สำนักพระราชวังบักกิงแฮม และคณะผู้จัดงานเผย พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะเป็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ตระการตาที่สุดของอังกฤษในหนึ่งชั่วอายุคน และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกด้วย
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ และสมเด็จพระราชินีคามิลลา จะทรงประกอบพิธีสวมมงกุฎ ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ในวันเสาร์ที่ 6 พ.ค. โดยพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษนี้ถือเป็นธรรมเนียมเก่าแก่ที่สืบทอดกันมายาวนานถึง 1,000 ปี และจะมีทหารอังกฤษหลายพันนายเข้าร่วมในขบวนเสด็จพระราชดำเนินซึ่งจะมีความยาวประมาณ 1 ไมล์
“นี่คือช่วงเวลาอันน่าภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของเรา” เอิร์ล มาร์แชล เอ็ดเวิร์ด ฟิตซาลัน-โฮเวิร์ด ดยุคแห่งนอร์ฟอล์ก ซึ่งเป็นขุนนางอาวุโสสูงสุดของอังกฤษ และเกิดในตระกูลที่รับผิดชอบเรื่องพระราชพิธีหลวงมาตั้งแต่ปี 1483 ให้สัมภาษณ์
“นี่ยังเป็นเวลาที่เราจะได้ตระหนักและภาคภูมิใจในความเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ และรัฐธรรมนูญแบบไม่มีลายลักษณ์อักษรซึ่งทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยม ตลอดช่วงเวลาในประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปี”
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้จะใช้กำลังทหารเข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 7,000 นาย โดย 4,000 นายจะร่วมอยู่ในขบวนเสด็จ จากมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์กลับมายังพระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลาจะเสด็จออกสีหบัญชรในเวลาประมาณ 14.15 น.
สำนักพระราชวังอังกฤษได้ประกาศแล้วว่า พระราชพิธีในครั้งนี้จะแตกต่างจากเมื่อคราวของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงยุคสมัยที่แตกต่างกัน โดยพระราชพิธีสวมมงกุฎภายในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์วันเสาร์นี้ (6) จะมีแขกเข้าร่วมเพียง 2,300 คน เมื่อเทียบกับงานของสมเด็จพระราชินีนาถ ในปี 1953 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 8,000 คน อีกทั้งขั้นตอนพิธีต่างๆ ถูกลดทอนเพื่อให้ใช้เวลาสั้นลงด้วย
กระนั้นก็ตาม กลุ่มต่อต้านราชวงศ์และนักวิจารณ์บางคนยังอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามถึง “ค่าใช้จ่าย” ในการจัดพระราชพิธีนี้ ในขณะที่คนอังกฤษจำนวนมากกำลังเผชิญวิกฤตค่าครองชีพสูง
โฆษกสำนักพระราชวังอ้างอิงรายงานซึ่งระบุว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้จะช่วยให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 1,000 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 42,600 ล้านบาท
“ผมไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเลขนี้จะแม่นยำขนาดไหน ทว่าในทางทฤษฎีแล้ว การจัดงานเฉลิมฉลองถือเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี” โฆษกสำนักพระราชวังระบุ พร้อมเสริมว่าการที่ประมุขรัฐต่างๆ เสด็จ และเดินทางมาร่วมพิธียังถือเป็นโอกาสอันดีในการสร้าง “เครือข่าย” อีกด้วย
ด้านบริษัทที่ปรึกษา Pantheon Macroeconomics ประเมินว่า การที่รัฐบาลกำหนดวันหยุดพิเศษเพิ่มสำหรับสถาบันการเงินต่างๆ ในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จะทำให้จีดีพีของอังกฤษในเดือน พ.ค. ลดลง 0.2% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน
ที่มา : รอยเตอร์