จีนเพิ่มคลังสำรองทองคำของประเทศเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือนเมษายน สู่ระดับ 66.76 ล้านออนซ์ (1,893 ตัน) ท่ามกลางความตื่นตระหนกทางการเงินโลก ซึ่งมีชนวนเหตุจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของสหรัฐฯ อันนำมาซึ่งวิกฤตภาคธนาคารที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ เวลานี้
พวกผู้เชี่ยวชาญมองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนต่างๆ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อระดับสูง และความเสี่ยงอื่นๆ
จากข้อมูลของธนาคารกลางจีนที่เผยแพร่ในวันอาทิตย์ (7 พ.ค.) คลังสำรองทองคำของจีน เพิ่มขึ้น 260,000 ออนซ์ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และหากนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2022 จีนได้จัดซื้อทองคำไปแล้วมากกว่า 4.12 ล้านออนซ์
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในไตรมาสแรก เพิ่มเติมทองคำ 228.4 ตัน เข้าสู่คลังสำรองโลก เพิ่มขึ้นถึง 176% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามข้อมูลของสภาทองคำโลกที่เผยแพร่ในวันศุกร์ (5 พ.ค.)
การยกระดับเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางประเทศต่างๆ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนทั่วโลกสูญเสียความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อการถือครองสินทรัพย์ดอลลาร์สหรัฐ นำมาซึ่งการเทขายสินทรัพย์นี้ และเร่งเข้าซื้อทองคำ จากความเห็นของ ตง เติ้งซิน ผู้อำนวยการสถาบันการเงินและหลักทรัพย์ แห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอู่ฮั่น ที่ให้สัมภาษณ์กับโกลบอลไทม์สในวันอาทิตย์ (7 พ.ค.)
ส่วน เหลียง ไห่หมิง คณบดีสถาบันวิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road) แห่งมหาวิทยาลัยไห่หนาน ให้สัมภาษณ์กับโกลบอลไทมส์ ว่า กองทุนระหว่างประเทศไปออกันที่ทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เนื่องด้วยตลาดการเงินโลกมีความกังวลความเสี่ยงเพิ่มเติมจะปรากฏขึ้นในภาคธนาคารสหรัฐฯ ตามหลังการล่มสลายล่าสุดของสถาบันการเงินเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์
ว่ากันว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เป็นหนึ่งในปัจจัยของการพังครืนของภาคธนาคารอเมริกา แต่เมื่อวันพุธ (3 พ.ค.) เฟดแถลงว่ามีแผนปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 10 ในวงจรปัจจุบัน
รายงานจากสภาทองคำโลก ระบุว่าจีนพบเห็นสัญญาณที่ผ่อนคลายมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงไตรมาสแรกในยุคหลังโควิด-19 พร้อมระบุว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและรายได้ที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง กระพือการบริโภคภายในประเทศ และราคาทองคำที่น่าสะดุดตาอย่างมากได้กระตุ้นความสนใจจากนักลงทุน
เหลียง กล่าวว่า จีนจำเป็นต้องลงทุนในทองคำมากยิ่งขึ้น สืบเนื่องจากหยวนเริ่มกลายเป็นสกุลเงินสากลมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คลังสำรองทองคำของประเทศจำเป็นต้องมีรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อสนับสนุนกระบวนการดังกล่าว
จีนเพิ่มทุนสำรองระหว่างประเทศเป็น 3.20 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนเมษายน ในนั้นมากกว่า 20,900 ล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม จากการเปิดเผยของสำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศของจีน (State Administration of Foreign Exchange : SAFE) เมื่อวันอาทิตย์ (7 พ.ค.)
SAFE ระบุว่า ผลกระทบจากนโยบายการเงินและตัวเลขการคาดการณ์สำหรับเศรษฐกิจหลักๆ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงและราคาสินทรัพย์การเงินโลกพุ่งขึ้น เป็นตัวกระตุ้นให้ต้องเพิ่มทุนสำรองหว่างประเทศ เพื่อรับมือกับผลกระทบรวมกันของการแปลงเงินตราและการเปลี่ยนแปลงของราคาทรัพย์สิน
ตง กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของทุนสำรองระหว่างประเทศสะท้อนถึงการส่งออกที่เฟื่องฟูของประเทศและการเติบโตของกระแสไหลเข้าของการลงทุนของต่างประเทศ ซึ่งไหลเข้าสู่ทุนสำรองระหว่างประเทศโดยตรง พร้อมชี้ว่าสถาบันระหว่างประเทศและบรรดานักลงทุน มีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน
(ที่มา : โกลบอลไทม์ส)