บรรดาชาติสมาชิกกลุ่ม BRICS จะอภิปรายกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัวสกุลเงินร่วมสำหรับการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะสกุลเงินทางเลือกแทนดอลลาร์ ณ ที่ประชุมของกลุ่มครั้งถัดไปในโยฮันเนสเบิร์ก ช่วงปลายเดือนสิงหาคม ตามรายงานของบลูมเบิร์ก อ้างอิงคำกล่าวของรัฐมนตรีด้านความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศของแอฟริกาใต้
"มันเป็นประเด็นที่เราต้องสนทนากันและพูดคุยหารือกันอย่างถ้วนทั่ว" นาเลดี แพนดอร์ ให้สัมภาษณ์ในเมืองเคปทาวน์เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
สมาชิกกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ขณะที่เสียงพูดคุยเกี่ยวกับการลดพึ่งพิงดอลลาร์ ผุดขึ้นมาจากรัฐบาลของหลายชาติที่หวังลดการพึ่งพาสกุลเงินสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ สืบเนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกา เช่นเดียวกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบทางลบแก่ตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่
ตามคำกล่าวอ้างของ แพนดอร์ บรรดาชาติสมาชิก BRICS และประเทศอื่นๆ กำลังตั้งคำถามว่า "ทำไมพวกเขาถึงต้องผูกมัดกับการค้าขายผ่านสกุลเงินดอลลาร์ และทำไมถึงไม่สามารถใช้สกุลเงินของตนเองแทน"
"แอฟริกาใต้มีสกุลเงินที่สามารถค้าขายระหว่างประเทศ" แพนดอร์ชี้ ทั้งนี้ แพนดอร์ ได้เอ่ยปากเตือนประเทศของเธอต่อกรณีที่ถือครองหนี้จำนวนมากในรูปของดอลลาร์ "ดังนั้น คุณก็รู้ว่าเราจำเป็นต้องเข้าสู่การพูดคุยหารือนี้ด้วยความรับผิดชอบ"
รัฐมนตรีหญิงรายนี้ยอมรับว่าการลดพึ่งพาดอลลาร์จะเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน และไม่มีคำรับประกันว่ามันจะประสบความสำเร็จ "ฉันคิดว่าเราไม่ควรสันนิษฐานอยู่ตลอดว่าแนวคิดนี้จะได้ผล เพราะว่าเศรษฐกิจของแต่ละชาตินั้นมีความแตกต่างกันมาก และคุณจำเป็นต้องพิจารณากับทุกประเทศ โดยเฉพาะในสถานการณ์ของการเติบโตระดับต่ำ ในยามที่คุณกำลังโผล่พ้นจากวิกฤต" แพนดอร์ บอกกับบลูมเบิร์ก
กลุ่ม BRICS มีพลเมืองรวมกันคิดป็นสัดส่วน 40% ของประชากรโลก และมีเศรษฐกิจคิดเป็น 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ตามการคาดการณ์ของรัฐบาลแอฟริกาใต้ ทางกลุ่มมีประชากรรวมกันทั้งสิ้นราว 3,200 ล้านคน
เมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานว่ามี 19 ปรเทศที่แสดงความสนใจเข้าร่วมในกลุ่ม BRICS ซึ่งเตรียมประชุมซัมมิตประจำปี ครั้งที่ 15 ในแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 22 ถึง 24 สิงหาคม โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แอลจีเรีย อียิปต์ บาห์เรน อินโดนีเซีย ซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน เป็นหนึ่งในบรรดาชาติที่ร้องขอเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการแล้ว
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)