ผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก G7 ประกาศยกระดับคว่ำบาตรรัสเซียเมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) ขณะที่แถลงการณ์ร่วมซึ่งจะเผยแพร่ภายหลังการประชุมซัมมิตที่เมืองฮิโรชิมา ของญี่ปุ่น ยังเน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องลดพึ่งพาการค้ากับจีน
เวทีประชุม G7 ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และแคนาดา และจะมีประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเดินทางมาร่วมวงด้วยในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ประกาศจะจำกัดการส่งออกสินค้าใดๆ ก็ตามไปยังรัสเซียที่อาจมีส่วนช่วยสนับสนุนสงครามรุกรานยูเครนของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน รวมถึงหาวิธีสกัดกั้นการหลบเลี่ยงคว่ำบาตร
ร่างคำแถลงร่วมของผู้นำ G7 ระบุด้วยว่า ข้อจำกัดเหล่านี้จะครอบคลุมการส่งออกสินค้าจำพวกเครื่องจักรอุตสาหกรรม เครื่องไม้เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำสงครามของรัสเซีย รวมถึงจะปิดกั้นรายได้จากการส่งออก “โลหะ” และ “เพชร” ของรัฐบาลหมีขาว
ในส่วนของจีนซึ่งกลุ่ม G7 มองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างแถลงการณ์ร่วมระบุว่า มีความจำเป็นที่จะต้องแสวงหาความร่วมมือกับจีนให้มากขึ้น แต่จะต้องไม่พึ่งพาจีนมากจนเกินไป
“แนวทางนโยบายของเราไม่ได้มุ่งกระทำอันตรายต่อจีน และไม่ได้มุ่งหวังปิดกั้นการพัฒนาและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของจีน” เนื้อหาในร่างคำแถลงระบุ พร้อมกับเรียกร้อง “ความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพและเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์”
อย่างไรก็ดี G7 ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องลดพึ่งพาจีนในห่วงโซ่อุปทานสำคัญๆ รวมถึงต่อต้าน “พฤติกรรมที่เป็นภัย” (malign practices) ในด้านการถ่ายโอนเทคโนโลยีและการเปิดเผยข้อมูล
ผู้นำ G7 ยังเอ่ยย้ำความจำเป็นที่จะต้องธำรงไว้ซึ่งสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน และเรียกร้องจีนช่วยกดดันรัสเซียให้หยุดทำสงครามรุกรานยูเครน
รายงานของ BBC ระบุว่า รัสเซียมีรายได้จากการส่งออกเพชรปีละประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าไม่มากนักเมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกทั้งหมด โดยก่อนที่จะเกิดสงครามยูเครนนั้นรัสเซียเคยมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 489,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 ตามข้อมูลของธนาคารกลาง โดยเป็นรายได้จากการขายน้ำมันและก๊าซถึง 240,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กระนั้นก็ดี รัสเซียยังถือเป็นผู้ส่งออกเพชรรายใหญ่ที่สุดของโลกในแง่ของปริมาณ ตามมาด้วยกลุ่มประเทศแถบแอฟริกา
ขณะเดียวกัน รัฐบาลอังกฤษได้แถลงแผนการห้ามนำเข้าเพชรรัสเซีย รวมไปถึงทองแดง อะลูมิเนียม และนิกเกิล นอกจากนี้ยังประกาศคว่ำบาตรบุคคลและองค์กรของรัสเซียรวม 86 ราย ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยธัญพืชยูเครนไปขายต่อ ซึ่งเป็นข้อครหาที่รัสเซียปฏิเสธเรื่อยมา
ที่มา : รอยเตอร์, BBC