ราคาน้ำมันขยับลงต่อเนื่องในวันพุธ (31 พ.ค.) จากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่ก่อความกังวลทางอุปสงค์ ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ ตัวเลขเปิดรับสมัครงานที่เพิ่มขึ้นผิดคาดในสหรัฐฯ สร้างความวิตกว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบ ขณะที่ทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 88 เซนต์ ปิดที่ 72.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันดิ่งลงหลังจากจีนเผยแพร่ข้อมูลพบกิจกรรมการผลิตหดตัวมากกว่าที่คาดหมายไว้ในเดือนพฤษภาคม โดยอุปสงค์ที่อ่อนแอทำให้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลงสู่ 48.8 จุด จากระดับ 49.2 จุดในเดือนเมษายน สวนทางกับที่คาดหมายว่าน่าจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 49.9 จุด
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกฉุดจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังดอลลาร์ที่ได้แรงหนุนจากเงินเฟ้อที่เบาลงในยุโรปและความคืบหน้าของร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งจะเข้าสู่การอภิปรายของสภาผู้แทนราษฎรอเมริกาเร็วๆ นี้
ครั้งที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งคาดหมายว่าจะมีการอภิปรายยืดยาวจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ ก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 5 มิถุนายน
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้ราคาน้ำมันที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินสหรัฐฯ มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (31 พ.ค.) ปิดในแดนลบ จับตาข้อตกลงขายเพดานหนี้ที่มุ่งหน้าเข้าสู่การลงมติที่สำคัญของสภาคองเกรส ในขณะที่ข้อมูลภาคแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาดหมายก่อความกังลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมิถุนายน
ดาวโจนส์ ลดลง 134.51 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 32,908.27 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 25.69 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,179.83 จุด แนสแดค ลดลง 82.14 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,935.29 จุด
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ คาดหมายว่าจะโหวตในช่วงเย็นวันพุธ (31 พ.ค.) เห็นชอบข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้จากระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนส่งต่อไปยังวุฒิสภา ก้าวย่างสำคัญที่จะหลีกเลี่ยงภาวะผิดนัดชำระหนี้ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า หากมันไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นผิดคาดในเดือนเมษายน สะท้อนว่าตลาดแรงงานยังคงเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ปรับเพิ่มตัวเลขการเปิดรับสมัครงานในเดือนมีนาคม สู่ระดับ 9.75 ล้านตำแหน่ง จากเดิมรายงานที่ระดับ 9.59 ล้านตำแหน่ง
นักวิเคราะห์ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขการเปิดรับสมัครงานท่ามกลางภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน เป็นปัจจัยหนุนการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ เนื่องจากพนักงานจะมีอำนาจต่อรองในการขอขึ้นค่าแรงต่อนายจ้าง ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
จากข้อมูลดังกล่าว พวกนักลงทุนมองว่ามีโอกาสถึง 70% ที่การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ลดลงสู่ระดับราวๆ 32% จากความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วน ซึ่งมีความโน้มเอียงไปในทิศทางเรียกร้องอย่างแข็งกร้าวให้หยุดปรับขึ้นดอกเบี้ย
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (31 พ.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลง จากข้อตกลงขยายเพดานหนี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,982.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)