หญิงสาววัย 29 ปีรายหนึ่ง ถูกกล่าวหาใช้เอกสารปลอมเพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐฯ และเข้าเรียนในบางคาบในช่วงเวลา 4 วัน สุดท้ายถูกจับได้ และศาลแห่งรัฐในวันจันทร์ (15 พ.ค.) สั่งให้เข้าร่วมโปรแกรมคุมประพฤติในชั้นก่อนพิจารณาคดี
ฮเยจอง ชิน ไม่ยอมสารภาพผิดในเดือนมีนาคม ตามข้อกล่าวหามอบเอกสารราชการเท็จ ขณะที่ทนายควาของเธอแก้ต่างว่าที่ผู้หญิงรายนี้ทำเช่นนั้นก็เพราะเธอเหงาและปรารถนากลับคืนสู่วันเก่าๆ ในช่วงวัยเรียน ใช้ชีวิตกับเพื่อนๆ ในโรงเรียน แต่ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่าได้ทำผิดพลาดลงไป
เวลานี้เธอจะต้องเข้ารับการประเมินสุขภาพจิต และหากว่าเธอสิ้นสุดระยะเวลาการเข้าร่วมโปรแกรมคุมประพฤติ ท้ายที่สุดแล้วศาลอาจพิจารณาตีตกข้อกล่าวหาที่จะเอาผิดกับเธอ
ทนายความเปิดเผยว่า ชิน เป็นพลเมืองเกาหลีใต้ ซึ่งเดินทางมาสหรัฐฯ ด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 16 ปี จากนั้นเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำเอกชนแห่งหนึ่ง ต่อมาเธอเรียนจบระดับปริญญา จากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ในปี 2019
ทั้งนี้ ทนายความชี้แจงว่าลูกความของเขาไม่ได้มีเจตนาชั่วร้าย ตอนที่สมัครเข้าเรียน ณ โรงเรียนมัธยมนิว บรุนส์วิค ในเดือนมกราคม โดยเธอแค่ต้องการกลับสู่ "สถานที่ที่ปลอดภัยและเป็นที่ต้อนรับ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เธอมองย้อนกลับไปด้วยความรัก"
เจ้าหน้าที่บอกว่า ชิน ได้เบอร์โทรศัพท์ของนักเรียนหลายคน ซึ่งช่วยเธอหาหนทางในการกลับเข้าเรียนในโรงเรียน และเธอยังคงติดต่อกับเด็กนักเรียนเหล่านั้นผ่านข้อความ แม้ว่าอุบายของเธอถูกจับได้แล้ว
หญิงสาวรายนี้ถูกห้ามจากการเข้าไปยังพื้นที่โรงเรียนในเขตดังกล่าว และเจ้าหน้าที่แนะนำบรรดานักเรียนทั้งหลายว่าอย่าได้ติดต่อใดๆกับเธอ
จากข้อมูลพบว่า ชิน มอบสูติบัตรปลอมแก่เจ้าหน้าที่เขต ตอนที่เธอสมัครเข้าเรียน
โรงเรียนต่างๆ ในรัฐแห่งนี้จำเป็นต้องอ้าแขนรับเด็กที่อยู่ตามลำพังโดยทันทีไม่มีข้อแม้ใดๆ แม้ว่าจะไม่มีประวัติหรือบันทึกที่จำเป็นตามปกติสำหรับจุดประสงค์ดังกล่าว
ส่วนการตรวจสอบเกี่ยวกับผู้ปกครองก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการในทันที สำหรับเยาวชนผู้สมัครเรียนที่พักอาศัยอยู่ตามลำพัง แต่ครั้งที่เข้าเรียนแล้ว นักเรียนเหล่านั้นจะมีเวลา 30 วันสำหรับมอบเอกสารเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ตัวตน
(ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์)