หัวหน้านักรบ ‘วากเนอร์’ เสนอเผยที่ตั้งทหารรัสเซีย แลกเปลี่ยนกับยูเครนถอนกำลังจาก ‘บัคมุต’ สื่อมะกันระบุ

วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างข่าวลับเพนตากอนที่รั่วไหล ระบุว่า ปรีโกจิน ผู้ก่อตั้งบริษัททหารรับจ้าง “วากเนอร์ กรุ๊ป” ของรัสเซีย เสนอเปิดเผยตำแหน่งที่ตั้งกองกำลังรัสเซียแก่ยูเครน แลกเปลี่ยนกับการที่เคียฟต้องถอนกำลังออกจากเมืองบัคมุต ส่วนในอีกด้านหนึ่งหนึ่ง ทัวร์ยุโรปของเซเลนสกี ยังไม่จบ โดยในวันจันทร์ (15 พ.ค.) เขาเดินทางไปอังกฤษ ซึ่งให้คำมั่นจัดหาขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานและโดรนให้หลายร้อยรายการ รวมถึงโดรนโจมตีระยะไกล

หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (14) ว่า เยฟเกนี ปรีโกจิน ผู้ก่อตั้งวากเนอร์ กรุ๊ป และถือเป็นพันธมิตรคนหนึ่งของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนดังกล่าวเมื่อเดือนมกราคม ทั้งนี้ บัคมุตซึ่งเป็นสมรภูมิสู้รบดุเดือดที่กลุ่มวากเนอร์มีบทบาทสำคัญและพยายามอย่างหนักมาหลายเดือนที่จะเข้ายึด

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ ซึ่งอ้างอิงเอกสารลับเพนตากอนที่รั่วไหลไปถึงกลุ่มแชต “ดิสคอร์ด” ที่นิยมกันในหมู่นักเล่นเกมจนกลายเป็นข่าวใหญ่โตเมื่อเดือนที่แล้ว บอกว่ารัฐบาลยูเครนปฏิเสธข้อเสนอนี้

สำหรับโฆษกทำเนียบขาว ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้

ในส่วนสถานการณ์การสู้รบในบัคมุต ที่ตั้งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนนั้น โอเลคซานดร์ ซีร์สไกยี ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินของยูเครน กล่าวอ้างวันจันทร์ (15) ว่า ฝ่ายตนสามารถยึดที่มั่นของรัสเซียตรงชานเมืองบัคมุตได้กว่า 10 แห่ง

ขณะที่ฝ่ายรัสเซียแถลงตั้งแต่วันอาทิตย์ (14) ว่า มีผู้บังคับบัญชาทหาร 2 คนเสียชีวิตในการต่อสู้ใกล้บัคมุต ส่วน ปรีโกจิน ได้ออกมากล่าวหาอีกครั้งว่า กองทัพรัสเซียไม่ดำเนินการใดๆ เลยรอบบัคมุต

สำหรับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ซึ่งหลังจากประกาศเลื่อนเวลาในการเปิดฉากโจมตีใหญ่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ได้ออกตระเวนเยือนชาติยุโรปมาหลายวัน ตั้งแต่อิตาลี เยอรมนี จนถึงฝรั่งเศส ปรากฏว่าในวันจันทร์ (15) เขาไปลอนดอน และก่อนที่จะหารือกับนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก ของสหราชอาณาจักรเสียอีก ทางสหราชอาณาจักรได้ประกาศแผนการจัดหาจัดส่งขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานและโดรนหลายร้อยรายการ ซึ่งรวมถึงโดรนโจมตีระยะไกล ที่มีพิสัยทำการกว่า 200 กิโลเมตร

คำแถลงของอังกฤษระบุว่า อาวุธดังกล่าวจะจัดส่งให้ยูเครนในเดือนต่อๆ ไป ขณะที่ยูเครนกำลังเตรียมยกระดับการต้านทานการรุกรานของรัสเซีย

ความช่วยเหลือครั้งใหม่นี้มีขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอังกฤษเป็นประเทศตะวันตกแห่งแรกที่ประกาศจัดส่งขีปนาวุธร่อนที่มีพิสัยทำการไกล 250 กิโลเมตร ไปให้แก่ยูเครน โดยอาวุธซึ่งสามารถโจมตีลึกเข้าไปถึงดินแดนรัสเซียเชนนี้ เคียฟเรียกร้องต้องการมานาน ทว่าฝ่ายตะวันตกยังคงลังเล ด้วยความหวั่นเกรงว่าจะทำให้ตนเองต้องพัวพันกับสถานการณ์สงครามมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน อังกฤษยังเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางทหารรายใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนรองจากอเมริกา นอกจากนั้น ลอนดอนยังได้เพิ่มการฝึกอบรมทหารในโปรแกรมความช่วยเหลือที่มอบให้เคียฟ แม้ยังไม่ได้จัดหาเครื่องบินรบให้ก็ตาม

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเซเลนสกีเยือนเยอรมนี ทางเบอร์ลินประกาศแพกเกจความช่วยเหลือทางทหารครั้งใหม่มูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่เคียฟ

และระหว่างหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสเมื่อค่ำวันอาทิตย์ ผู้นำทั้งคู่ได้พูดคุยเกี่ยวกับการสนับสนุนคลังอาวุธของยูเครน สถานการณ์ทางทหาร และความจำเป็นในการตั้งศาลเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาคดีเกี่ยวกับความโหดร้ายทารุณในสงครามที่รัสเซียก่อขึ้น

สำนักงานประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงว่า ฝรั่งเศสจะจัดหายานยนต์หุ้มเกราะให้ยูเครน แต่ไม่ได้ระบุจำนวน รวมทั้งบอกว่ายังไม่เห็นด้วยกับการจัดส่งเครื่องบินรบให้

คำแถลงร่วมของสองผู้นำยังระบุว่า ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ฝรั่งเศสจะฝึกทหารยูเครน และส่งยานยนต์หุ้มเกราะและรถถังเบาหลายสิบคันให้เคียฟ

ในวันจันทร์ (15) เจ้าหน้าที่ยูเครนเผยว่า หลี่ ฮุ่ย ผู้แทนพิเศษของจีนด้านกิจการยูเรเซียและอดีตเอกอัครราชทูตประจำรัสเซีย มีกำหนดเดินทางเยือนเคียฟในวันอังคารและพุธ (16-17) เพื่อหารือเกี่ยวกับการหาทางออกทางการเมืองสำหรับวิกฤตยูเครน

ก่อนหน้านี้ ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (12) กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า นอกจากยูเครนแล้ว หลี่ ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สุดของจีนที่เดินทางเยือนยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 นั้น จะเดินทางไปโปแลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมนีด้วย

การเยือนของหลี่เกิดขึ้นหลังจากเมื่อปลายเดือนที่แล้วประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้หารือทางโทรศัพท์กับเซเลนสกี ซึ่งถือเป็นการพูดคุยกันครั้งแรกนับจากสงครามระเบิดขึ้น และประมุขแดนมังกรระบุว่า จีนต้องการมุ่งเน้นการส่งเสริมสันติภาพ แม้ตะวันตกยังไม่แน่ใจในข้อเสนอสันติภาพของปักกิ่งที่เป็นพันธมิตรเหนียวแน่นกับรัสเซียก็ตาม

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)