ภาพอันน่าเศร้าใจในอินโดนีเซีย เด็กชายวัย 16 ปีรายหนึ่ง ต้องอดทนเดินไปกลับโรงเรียนเป็นระยะทางรวมวันละ 16 กิโลเมตร เหตุเพราะไม่มีเงินจ่ายค่ารถ เนื่องจากผู้เป็นพ่อซึ่งรับหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัวล้มป่วยหนัก ไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า วิคกี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในเมืองตันเกอรังใต้ ของอินโดนีเซีย ต้องเดินเท้าไปกลับโรงเรียนที่อยู่ห่างจากบ้านราว 8 กิโลเมตรทุกๆ วัน เนื่องจากทางครอบครัวไม่มีเงินสำหรับค่ารถ และเด็กรายนี้เล่าว่าเมื่อเร็วๆ นี้ เขาถึงขั้นเกือบเป็นลมกลางทาง ประสบการณ์ที่น่าเห็นใจเป็นอย่างมาก
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า วิคกี ศึกษาที่อยู่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในเขตโบจงสารี ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเขา 8 กิโลเมตร นั่นหมายความว่าเขาต้องเดินไปกลับระหว่างบ้านกับโรงเรียนเป็นระยะทางรวม 16 กิโลเมตรในแต่ละวัน ใช้เวลาไปกลับมากกว่า 3 ชั่งโมง และแม้เส้นทางที่มุ่งสู่การเรียนจะอยู่ห่างไกล แต่เขาไม่เคยขาดเรียนเลย และเขากิจวิตรประจำวันของเขาเป็นมาเช่นนี้กว่า 2 ปีแล้ว ยกเว้นวันหยุด
Seorang siswa SMA, Viky ditemukan hampir terjatuh di pinggir jalan raya saat hendak pulang dengan berjalan kaki menempuh jarak 8 km.
Tak hanya saat pulang sekolah, Viky juga berjalan kaki untuk pergi sekolah. Hal ini telah ia lakukan selama dua tahun karena keterbatasan biaya. pic.twitter.com/yT7MCoAtgD— DAAI TV Indonesia (@daaitvindonesia) May 20, 2023
เมื่อเร็วๆ นี้ปรากฏภาพ วิคกี ในชุดนักเรียนกำลังพูดคุยและได้รับความช่วยเหลือจากผู้สัญจรผ่านไปมา หลังจากวิดีโอถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง วิถีชีวิตของวิคกี จึงได้รับความสนใจจากรองนายกเทศมนตรีตันเกอรังใต้ ที่ต่อมาได้เดินทางไปเยี่้ยมเยือน วิคกี ด้วยตนเอง และมอบจักรยานคันหนึ่งแก่ วิคกี และทุนการศึกษาจนกระทั่งเรียนจบ
รายงานข่าวระบุว่า บิดาของวิคกี เป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว ทว่าจู่ๆ เขาล้มป่วยโดยโรคหลอดเลือดสมองจึงไม่สามารถทำงานได้ และนับตั้งแต่นั้นชีวิตของครอบครัวก็ยากลำบากลงอย่างฉับพลัน
เนื่องด้วยทางครอบครัวไม่สามารถจ่ายค่าเทอมสำหรับโรงเรียนเอกชนที่อยู่ใกล้บ้านอีกต่อไป ทำให้ วิคกี ต้องย้ายไปเข้าโรงเรียนรัฐที่อยู่ห่างออกไป และด้วยที่ได้เงินไปเรียนแค่วันละ 10,000 รูเปียห์ (ราว 25 บาท) เขาจึงจำเป็นต้องประหยัดค่ารถด้วยการเดินไปกลับโรงเรียน
(ที่มา : ctwant)