xs
xsm
sm
md
lg

ชมคลิป : "พริโกซิน" อัดวิดีโอคลิปเดือดเปิดโปง “ทหารรัสเซีย” หนีทัพในบัคมุต ระทึก! ช่างภาพนักข่าวเอเอฟพีชื่อดังเสียชีวิตกลางสมรภูมิ เคยรายงาน "อาวุธเคมีฟอสฟอรัส" ใช้ในบัคมุต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - เยฟเกนี พริโกซิน ยังคงเปิดโปงไม่เลิกถึงแม้ยอมถอยจะไม่ถอนกำลังกลุ่มกองกำลังทหารรับจ้างวากเนอร์ออกจากบัคมุต หลังเครมลินประนีประนอมส่งกระสุนตามการเรียกร้อง ชี้ทหารรัสเซียในสมรภูมิบัคมุตหลบหนีทิ้งจุดที่ตั้งของตัวเอง ขณะเดียวกัน นักข่าวช่างภาพเอเอฟพีชื่อดังชาวฝรั่งเศส อาร์มาน โซลดิน (Arman Soldin) เคยรายงานเรื่องพบอาวุธเคมีฟอสฟอรัสถูกใช้โจมตีบัคมุตเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เสียชีวิตแล้วในบัคมุตหลังรัสเซียเปิดการโจมตี

อัลญาซีเราะฮ์ รายงานวานนี้ (9 พ.ค.) ว่า เยฟเกนี พริโกซิน (Yevgeny Prigozhin) หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ของรัสเซีย ที่ในภายหลังเปลี่ยนใจไม่สั่งถอนกำลังออกไปจากสนามรบบัคมุตภายในวันที่ 10 พ.ค. เกิดขึ้นหลังเครมลินประกาศเสนอส่งกระสุนเพิ่มให้

ล่าสุด เขายังคงออกมาโจมตีผู้นำทางการทหารของรัสเซียต่อในวิดีโอคลิปที่โพสต์วันอังคาร (9) ทางช่องทางเทเลแกรมของตัวเอง

พริโกซินซึ่งนอกจากเป็นหัวหน้ากองกำลังวากเนอร์ ยังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็น "เชฟของปูติน" และมีภัตตาคารอาหารและฟาสต์ฟูดชื่อดังในรัสเซีย รวมไปถึงเคยมีภาพทำงานในฐานะเชฟให้ผู้นำรัสเซียร่วมกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ จอร์จ ดับเบิลยู บุช จูเนียร์ ผู้ลูก และรวมไปถึงนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเนทรา โมดี มาแล้ว ได้กล่าวอย่างเดือดดาลว่า กำลังทหารรัสเซียกำลังหนีทัพเป็นเพราะความงี่เง่าของบรรดาผู้บัญชาการกองกำลังรัสเซียทั้งหลาย

“ทหารรัสเซียไม่สมควรต้องตายเป็นเพราะความงี่เง่าโดยสมบูรณ์แบบของผู้นำของเขาเอง” พริโกซินกล่าว และเสริมต่อว่า “คำสั่งที่คนเหล่านี้ได้รับจากระดับสูงนั้นเป็นอาชญากรรมอย่างแน่นอน”

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยผ่านแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า “กองกำลังโจมตี” ที่ปกติจะอ้างไปถึงกลุ่มทหารรับจ้างของวากเนอร์ยังคงสู้รบอยู่ในทางตะวันตกของบัคมุตต่อไป

ทางกระทรวงยืนยันว่า กลุ่มกึ่งกองกำลังทหารรัสเซียให้การสนับสนุน แต่ไม่ได้เอ่ยไปถึงข้อกล่าวหาจากพริโกซินเรื่องทหารรัสเซียหนีทัพทิ้งที่ตั้งทางการทหารของตัวเอง

สมรภูมิรบบัคมุตกลายเป็นสมรภูมิเลือดที่ดุเดือดและยาวนานที่สุดระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยกลุ่มทหารรับจ้างรัสเซีย วากเนอร์ เป็นหัวหอกในการสู้รบที่บัคมุต

