รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - อเล็กซานเดอร์ ชิปลยุค (Alexander Shiplyuk) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย ITAM ในไซบีเรียถูกเครมลินจับกุม พร้อมเพื่อนนักวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีไฮเปอร์โซนิกอีก 2 คน อ้างเหตุส่งมอบความลับที่อ่อนไหวของรัสเซียให้ปักกิ่ง ขณะที่เยฟเกนี ปรีโกจิน หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ส่งคำเตือนล่าสุดแรงกระเพื่อมระหว่างชนชั้นอาจมีการปฏิวัติในรัสเซียเหตุประชาชนไม่พอใจลูกคนจนกลับมาในสภาพนอนโลง แต่ลูกเศรษฐีมั่งมีกลับอยู่สุขสบาย
รอยเตอร์รายงานวานนี้ (24 พ.ค.) ว่า หลังการจับกุมพบว่า อเล็กซานเดอร์ ชิปลยุค (Alexander Shiplyuk) วัย 56 ปี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยคริสเตียโนวิชทางเครื่องกลทฤษฎีและเครื่องกลประยุกษ์แห่งไซบีเรีย ITAM (Khristianovich Institute of Theoretical and Applied Mechanics) ยังคงยืนกรานความบริสุทธิ์ของตนเองอยู่เช่นเดิม
ซึ่งเขาถูกจับกุมพร้อมกับนักวิทยาศาสตร์ 2 คน อนาโตลี มาสโลฟ (Anatoly Maslov) และวาเลอรี ซเวกินตเซิร์ฟ (Valery Zvegintsev) ด้านเทคโนโนโลยีไฮเปอร์โซนิกที่มาจากสถาบันเดียวกัน ซึ่งทั้ง 3 ถูกกล่าวหาว่าทรยศแอบส่งมอบความลับอ่อนไหวให้จีน
แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า มีการสงสัยว่า ชิปลยุค แอบมอบความลับให้ปักกิ่งที่การประชุมวิทยาศาสตร์เมื่อปี 2017 แต่ทว่าเขายืนกรานว่า ข้อมูลที่ว่านี้ไม่ใช่เป็นความลับและอีกทั้งยังเปิดเผยทางออนไลน์
หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าวว่า “เขาเชื่อมั่นว่าข้อมูลนี้ไม่ได้เป็นความลับและตัวเขาเป็นผู้บริสุทธิ์”
รอยเตอร์รายงานว่า เป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยในรายละเอียดของการจับกุมนับตั้งแต่ผู้อำนวยการสถาบัน ITAM ถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน มักย้ำเสมอว่า รัสเซียถือเป็นเจ้าด้านเทคโนโลยีมิสไซล์ไฮเปอร์โซนิกล้ำยุคที่มีความสามารถเร็วเหนือเสียง 10 เท่าเพื่อเจาะผ่านระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ
ซึ่งโฆษกเครมลิน ดมิตรี เพรสคอฟ แสดงวามเห็นต่อคดีนักวิทยาศาสตร์สถาบัน ITAM และกรณีเคสอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการแอบเป็นสายลับให้จีนว่า หน่วยงานรัสเซียมักจะเฝ้าระวังเสมอในเรื่องแบบนี้ถึงกรณีการทรยศต่อประเทศบ้านเกิด และย้ำว่า “นี่เป็นงานที่สำคัญมาก” และเสริมว่า “มันเกิดขึ้นเสมอและยากที่จะกล่าวในที่นี้ได้ว่ามีแนวโน้มจะเป็นเช่นใด”
รอยเตอร์รายงานว่า เคสนักวิทยาศาสตร์สถาบัน ITAM รวมไปถึงเคสก่อนหน้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทรยศต่อชาติแสดงให้เห็นว่า เครมลินนั้นเฝ้าระวังเสมอต่อความรั่วไหลทางเทคโนโลยีชั้นสูงใดๆ ที่จะมีต่อจีนหรือชาติอื่นๆ ที่ถึงแม้ว่าทั้ง 2 ชาติในฉากหน้าจะแสดงความร่วมมือเพิ่มขึ้นทั้งทางการเมืองและการค้าหลังรัสเซีบุกยูเครนแล้วก็ตาม
รอยเตอร์รายงานว่า คนทั้ง 3 จะถูกไต่สวนแบบปิดเป็นความลับ โดยมาสโลฟ ซึ่งเป็นคนแรกในจำนวนทั้งหมดที่โดนจับกุมเมื่อมิถุนายนปีที่แล้ว การไต่สวนกำลังจะเริ่มขึ้นในวันพุธ ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
กระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวผ่านแถลงการณ์ในเรื่องนี้เมื่อถูกถามว่า ปักกิ่งมีเป้าหมายไปที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์รัสเซียเพื่อล้วงข้อมูลการวิจัยที่อ่อนไหวหรือไม่ โดยกล่าวว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียตั้งอยู่บนพื้นฐานไม่อยู่ในแนวทางเดียวกัน ไม่เผชิญหน้าต่อกัน และไม่มีเป้าหมายไปที่ฝ่ายที่ 3
"นี่เป็นหลักการพื้นฐานที่แตกต่างจากในบางสิ่งที่บางกองทัพและความเป็นพันธมิตรทางข่าวกรองร่วมกันที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของภายใต้มุมมองสงครามเย็นของพวกเขา"
ซึ่งข่าวการจับกุมผู้อำนวยการสถาบัน ITAM และนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันชื่อดังอีก 2 คน ทำให้แวดวงนักวิชาการรัสเซียไม่พอใจและได้กลายเป็นข่าวครึกโครมสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันแห่งนี้ทั้งหมดต่างยื่นจดหมายเปิดผนึกแสดงการสนับสนุนคนที่ถูกจับไปโดยชี้ว่า คงเป็นเรื่องเลวร้ายหากว่านักวิทยาศาสตร์รัสเซียต้องถูกคุกคามจากการโดนจับกุมเพราะตีพิมพ์ผลงานวิจัยหรือการปรากฏตัวที่การประชุมสัมนาระหว่างประเทศ
ข่าวจีนล้วงตับเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่บริเวณแนวพรมแดนรัสเซียในเบลโกร็อดถูกกลุ่มกองกำลังโปรยูเครน และมีสื่อตะวันตกหลายสำนักเรียกว่าเป็นกองกำลังกบฏรัสเซียเปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดน สอดคล้องกับที่ผู้นำกองกำลังวากเนอร์ เยฟโกนี ปรีโกจิน ที่สร้างผลงานเข้าตาสามารถตีบัคมุตแตกสำเร็จล่าสุดออกมาร่อนคำเตือนแรงว่า อาจเกิดแรงกระเพื่อมภายในรัสเซียไม่พอใจอย่างหนักหลังลูกหลานคนจนในรัสเซียต้องตายเป็นจำนวนมากในสมรภูมิรบ
เดอะการ์เดียนรายงานวานนี้ (24) ว่า ปรีโกจินแถลงทางเทเลแกรมล่าสุดว่า กลุ่มนักรบรับจ้างวากเนอร์ของเขาต้องตายลงไปถึง 20,000 คน เพื่อให้รัสเซียรบยึดบัคมุตได้สำเร็จ
พร้อมฝากคำเตือนไปถึงประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ว่า หากว่าเครมลินยังไม่เปลี่ยนหนทางในการจัดการสงคราม อาจมีสิทธิจะได้เห็นการปฏิวัติเกิดขึ้น
เขากล่าวว่า จำนวนตัวเลขที่สูญเสียในช่วงเวลาไม่กี่เดือนในสนามรบบัคมุตคิดเป็นสัดส่วน 20% ของจำนวน 50,000 คนทั้งหมดของกลุ่มวากเนอร์
ปรีโกจินแสดงต้นเหตุความไม่พอใจในสังคมรัสเซียที่กำลังเป็นอยู่ในเวลานี้ว่า ชาวบ้านยากจนทั่วไปในรัสเซียต้องทนเห็นลูกหลานกลับมาในสภาพนอนโลงกลับจากสงคราม แต่ทว่าลูกหลานบรรดาผู้มีอำนาจและเศรษฐีกลับมีความสุขอยู่ใต้แสงแดดที่อบอุ่น ทาโลชั่นอัปโหลดวิดีโอลงยูทูป
“ความแตกต่างเหล่านี้นั้นอาจจบลงเหมือนเช่นในปี 1917 ด้วยการปฏิวัติ” ปรีโกจินกล่าวในการแถลงผ่านทางช่องทางเทเลแกรม และพร้อมกับพูดต่อว่า
“ทหารคนแรกๆ จะเริ่มยืนขึ้น และหลังจากนั้นบุคคลอันเป็นที่รักจะลุกขึ้น ซึ่งในเวลานี้มีจำนวนร่วมหลายหมื่นแล้วของคนเหล่านี้ ญาติพี่น้องของคนที่เสียชีวิต และคาดว่าจะมากเป็นหลายแสน พวกเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ปรีโกจินออกมาประกาศเตือนรัสเซียเสี่ยงเกิดปฏิวัติหลังจากกองกำลังกบฏรัสเซีย 2 กลุ่ม Russian Volunteer Corps และ the Freedom of Russia Legion สามารถโจมตีข้ามพรมแดนเข้าไปในเบลโกร็อดจนทำให้เครมลินต้องสั่งให้ออกมาตรการกวาดล้าง โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า สามารถสังหารกลุ่มโปรยูเครนได้ 70 คน แต่อย่างไรก็ตาม ในการแถลงของปรีโกจินไม่ได้กล่าวเจาะจงไปที่ทั้ง 2 กลุ่มนี้