สื่อนอกลุ้นรายงานสดอัปเดตนาทีต่อนาที คูหาเลือกตั้งเปิดแล้วใครจะได้เป็นนายกฯ คนใหม่ "ประยุทธ์-อุ๊งอิ๊ง-พิธา" ลุ้นชะตาวันนี้

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ไทยเริ่มการเลือกตั้งทั่วไปวันอาทิตย์ (14 พ.ค.) ท่ามกลางผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 52 ล้านคน ที่มีการคาดหมายว่าพรรคฝ่ายค้านหลักทั้งเพื่อไทย ของแพทองธาร ชินวัตร และพรรคก้าวไกล ของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นพรรคเต็ง ขณะพรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บิวด์อารมณ์โค้งสุดท้ายท่ามกลางความตื่นเต้นและความวิตก และการรอการกลับเข้าไทยครั้งแรกของ "ทักษิณ ชินวัตร"

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (14 พ.ค.) ว่า ข่าวการเลือกตั้งไทยวันอาทิตย์ (14) เป็นที่จับจ้องจากสื่อนอกหลายสำนัก มีการรายงานเป็นระยะๆ ทั้งเอพี รอยเตอร์ เอเอฟพี บีบีซี รวมไปถึงการรายงานแบบอัปเดตต่อเนื่องแบบอัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ ซึ่งเป็นการชิงชัยเพื่อจะเดินหน้าต่อจากนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำรัฐประหารอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2014 กำลังถูกท้าทายอย่างหนักจาก 2 พรรคการเมืองฝ่ายค้านใหญ่ที่เป็นพรรคเต็งจากทั้งพรรคเพื่อไทย ของตระกูลชินวัตร และพรรคก้าวไกล ของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 

บีบีซีของอังกฤษรายงานว่า คูหาเลือกตั้งเปิดเมื่อเวลา 08.00 น.ของวันอาทิตย์ (14) และมีทั้งหมด 95,000 แห่งทั่วประเทศ

ประชาชนราว 52 ล้านคน กำลังออกไปใช้สิทธิการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ทั้งสำหรับสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 500 คน ซึ่งมีราว 2 ล้านได้ออกไปใช้สิทธิล่วงหน้า

ผู้มีสิทธิการเลือกตั้งที่เข้าไปใช้สิทธิที่ย่านใจกลางกรุงเทพฯ ได้เป็นคนแรกวัย 88 ปี วงศักดิ์ ณ เชียงใหม่ (Wongsak Na Chiengmai) ให้ความเห็นกับรอยเตอร์ว่า “ผมอายุ 88 ปีแล้ว มันไม่ง่ายเลย” และเสริมต่อว่า “นี่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากกับประเทศ”

รอยเตอร์กล่าวว่า ผู้สมัครลงชิงจากพรรคใหญ่ทั้ง 3 ต่างออกไปลงคะแนนเลือกตั้งที่คูหาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (14) ด้วยความคาดหวังรวม พล.อ.ประยุทธ์ ที่แสดงการเชิญชวนให้คนออกไปเลือกตั้งให้มากที่สุด

ด้านแพทองธาร ชินวัตร วัย 36 ปี บุตรสาวอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยประกาศจะเดินทางกลับไทยในเดือนกรกฎาคมที่จะถึง ได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายวันศุกร์ (12) ว่า

“วันที่ 14 พฤษภาคมนี้จะกลายเป็นวันประวัติศาสตร์ พวกเรากำลังจะเปลี่ยนจากเผด็จการไปเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย”

และเสริมว่า “ทุกครั้งที่พวกเราก้าวขึ้นมามีอำนาจ พวกเรานำความร่ำรวยมาให้ประชาชน ดิฉันก้าวเข้าสู่การเมืองเพื่อช่วยคนรุ่นใหม่ เพื่อสนับสนุนครอบครัวพวกเขา” 

เธอกล่าวหลังการหย่อนบัตรว่า วันนี้ถือเป็นวันดี อ้างอิงจากอัลญะซีเราะฮ์

ขณะที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ วัย 42 ปี ที่สื่อนอกรายงานอย่างฮือฮาว่า เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดชื่อดังของสหรัฐฯ และพูดจาฉะฉานในการให้สัมภาษณ์กับสื่อนอกนั้น รอยเตอร์กล่าวว่า มีการสนับสนุนเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยในกลุ่มคนรุ่นใหม่นี้มีผู้ที่ออกมาใช้สิทธิครั้งแรกในการเลือกตั้งรอบนี้จำนวน 3.3 ล้านคน

