ทนไม่ไหว! “อิตาลี” ส่งสัญญาณบอก “วอชิงตัน” เล็งถอนออกจาก “โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของปักกิ่ง ส่วน “อัฟกานิสถาน” ประกาศเข้าร่วมหวังฟื้นประเทศ

เอเจนซีส์ - รัฐบาลโรมส่งสัญญาณให้วอชิงตันรับทราบว่า กำลังพิจารณาเตรียมถอนตัวจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่ง หลังกลายเป็นชาติเดียวจากกลุ่ม G-7 ที่เข้าร่วมเมื่อปี 2019 หลังโดนวอชิงตันกดดันอย่างหนักให้ถอนออก ขณะที่รัฐบาลตอลิบานประกาศพร้อมให้อัฟกานิสถานร่วมโครงสร้างพื้นฐานของจีนหวังใช้เงินหยวนฟื้นฟูประเทศใหม่

บลูมเบิร์กของวันนี้ (10 พ.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni) ให้ความมั่นใจอีกครั้งกับประธานรัฐสภาสหรัฐฯ เควิน แม็คคาร์ธี ระหว่างการพบปะหารือในกรุงโรมสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลโรมของเธอมีความตั้งใจที่จะถอนตัวออกจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีนที่รู้จักในนามโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่อยู่ในที่ประชุม

ทั้งนี้ อิตาลีกลายเป็นชาติเดียวจากกลุ่ม G-7 ที่ลงนามร่วมโครงการเส้นทางสายใหม่ที่อื้อฉาวซึ่งเกิดขึ้นในสมัยของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง

นักวิจารณ์ต่างกล่าวว่า ปักกิ่งใช้โครงการลงทุนหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อขยายอิทธิพลของตัวเองไปทั่วโลก และกลายเป็นกับดักเงินกู้ไปในที่สุดต่อหลายประเทศที่ไม่ทันตั้งตัว นักวิจารณ์ยังวิตกไปถึงการขยายทางยุทธศาสตร์ของปักกิ่งจากโครงการนี้ เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงาน

และเสริมต่อว่า ปัจจุบันมีไม่ต่ำกว่า 140 ประเทศทั่วโลกที่มีสัดส่วนเป็น 2 ใน 3 ของประชากรโลกรวมกัน และ 40% ของจีดีพีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน อ้างอิงจากธิงแทงก์สหรัฐฯ สมาคมด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Council on Foreign Relations) ที่มีฐานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ซึ่งจากการปรากฏว่ามีหลายชาติที่มีหนี้ก้อนโตผ่านความร่วมมือโครงการนี้ รวมไปถึง ปากีสถาน แซมเบีย และกานา

ทั้งนี้ รัฐบาลตอลิบานล่าสุดประกาศต้องการให้อัฟกานิสถานเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน

สื่อไทม์สออฟอินเดียรายงานวันเสาร์ (7) ว่า ตอลิบานตกลงร่วมกับจีนและปากีสถานในการขยายโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเข้าสู่อัฟกานิสถาน หวังเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานภายในอัฟกานิสถาน

ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ฉิน กัง (Qin Gang) และรัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน บีลาวาล บุตโต (Bilawal Bhutto) พบปะหารือร่วมกันในวันเสาร์ (6) พร้อมปฏิญาณที่จะร่วมมือในกระบวนการบุรณะอัฟกานิสถาน ที่รวมไปถึงโครงการเส้นทางเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน มูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์เข้าสู่อัฟกานิสถาน

สื่ออินเดียรายงานว่า รัฐบาลตอลิบานนั้นก่อนหน้าเคยแสดงความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการและความคาดหวังถึงการลงทุนทางโครงสร้างพื้นฐานที่อัฟกานิสถานต้องการอย่างมาก

บลูมเบิร์กรายงานว่า อิตาลีลงนามการเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อปี 2019 เมื่อครั้งอดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี จุปเซปเป กอนเต (Giuseppe Conte) ยังอยู่ในอำนาจและข้อตกลงมีกำหนดที่จะต้องต่ออายุใหม่อีกครั้งในปี 2024 เว้นแต่อิตาลียินยอมถอนตัวออกมา

ซึ่งอิตาลีเหมือนเช่นส่วนใหญ่ในยุโรปที่ตกอยู่กลางระหว่างสงครามการแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ และจีน และกลายเป็นความอึดอัดมากขึ้นเมื่อปักกิ่งแสดงตัวให้เห็นว่ายังคงให้การสนับสนุนรัสเซียต่อไป

บลูมเบิร์กชี้ว่า ประเทศในยุโรปต่างพยายามอย่างหนักในการหาความเหมาะสมในความปรารถนาจะติดต่อกับจีนด้านการค้าและการลงทุน และในเวลาเดียวกันโต้กลับข้อกล่าวหาการบีบคั้นทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า นับตั้งแต่มีการลงนามร่วมกันทั้ง 2 ชาติเห็นถึงความร่วมมือที่รุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ การอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด

บลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐฯ กดดันอย่างต่อเนื่องต่อโรมในการให้แสดงความชัดเจนต่อจุดยืนทางสาธารณะและถอนตัวจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน อ้างอิงจากแหล่งข่าวใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม บลูมเบิร์กกล่าวว่า การพิจารณาในการถอนตัวออกจากโครงการของรัฐบาลโรมยังไม่ถึงการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

เดลีเทเลกราฟรายงานว่า ภายในยุโรปมีการเกรงว่าปักกิ่งจะใช้การลงทุนโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานเพื่อแผ่อิทธิพลในภูมิภาคบอลข่านในการลงทุนในเซอร์เบีย และมอนเตเนโกร

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ครั้งหนึ่งเคยกล่าวถึงโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนในปี 2018 ในการเยือนจีนในเวลานั้นว่า โครงการนี้จะเปลี่ยนให้หลายประเทศกลายเป็น “ชาติลูกไล่” ไปในที่สุด