เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนในความพยายามช่วยเหลือธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก ที่กำลังประสบปัญหา หลังจากความพยายามของบริษัทต่างๆ ในภาคเอกชน จนถึงตอนนี้ยังคงประสบความล้มเหลว ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงแหล่งข่าวเมื่อวันศุกร์ (28 เม.ย.)
รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า บรรษัทประกันเงินฝากสหรัฐฯ (Federal Deposit Insurance Corporation หรือ FDIC) กระทรวงการคลัง และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เตรียมประชุมกับบริษัทการเงินทั้งหลายในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า ในความพยายามมอบสายช่วยชีวิตแก่ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก
แหล่งข่าวอ้างว่าก้าวย่างดังกล่าวอาจเปิดทางให้ฝ่ายต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้เพิ่มเติม ในนั้นรวมสถาบันการเงินทั้งหลายและบรรดาบริษัท private equity อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวบอกว่ายังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลกำลังพิจารณามีส่วนร่วมในแผนช่วยเหลือธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิกของภาคเอกชนด้วยหรือไม่ พร้อมเน้นว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มองข้อตกลงภาคเอกชนว่าเป็นหนทางที่ดีกว่า ดีกว่าบรรษัทประกันเงินฝากสหรัฐฯ เข้าพิทักษ์ทรัพย์ของเฟิร์สท์ รีพับลิก
"เรากำลังอยู่ระหว่างพูดคุยหารือกับหลายฝ่ายเกี่ยวกับทางเลือกด้านยุทธศาสตร์ของเรา ในขณะที่เรายังคงรับใช้ลูกค้าของเราต่อไป" ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก ระบุในถ้อยแถลง
รายงานข่าวของรอยเตอร์ สอดคล้องกับรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่ระบุก่อนหน้านี้ว่า FDIC ธนาคารกลางสหรัฐฯ และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กำลังหารือกับสถาบันการเงินหลายแห่งเกี่ยวกับการอัดฉีดสภาพคล่องให้แก่ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก หลังจากสถาบันการเงินที่มีปัญหาแห่งนี้ เผชิญการไหลออกของเงินฝากมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก
สถานะทางการเงินของเฟิร์สท์ รีพับลิก ยังคงไม่ดีขึ้น แม้ว่ากลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 11 แห่งของสหรัฐฯ ได้อัดฉีดเงินฝาก 30,000 ล้านดอลลาร์เพื่อพยุงสภาพคล่องของสถาบันการเงินแห่งนี้
แรงเทขายอย่างหนักส่งผลให้มูลค่าหุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก หายวับไปกว่า 75% ในสัปดาห์นี้ หลังจากพวกเขาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (24 เม.ย.) ว่ามีการไหลออกของเงินฝากมากกว่า 100,000 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี
การแห่ถอนเงินฝากมีขึ้นในขณะที่ธนาคารซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในซานฟรานซิสโกแห่งนี้ พยายามดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด มาตั้งแต่ภาคธนาคารของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตร้ายแรงอันมีต้นตอจากการพังครืนลงของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ และซิกเนเจอร์ แบงค์ ในเดือนมีนาคม
ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารผู้ให้กู้ของบริษัทเทคโนโลยีและธุรกิจสตาร์ทอัป ถูกผู้ควบคุมกฎระเบียบสั่งปิดตัวลงในเดือนที่แล้ว ไม่นานหลังจาก ซิลเวอร์เกต ธนาคารที่เน้นการให้บริการกับลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมคริปโตฯ ประกาศว่าปิดกิจการลงหลังจากที่ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรง ในขณะที่ซิกเนเจอร์ แบงก์ ถูกปิดตัวลงตามคำสั่งของผู้ควบคุมกฎระเบียบเช่นกัน สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่อง
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เฟิร์สท์ รีพับลิก เผชิญชะตากรรมเดียวกัน บรรดาสถาบันการเงินชั้นนำของสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้วได้อัดฉีดเงินฝาก 30,000 ล้านดอลลาร์เพื่อพยุงสภาพคล่องของธนาคารแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวซึ่งมีป้าหมายสร้างความเชื่อมั่นแก่ระบบธนาคารของประเทศ จนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าจะประสบความล้มเหลว ในขณะที่หุ้นของเฟิร์สท์ รีพับลิก ร่วลงไปแล้ว 97% ในปีนี้
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/รอยเตอร์)