นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ผู้ได้ฉายาว่าเป็น “บิดาแห่งปัญญาประดิษฐ์” (Godfather of artificial intelligence) ออกมาเตือนสังคมให้ตระหนักถึง “พิษภัย” ของเอไอ ซึ่งเขามองว่าวันหนึ่งอาจฉลาดล้ำเกินมนุษย์ที่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมา
เจฟฟรีย์ ฮินตัน (Geoffrey Hinton) ซึ่งเป็นผู้วางรากฐานเทคโนโลยีให้ระบบเอไอ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า ความก้าวหน้าที่รวดเร็วของเอไอกำลังเป็น “ความเสี่ยงร้ายแรงต่อสังคมและมนุษยชาติ”
“คุณลองเปรียบเทียบเมื่อ 5 ปีที่แล้วกับตอนนี้ดูสิว่าเป็นยังไง” ฮินตัน กล่าวในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (1 พ.ค.)
“สังเกตความแตกต่าง และนึกไปถึงวันข้างหน้า มันน่ากลัวนะ”
ฮินตัน ชี้ว่า การที่บริษัทเทคยักษ์ใหญ่แข่งกันพัฒนาและปล่อยผลิตภัณฑ์เอไอออกสู่ท้องตลาดในอัตราที่เร็วมากเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และยังเอื้อต่อการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนด้วย
“มันยากที่จะคิดว่า คุณจะป้องกันไม่ให้คนเลวๆ นำเอไอไปใช้ในทางที่ผิดได้อย่างไร” ฮินตัน ตั้งข้อสังเกต
เมื่อปี 2022 ทั้งกูเกิลและ OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัปผู้พัฒนาแชตบอต ChatGPT ต่างเริ่มพัฒนาระบบเอไอที่ใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่กว่าที่เคยมีมา และด้วยการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากเช่นนี้ทำให้ ฮินตัน เชื่อว่า เครื่องมือเอไอเหล่านี้อาจเฉลียวฉลาด “เกินมนุษย์” ไปแล้วในบางแง่มุม
“บางทีการทำงานของระบบเหล่านี้อาจจะดีกว่าการทำงานของสมองคนเราไปแล้วก็เป็นได้” เขาบอกกับนิวยอร์กไทม์ส
แม้เอไอจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของมนุษย์ ทว่าความแพร่หลายอย่างรวดเร็วของแชตบอตอย่าง ChatGPT กำลังทำให้ตำแหน่งงานบางประเภทตกอยู่ในความเสี่ยง
“เอไอช่วยลดการใช้แรงงานคนสำหรับภาระงานที่ซ้ำซากจำเจ (drudge work) แต่วันหนึ่งมันอาจทำมากกว่านั้นก็ได้” ฮินตัน เตือน
นักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ยังเตือนด้วยว่า เอไออาจกลายเป็นเครื่องมือเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน และทำให้คนทั่วๆ ไปยากที่จะตัดสินได้ว่า “อะไรกันแน่คือความจริง”
ฮินตัน ได้ยื่นจดหมาย “ลาออก” จากบริษัทกูเกิลเมื่อเดือน มี.ค. ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์ส
เดือนที่แล้ว อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของทวิตเตอร์ สเปซเอ็กซ์ และเทสลา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนได้ออกมาเรียกร้องให้บริษัทเทคต่างๆ “ระงับ” การพัฒนาเอไอ จนกว่าจะมั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้ปลอดภัยต่อมนุษย์จริงๆ
จดหมายเปิดผนึกซึ่งมีผู้เข้าชื่อมากกว่า 1,000 คน รวมถึงมัสก์ และสตีฟ วอซนิแอค (Steve Wozniak) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล ถูกเผยแพร่ตามหลังการเปิดตัว GPT-4 (Generative Pre-trained Transformer 4) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเอไอรุ่นที่ 4 ที่ถูกอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งกว่า GPT-1, GPT-2 และ GPT-3
ฮินตัน ไม่ได้ร่วมลงชื่อในจดหมายดังกล่าว แต่เขาก็ฝากคำเตือนไปถึงบรรดานักวิทยาศาสตร์ว่า “อย่าได้เร่งกระบวนการพัฒนา (เอไอ) ให้มากไปกว่านี้ จนกว่าจะมั่นใจว่ารู้วิธีที่จะควบคุมมันได้”
ที่มา : เอเอฟพี