร์รายงานวานนี้ (31 พ.ค.) ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญ NASA ด้านปรากฏการณ์ UFO จำนวน 16 คน เปิดการประชุมสาธารณะเป็นครั้งแรกในวันพุธ (31 พ.ค.) หลังทำการศึกษามานานร่วม 1 ปี
คณะศึกษา UFO ก่อตั้งเมื่อปี 2022 ที่เป็นการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาตั้งแต่ด้านฟิสิกส์ ไปจนถึงด้านชีวอวกาศ (astrobiology) ซึ่งในคณะยังมีชื่ออดีตนักบินอวกาศสหรัฐฯ คนดัง สกอตต์ เคลลี (Scott Kelly) ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในอวกาศนานร่วมเกือบ 1 ปี
เป็นประชุมนาน 4 ชั่วโมง สตรีมไลฟ์สดผ่านเว็บไซต์นาซ่าเพื่อต้องการเปิดเผยการค้นพบที่มีการศึกษาจำนวน 800 ปรากฏการณ์ก่อนเผยแพร่รายงานฉบับจริงในกรกฎาคมที่จะถึงนี้
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นชาติที่เอาจริงเอาจังทั้งในด้านตามหา UFO และการสู้รบในอวกาศ แต่กลับพบว่าผู้เชี่ยวชาญประจำคณะจำนวนไม่กี่คนกลับถูกบูลลีออนไลน์ และการคุกคามต่างๆ นับตั้งแต่เริ่มต้นการทำงานเมื่อมิถุนายนปีที่ผ่านมา รอยเตอร์ชี้
ซึ่งการศึกษาในเรื่อง UFO หรือปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติยังถือเป็นสิ่งที่ยังเป็นที่น่าสงสัยไปจนถึงถึงขั้นไร้สาระ แต่ทว่าเมื่อไม่กี่ปีมานี้เพนตากอนออกมาสนับสนุนให้นักบินของกองทัพบันทึกปรากฏการณ์คล้าย UFO แต่ทว่านักบินเครื่องบินพาณิชย์จำนวนมากยังคงวิตกและลังเลใจที่จะรายงาน ประธานคณะการศึกษา เดวิด สเปอร์เกล (David Spergel) กล่าว
นอกเหนือจากคณะการศึกษาของ NASA พบว่าเพนตากอนเองได้ตั้งทีมพิเศษเพื่อทำการศึกษาปรากฏการณ์ UFO แยกต่างหากด้วยเช่นกัน
สกายนิวส์ของอังกฤษกล่าวว่า คณะผู้เชี่ยวชาญต้องการศึกษาข้อมูลลับที่ไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวข้องกับ UAP และต้องการความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นต่อปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเหล่านี้ สเปอร์เกลชี้ต่อ
อ้างอิงจากบีบีซี สื่ออังกฤษ พบว่า UAP นั้นเป็นคำศัพท์ที่ทาง NASA เป็นผู้ตั้งขึ้นในการศึกษาการสังเกตปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่ไม่สามารถอธิบายได้จากในแง่เชิงวิทยาศาสตร์โดยเป็นการเลี่ยงที่จะกล่าวเป็นการศึกษาในเรื่อง UFO
แต่อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งแรกไม่พบปรากฏรวมถึงข้อมูลทางการทหารสหรัฐฯ ที่เป็นความลับ หรือข้อมูลลับเกี่ยวข้องกับบอลูนสอดแนมจีนปรากฏรวมอยู่ด้วย
ระหว่างการประชุมเปิดสาธารณะทางออนไลน์ คณะผู้เชี่ยวชาญได้รับคำถามมากมาย หนึ่งในนั้นมีคำถามว่า "ทาง NASA จะทำเช่นใดหากเกิดค้นพบสิ่งมีชีวิตนอกโลก" ดร.เดวิด กรินสปุน (Dr.David Grinspoon) ผู้เชี่ยวชาญสิ่งมีชีวิตนอกโลกแถลงว่า ทาง NASA จะรีบเปิดเผยข้อมูลให้รู้
พร้อมกันนี้ กรินสปุนยังเปิดเผยไปถึงเมื่อปี 1986 เมื่อครั้งที่นักวิทยาศาสตร์ของ NASA เชื่อว่าพวกเขาค้นพบสัญญาณของสิ่งมีชีวิตจากดาวอังคารได้จากอุกกาบาต
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานอย่างหนักแน่นในรายงาน UFO ที่มีความเกี่ยวพันกับมนุษย์ต่างดาวหรือสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่ทว่า แดเนียล อีวานส์ (Daniel Evans) ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการด้านการวิจัยของ NASA ยืนยันในรายงานของ NBC News ว่า ทาง NASA จะไม่ตัดประเด็นสิ่งมีชีวิตนอกโลกออกไป และการประชุมผู้เชี่ยวชาญ UFO ครั้งแรกนี้มีเป้าหมายด้านความมั่นคงสหรัฐฯ ในวงกว้างเท่านั้น
