xs
xsm
sm
md
lg

ยังไงกันนี่! องค์การอนามัยโลกไล่ออก “นักวิทยาศาสตร์นำทีมบุกตรวจกำเนิดโควิด-19 ในจีน” อ้างมีพฤติกรรมเสื่อมเสียทางเพศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - องค์การอนามัยโลกแถลงยืนยันสั่งปลด ปีเตอร์ เบน เอ็มบาเรค (Peter Ben Embarek) นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังเดนมาร์กที่นำคณะ WHO บุกเยือนจีนเพื่อสืบหาต้นกำเนิดโควิด-19 เมื่อ 2 ปีก่อน แถลงเป็นการสั่งปลดออกเมื่อปีที่แล้วหลังพบมีความประพฤติความผิดทางเพศ

เอพีรายงานวานนี้ (4 พ.ค.) ว่า องค์การอนามัยโลกแถลงว่า ทางหน่วยงานเพิ่มมาตรการในการถอนรากถอนโคนปัญหาการละเมิดทางเพศ การล่อลวงหาประโยชน์ทางเพศ และรวมไปถึงการคุกคามภายในองค์กรในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังมีหลายคดีเกิดขึ้นและถูกแฉผ่านหน้าสื่อ

โฆษกหญิง WHO มาร์เซีย พูล (Marcia Poole) แถลงผ่านทางทางอีเมลมีใจความว่า “ปีเตอร์ เบน เอมบาเรค (Peter Ben Embarek) ถูกสั่งให้ออกจากงานหลังค้นพบการประพฤติผิดทางเพศต่อตัวเขาและสอดคล้องไปกับกระบวนการทางวินัย”

พร้อมยืนยันว่า “ผลการค้นพบเกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียนเรื่องอื้อฉาวเมื่อปี 2015-2017 ที่ทีมการสอบสวนของ WHO ได้รับครั้งแรกในปี 2018”

โฆษกชี้แจงว่า อย่างไรก็ตามข้อร้องเรียนอื่นไม่สามารถสืบสวนได้อย่างสมบูรณ์เป็นเพราะ “เหยื่อที่เกี่ยวข้องไม่ต้องการเข้าร่วมในกระบวนการสอบสวน”

เบน เอมบาเรค ไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นในทันที ซึ่งเรื่องที่เขาถูกองค์การอนามัยโลกปลดออกจากงานถูกรายงานครั้งแรกจากไฟแนนเชียลไทม์ส์

ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปี 2021 เขาเป็นผู้นำคณะผู้เชี่ยวชาญนานาชาติของ WHO เดินทางไปตลาดสดอาหารทะเลอู่ฮั่น เพื่อสอบสวนต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ยังทำงานใกล้ชิดกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จีนเพื่อบ่งชี้ว่าไวรัสสามารถแพร่ระบาดติดสู่คนได้อย่างไร

เอพีรายงานว่า เบน เอมบาเรค ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อระบาดจากสัตว์สู่มนุษย์ชาวเดนมาร์กให้สัมภาษณ์กับทีวีเดนมาร์กภายหลังในปี 2021 ว่า เขามีความวิตกเกี่ยวกับห้องแล็บวิทยาศาสตร์จีนใกล้กับตลาดสดอู่ฮั่น

ซึ่งผลกระทบต่อการที่เขาถูกไล่ออกต่อความพยายามในการรู้ถึงต้นต่อโควิด-19 ในเวลานี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะทีมนักวิทยาศาสตร์จีนที่ร่วมการสอบสวนขององค์การอนามัยโลกถูกยุบ และรวมไปถึงคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ

ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 80 คนของ WHO และพันธมิตรนั้นพบเคยข่มขืนสตรีและเด็กผู้หญิง ที่เรียกร้องให้หลับนอนเพื่อแลกเปลี่ยนกับงาน และมีการบังคับให้เหยื่อบางคนต้องยุติการตั้งครรภ์ ถือเป็นเรื่องอื้อฉาวการละเมิดทางเพศที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์องค์การอนามัยโลก เอพีกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น