ซึ่งในวันอังคาร (9) พริโกซินออกมาอ้างว่า ทั้งตัวเขาและกลุ่มวากเนอร์จะถูกมองว่า “เป็นคนทรยศ” หากว่าละทิ้งออกไปจากสนามรบบัคมุตเหมือนตามที่เคยได้ประกาศไว้ก่อนหน้า

บัคมุตกลายเป็นสนามรบเลือดที่คร่าชีวิตนักข่าวเอเอฟพีเกาะติดการรายงานการสู้รบที่นี่ล่าสุด เดอะการ์เดียนของอังกฤษ รายงานวันอังคาร (9) ว่า นักข่าวช่างภาพเอเอฟพีชื่อดังชาวฝรั่งเศส อาร์มาน โซลดิน (Arman Soldin) วัย 32 ปี ที่เคยมีผลงานรายงานเรื่องพบการใช้สารฟอสฟอรัสเป็นอาวุธเคมีเพื่อโจมตีบัคมุต ล่าสุดเขาเสียชีวิตลงที่นี่หลังรัสเซียเปิดฉากการโจมตี

โซลดิน อัปเดตความเคลื่อนไหวของตัวเองรายงานสดจากบัคมุตล่าสุดครั้งสุดท้ายเมื่อวันจันทร์ (8) ภาพโปรไฟล์ของเขาที่มีแมวสีเหลืองเกาะอยู่เป็นที่รู้จัก

ทั้งนี้ ก่อนหน้าในวันที่ 6 พ.ค. เขาโพสต์ทวิตเตอร์รายงานประกอบคลิปเหตุการณ์ว่า เมืองบัคมุตถูกโจมตีด้วยอาวุธฟอสฟอรัสในคืนที่ผ่านมา โดยอ้างจากกองกำลังรบพิเศษยูเครน SOF (SPECIAL OPERATIONS FORCES OF UKRAINE) ซึ่งหน่วยนี้มีมือสไนเปอร์แม่นปืนอยู่ด้วย

โซลดินกล่าวว่า “บัคมุตนั้นเหลือตึกสูงไม่กี่แห่งและฟอสฟอรัสกัดกร่อนทุกสิ่งและทำให้แสงสว่างจ้าขึ้นสำหรับปฏิบัติการกลางคืน สร้างควันกำบังสำหรับการโจมตี” เดลีเทเลกราฟของอังกฤษ รายงาน 4 วันก่อนหน้าว่า รัสเซียใช้อาวุธเคมีฟอสฟอรัสโจมตีบัคมุตเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลัง เยฟเกนี พริโกซิน ข่มขู่จะถอนกำลังทหารรับจ้างรัสเซียของตัวเองออกหากไม่ได้กระสุนเพิ่ม

CRUX สื่ออินเดียชื่อดังรายงานว่า เคียฟออกมากล่าวหาว่า รัสเซียใช้อาวุธฟอสฟอรัสขาวโจมตีเมืองบัคมุตจนสว่างไสวไปทั่ว เป็นภาพที่ปรากฏไปทั่วนั้นมาจากโดรน

เดอะการ์เดียนรายงานว่า ช่างภาพนักข่าวเอเอฟพีคนนี้เสียชีวิตลงในวันจันทร์ (8) เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มิสไซล์ Grad โจมตีไปยังที่ตั้งที่เขาอยู่ ซึ่งเขาฝังตัวกับหน่วยทหารยูเครนในเมือง Chasiv Yar ห่างจากบัคมุตไปราว 10 กม.

ทั้งนี้ เพื่อนร่วมงานอยู่กับเขาในช่วงเกิดเหตุ โดยทั้งทีมเว้นโซลดินปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บ สำนักข่าวเอเอฟพีออกแถลงการณ์เสียใจต่อการเสียชีวิตของ อาร์มาน โซลดิน ซึ่งนับตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่มต้นมีนักข่าวไม่ต่ำกว่า 11 คนเสียชีวิต
















กำลังโหลดความคิดเห็น