อ้างอิงจากเดอะการ์เดียน การปราศรัยหาเสียงครั้งสุดท้ายวันศุกร์ (12) เขากล่าวอย่างมุ่งมั่นว่า “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังจะมา”

และเสริมต่อว่า “สิ่งที่พวกเราจำเป็นต้องถามร่วมกันอย่างระมัดระวังต่อตัวพวกเราคือ สังคมไทยกำลังสร้างกำแพงหรือกังหันลมพลังงาน”

อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า พิธากล่าวกับนักข่าวหลังการหย่อนบัตรว่า หวังว่าทั้งประเทศจะเคารพผลโหวต

ซึ่งทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลนั้นสื่อนอกชี้ว่า ต่างอยู่ขั้วตรงข้ามอำนาจเก่า กองทัพ และฝ่ายอนุรักษนิยม โดยมีความต้องการในการทำให้กองทัพไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง และยังต้องการปฏิรูปสถาบันด้วยการปลดล็อก ม.112 ที่ปกป้องสถาบัน

อัลญะซีเราะฮ์ตั้งคำถามว่า ทักษิณ ชินวัตร และตระกูลชินวัตรจะยังคงมีมนตรากับภาคเหนืออยู่หรือ และชี้ไปว่า ความผูกพันระหว่างตระกูลชินวัตร และภาคเหนืออาจเป็นปัจจัยต่อการเลือกตั้งวันอาทิตย์ (14)

ขณะที่เดอะการ์เดียนรายงานว่า บรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการเห็นพิธา และพรรคก้าวไกลในการให้ทหารและกลุ่มรอแยลลิสต์ให้ออกจากอำนาจบริหาร

ซึ่งพรรคก้าวไกลประสบความสำเร็จสามารถปักหลักฐานเสียงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างเป็นปึกเป็นแผ่น

เอพีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งถูกมองด้วยสายตาตำหนิเป็นตัวผู้ร้ายในสายค่ายโปรประชาธิปไตยเสรีนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ได้ถูกทำให้กลายเป็นการส่งให้คะแนนรายงานความประพฤติจากประชาชนกลับไปให้ เอพีกล่าวว่า ความไม่พอใจต่อตัวรักษาการนายกฯ ประยุทธ์ มีสูงเนื่องมาจากปัญหาสภาพเศรษฐกิจซบเซา และอีกทั้งรัฐบาลของเขายังจัดการกับวิกฤตโควิด-19 ผิดพลาดและมีประชาชนเป็นจำนวนมากต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง รอยเตอร์กล่าวว่า พรรคเต็งในการเลือกตั้งคือพรรคฝ่ายค้านหลักโปรประชาธิปไตยทั้งสองนี้

รอยเตอร์รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติของเขานั้นได้หาเสียงนโยบายปลดหนี้ ค่าไฟถูกสำหรับกลุ่มรายได้น้อย และให้เงินอุดหนุนทางคมนาคมและการเก็บเกี่ยว

เขากล่าวปราศรัยวันศุกร์ (12) กับฐานเสียงชนชั้นกลางที่เหนื่อยหน่ายกับการประท้วงข้างถนนและการเมืองไทยที่ไม่แน่นอนว่า

“พวกเราไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงที่จะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินประเทศ พวกคุณสามารถรับได้ไหม? พวกคุณรู้หรือไม่ว่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจะเป็นอะไรบ้าง?” เขากล่าวในรายงานของรอยเตอร์

อัลญาซีเราะฮ์รายงานว่า การเลือกตั้งที่น่าตื่นตาในครั้งนี้มีสีสันเป็นต้นว่า ชายวัย 72 ปี ไม่ต้องการพลาดการใช้สิทธิเลือกตั้งถึงแม้ว่าจะเข้ารับการรักษาที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สื่อไทยรายงานว่า เขามาที่คูหากาบัตรเลือกตั้งโดยนั่งอยู่ในรถวีลแชร์แสดงความเห็นว่า "ถึงร่างกายผมจะป่วยแต่ผมไม่ต้องการเสียสิทธิในการโหวต ผมต้องการกระตุ้นให้คนไทยทุกคนออกไปลงคะแนนเลือกตั้ง"

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เลือกตั้งไทยคาดว่าจะมีจำนวนผู้มีสิทธิออกมาใช้เสียงในอัตราสูง