ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนออกมาให้สัมภาษณ์เปรียบเปรยซากปรักหักพังในเมืองบัคมุต (Bakhmut) ว่าไม่ต่างจากการความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่โฆษกรัสเซียเย้ยทั้ง 2 เมืองล้วนพังเพราะ "อเมริกา" เป็นต้นเหตุ
รัสเซียประกาศเมื่อวันเสาร์ (20 พ.ค.) ที่ผ่านมาว่าสามารถยึดบัคมุตได้สำเร็จแล้ว หลังจากที่ทำสงครามเต็มรูปแบบอย่างยืดเยื้อมาเป็นเวลาหลายเดือน ขณะที่ยูเครนออกมาปฏิเสธแข็งขันว่ากองทัพมอสโกยังยึดเมืองไม่ได้ทั้งหมดตามที่อ้าง
“ผมขอบอกตรงๆ ว่า ภาพการทำลายล้างเมืองฮิโรชิมาทำให้ผมนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับบัคมุตและเมืองอื่นๆ ที่คล้ายกัน ไม่มีอะไรเหลือ อาคารทุกหลังกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง” เซเลนสกี แถลงต่อสื่อมวลชนระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ที่ญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ (21)
ผู้นำยูเครนยืนยันในงานแถลงข่าวว่า กองกำลังยูเครนยังคงต่อสู้อยู่ที่บัคมุต และกำลัง “ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญ”
“วันนี้ทหารของเรายังอยู่ที่บัคมุต อยู่ที่ไหนบ้างผมขอไม่เอ่ย แต่ข้อเท็จจริงก็คือวันนี้บัคมุตยังไม่ได้ถูกยึดครองโดยสหพันธรัฐรัสเซีย และไม่มีการตีความเป็นอื่นไปได้”
เซเลนสกี ย้ำว่า ตนอยากจะเห็นบัคมุตและเมืองอื่นๆ ในยูเครนได้รับการฟื้นฟูให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเหมือนกับฮิโรชิมา หลังจากที่สงครามสิ้นสุดลง
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกมาเยาะเย้ยความพยายามของ เซเลนสกี ที่จะเปรียบเปรยบัคมุตกับฮิโรชิมา โดยระบุว่า สิ่งที่ผู้นำยูเครนพูดนั้นไม่ผิด เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้ทิ้งระเบิดปรมาณูทำลายฮิโรชิมา และยังจัดส่งอาวุธป้อนกองทัพยูเครนด้วย
“เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่เลว” ซาคาโรวา โพสต์ข้อความผ่าน Telegram “เพราะ (การทำลายล้าง) ทั้งสองเมืองล้วนแต่เป็นฝีมือของทำเนียบขาว”
รัฐบาลยูเครนประกาศวานนี้ (21) ว่ากองทัพยังคงรุกคืบและเตรียมที่จะปิดล้อมเมืองบัคมุต หลังจากที่มอสโกออกมาแถลงชื่นชมผลงานของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ (Wagner) และทหารรัสเซียที่อ้างว่าสามารถยึดเมืองแห่งนี้ได้สำเร็จแล้ว
ที่มา : รอยเตอร์