ธนาคารกลางเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ลงนามในบันทึกความเข้าใจในการสนับสนุนค้าขายทวิภาคีด้วยสกุลเงินของแต่ละชาติ ปลีกตัวเองออกห่างจากดอลลาร์สหรัฐในฐานะตัวกลาง
มาตรการนี้คาดหมายว่าจะช่วยบรรดาบริษัทเกาหลีใต้และอินโดนีเซียลดต้นทุนของการทำธุรกรรม และลดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน จากคำแถลงของธนาคารกลางของทั้ง 2 ชาติ
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย และธนาคารกลางเกาหลี เน้นย้ำว่าพวกเขาจะเดินหน้ายกระดับความร่วมมือผ่านการแบ่งปันข้อมูลและปรึกษาหารือกันเป็นประจำ ในขณะที่ทั้ง 2 ชาติ หาทางเพิ่มความร่วมมือด้านการเงิน
รายงานข่าวระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวได้มีการลงนามรอบนอกการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ และบรรดาผู้ว่าธนาคารกลางของอาเซียน+3 ครั้งที่ 26 ซึ่งมีขึ้นในเมืองอินชอน ของเกาหลีใต้ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
ทั้งนี้ กลุ่มอาเซียน+3 ประกอบด้วย 10 ชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมด้วยจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ควมพยายามบ่ายหนีจากดอลลาร์ในการค้าระหว่างประเทศทวีความเข้มข้นขึ้นในบรรดากลุ่มก้อนเศรษฐกิจสำคัญๆ เช่น อาเซียนและบริกส์ ซึ่งประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้
โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นตามหลังกรณีบรรดาชาติตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซีย ชาติผู้ผลิตและส่งออกพลังงานรายใหญ่ของโลก
บางประเทศเริ่มเสาะหาทางเลือกอื่น หลังจากเห็นทรัพย์สินของรัสเซียในต่างแดนถูกอายัด และรัสเซียถูกตัดขาดจากระบบ SWIFT (เครือข่ายการเงินระดับโลกที่ช่วยให้การโอนเงินข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว)
เพอร์รี วาริจิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ประเทศของเขากำลังดำเนินการถอยห่างจากดอลลาร์สหรัฐกับประเทศอื่นๆ เช่น ไทย มาเลเซีย จีน และญี่ปุ่น โดยในเดือนมีนาคม บราซิล และจีนลงนามในข้อตกลงค้าขายด้วยสกุลเงินของแต่ละชาติ ละทิ้งการใช้ดอลลาร์เป็นตัวกลาง
ขณะที่มาเลเซียกำลังรื้อฟื้นข้อเสนอที่เคยมีมานานกว่าทศวรรษในการจัดตั้งกองทุนการเงินเอเชีย (Asian Monetary Fund) เพื่อลดพึ่งพิงดอลลาร์ โดยที่จีนเปิดกว้างอ้าแขนรับสำหรับพูดคุยในประเด็นดังกล่าว
ก่อนหน้านั้นในช่วงต้นเดือนเมษายน เว็บไซต์บิสคอยดอทคอม รายงานว่า บรรดารัฐมนตรีคลัง และผู้ว่าการธนาคารกลางทั้งหลายของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังสำรวจหนทางต่างๆ ที่แต่ละชาติจะลดพึ่งพิงดอลลาร์สหรัฐ และส่งเสริมใช้สกุลเงินท้องถิ่นชำระเงินด้านการค้าระหว่างกัน โดยที่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ถึงขั้นแนะให้นึกถึงกรณีที่สหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/บิสคอยดอทคอม)