การประชุมเรื่อง UFO ของ NASA ครั้งแรกเกิดขึ้นหลังในเจ้าหน้าที่ระดับสูงกองทัพสหรัฐฯ ออกมาแสดงความเห็นต่อความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะสู้รบในอวกาศกับรัสเซียและจีน
ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานในวันจันทร์ (29)ว่า พลจัตวาเจสซี มอร์เฮาส์ (Jesse Morehouse) ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์ การวางแผน และนโยบาย ประจำกองบัญชาการอวกาศสหรัฐฯ (US Space Command) ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1985 อยู่ในกรุงลอนดอน อังกฤษ สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหารือถึงความหารือกับกองบัญชาการอวกาศอังกฤษ (UK Space Command) ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2021 ถึงความสามารถในการร่วมมือกันทางอวกาศระหว่าง 2 ชาติในการประชุมชื่อ "ซัมมิตปฏิบัติการอวกาศปี 2023" (Space Operations Summit 2023)
มอร์เฮาส์ได้กล่าวในการแถลงสรุปที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงลอนดอนยืนยันแสดงเจตนารมณ์ว่า “อเมริกาพร้อมที่จะรบคืนนี้ในอวกาศหากพวกเราจำเป็นต้องทำ”
โดยเขากล่าวว่า “หากมีใครคุกคามสหรัฐฯ หรือผลประโยชน์ของพวกเรา รวมไปถึงของชาติพันธมิตรของพวกเราหรือหุ้นส่วนของเราที่มีสัญญาของการสนับสนุนด้านความมั่นคงร่วมกัน พวกเราพร้อมที่จะสู้คืนนี้”
ทั้งนี้ อ้างอิงจากสื่อสเปซนิวส์ กองบัญชาการอวกาศสหรัฐฯ นั้นมีความแตกต่างจากกองกำลังอวกาศสหรัฐฯ (US Space Force) ที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2019
โดยกองบัญชาการเป้าหมายเพื่อปกป้องมาตุภูมิสหรัฐฯ จากการโจมตีมิสไซล์ และทำหน้าที่เตือนภัยการโจมตีจากมิสไซล์ และรวมไปถึงภารกิจทางอากาศในฐานะกองบัญชาการ ขณะที่กองกำลังอวกาศสหรัฐฯ นั้นมีลักษณะคล้ายกับกองกำลังทหารมีหน้าที่ให้การสนับสนุนกองบัญชาการอวกาศสหรัฐฯ
ทั้งนี้ มีรายงานว่ากองกำลังอวกาศสหรัฐฯ มีแผนเตรียมที่จะทำการฝึกซ้อม การสู้รบระดับวงโคจร เป็นครั้งแรกในฤดูร้อนนี้ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ Red Skies อ้างอิงจาก breakingdefense
การแสดงความเห็นของมอร์เฮาส์ในวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ค.นั้นเกิดขึ้นท่ามกลางชาติทั้งหลายที่เป็นอริกับสหรัฐฯ ทั้ง "รัสเซีย" และ "จีน" แสดงความสามารถในการสอดแนมจารกรรมลับและทำลายดาวเทียมชาติอื่น เป็นต้นว่า การยิงมิสไซล์จากภาคพื้นเพื่อทำลายดาวเทียม
นอกจากนี้ นายพลสหรัฐฯ ยังเตือนว่า ยานอวกาศรัสเซียและจีนมีความสามารถในการทำลายดาวเทียมชาติอื่นด้วยอาวุธเลเซอร์และการแจมสัญญาณ เกิดขึ้นท่ามกลางความสำเร็จของจีนที่ในวันอังคาร (30 พ.ค.) ประสบความสำเร็จสามารถส่ง 3 นักบินอวกาศพลเรือนขึ้นสู่สถานีอวกาศเทียนกงที่กำลังโคจรเหนือโลก และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เกาหลีเหนือพยายามจะส่งดาวเทียมสอดแนมทางการทหารขึ้นสู่วงโคจรแต่ล้มเหลว ซึ่งเปียงยางชี้ว่า มีเป้าหมายเพื่อสอดแนมความเคลื่อนไหวทางการทหารของสหรัฐฯ