xs
xsm
sm
md
lg

ซูดานยังรบหนักแม้ทหาร 2 ฝ่ายต่อเวลาหยุดยิง ยูเอ็นเตือนวิกฤตมนุษยธรรมใกล้ถึงจุดแตกหัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ควันไฟดำโขมงลอยเหนืออาคารต่างๆ ในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดานในวันจันทร์ (1 พ.ค.) ขณะการสู้รบกันระหว่างกองทหารที่นำโดยอับเดล ฟัตตาห์ อัล-เบอร์ฮาน ผู้บัญชาการทหารบก กับกองกำลังที่ภักดีต่อโมฮัมเหม็ด ฮันดาน ดาโกล ผู้บัญชาการกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (อาร์เอสเอฟ) ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3
การสู้รบยังคงปะทุดุเดือดขึ้นอีกในวันจันทร์ (1 พ.ค.) แม้ทหารสองฝ่ายในซูดานตกลงขยายเวลาหยุดยิงออกไป 72 ชั่วโมง และยูเอ็นเตือนว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมใกล้ถึง “จุดแตกหัก” ก็ตาม

ประชาชนกว่า 500 คนเสียชีวิตนับตั้งแต่การต่อสู้ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายนระหว่างกองทหารที่นำโดยอับเดล ฟัตตาห์ อัล-เบอร์ฮาน ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นผู้นำทางพฤตินัยของซูดาน กับกองกำลังที่ภักดีต่อโมฮัมเหม็ด ฮันดาน ดาโกล ผู้บัญชาการกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (อาร์เอสเอฟ) อันเป็นกองกำลังกึ่งทหารทรงอิทธิพล

นับจากนั้นชาวซูดานหลายล้านคนทั้งในกรุงคาร์ทูม และที่อยู่ห่างออกไปต้องพากันซ่อนตัวอยู่ในบ้านในสภาพที่ขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำ และไฟฟ้า

อัล-เบอร์ฮาน และดาโกล ตกลงหยุดยิงมาหลายครั้งแต่แล้วก็มีการละเมิดทุกครั้ง และล่าสุดนี้ยังตกลงขยายเวลาข้อตกลงหยุดยิงฉบับที่หมดอายุตอนเที่ยงคืนวันอาทิตย์ (30 เม.ย.) ออกไปอีก 72 ชั่วโมง ขณะต่างฝ่ายต่างโทษอีกฝ่ายหนึ่งว่าละเมิดข้อตกลง

กองทัพบกซูดานแสดงความหวังว่า “กลุ่มกบฏ” จะเคารพข้อตกลงหยุดยิง แต่เชื่อว่า แท้จริงแล้วกลุ่มกบฏต้องการโจมตีต่อ และเมื่อเช้าวันจันทร์ (1) มีเสียงปืนใหญ่ การโจมตีทางอากาศ และปืนต่อต้านอากาศยานดังสนั่นในคาร์ทูม

ทั้งนี้ กองทัพบก และอาร์เอสเอฟเคยร่วมกันโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในการรัฐประหารเมื่อเดือนตุลาคม 2021 แต่ต่อมากลับแย่งชิงอำนาจกันเองและทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยชะงักงัน อีกทั้งบ่อนทำลายเสถียรภาพของภูมิภาคในแอฟริกาที่อ่อนแออยู่แล้วแห่งนี้

กระทรวงสาธารณสุขซูดานให้ตัวเลขว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 528 คน และบาดเจ็บ 4,599 คน ซึ่งแม้สหประชาชาติรายงานยอดผู้เสียชีวิตใกล้เคียงกัน แต่เชื่อว่า ตัวเลขจริงสูงกว่านี้มาก

การสู้รบระหว่างทหารทั้งสองฝ่าย ทำให้ซูดานเสี่ยงเข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมืองแบบเต็มขั้น ขณะที่ชาวซูดานหลายล้านคนอยู่ในสภาพหนีไปไหนไม่ได้ เวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์จำนวนมากเสียชีวิต ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมถูกปล้น และกลุ่มบรรเทาทุกข์ต่างชาติถูกบีบให้ระงับปฏิบัติการช่วยเหลือทั้งหมด

มาร์ติน กริฟฟิธ รองเลขาธิการสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า การสู้รบทำให้วิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในซูดานใกล้ถึงจุดแตกหัก โดยประชากร 1 ใน 3 ของประเทศนี้ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือบางรูปแบบ

กริฟฟิธเสริมว่า ระดับความรุนแรงและความรวดเร็วของวิกฤตการณ์ในซูดานเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งยูเอ็นกังวลอย่างมากทั้งผลกระทบเฉพาะหน้าและผลกระทบระยะยาวต่อประชาชนในซูดาน และในภูมิภาค

เขายังบอกอีกว่า สิ่งของจำเป็นต่อความอยู่รอดของประชาชนในศูนย์กลางเมืองที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์ทูม เวลานี้ขาดแคลนหนัก ขณะที่ค่าขนส่งจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด ทำให้ประชาชนที่เสี่ยงที่สุดไม่สามารถหนีไปยังที่ปลอดภัยได้

ขณะหน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยของยูเอ็นระบุว่า มีชาวซูดานราว 50,000 คน สามารถหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ชาด อียิปต์ และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง

การสู้รบยังทำให้ชาวต่างชาติและเจ้าหน้าที่หน่วยงานระหว่างประเทศหลั่งไหลออกจากซูดาน โดยประเทศต่างๆ ทั่วโลกเร่งอพยพพลเมืองของตนทั้งทางภาคพื้นดิน ทะเล และอากาศ

โครงการอาหารโลกของยูเอ็นแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า จะยกเลิกการระงับปฏิบัติการในซูดานที่ประกาศเมื่อวันที่ 16 เมษายนหลังเจ้าหน้าที่ 3 คนเสียชีวิตจากการสู้รบระหว่างทหารสองฝ่าย

ทั้งนี้ อัล-เบอร์ฮานประกาศว่า จะไม่ยอมร่วมโต๊ะเจรจากับดาโกล ซึ่งออกตัวเช่นกันว่า จะเจรจาต่อเมื่อกองทัพบกยุติการเป็นปรปักษ์เท่านั้น

ในคาร์ทูม การสู้รบระหว่างกองทัพกับอาร์เอสเอฟปะทุขึ้นในเขตที่อยู่อาศัย และกองทัพที่มีอาวุธดีกว่า พยายามใช้โดรนและเครื่องบินรบโจมตีอาร์เอสเอฟที่มีปฏิบัติการยืดหยุ่นรวดเร็วกว่าและกระจายอยู่ทั่วเมือง

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น