(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
New-era leaker charged; old type is still around
By BRADLEY K. MARTIN
14/04/2023
เป็นข่าวดังเมื่อเร็วๆ นี้ กรณีของแจ็ค เทเซรา นายทหารชั้นประทวนวัยหนุ่ม นำข่าวกรองลับสุดยอดของทางการสหรัฐฯเกี่ยวกับสงครามยูเครน ไปปล่อยรั่วไหลในเว็บไซต์ของนักเล่นเกม โดยดูเหมือนมุ่งประสงค์ที่จะ “ให้ความรู้” แก่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ยกย่องนับถือเขา ก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ซีย์มอร์ เฮิร์ซ
นักข่าวอาวุโสที่เคยชนะรางวัลพูลิตเซอร์มาแล้ว ได้เขียนแฉว่าทางการสหรัฐฯเกี่ยวข้องเป็นหัวโจกในการระเบิดสายท่อส่งก๊าซ “นอร์ดสตรีม” โดยเขาอ้างอิงแหล่งข่าวที่อยู่ในแวดวงเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้ง เทเซรา และแหล่งข่าวของเฮิร์ซ ต่างเป็นผู้ทำให้ความลับสุดยอดของทางการสหรัฐฯรั่วไหลออกมาสู่ภายนอก แต่ขณะเดียวกัน ทั้งสองรายนี้ก็มีสิ่งที่แตกต่างกันอย่างมากมาย
พวกสมาชิกภายในชนชั้นนำในกรุงวอชิงตัน กำลังให้เครดิตแก่ ชาร์ลี สตีเวนสัน (Charlie Stevenson) [1] อาจารย์ด้านนโยบายการต่างประเทศคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) สำหรับข้อเขียนในจดหมายข่าวของเขาที่เสนอให้จำแนกแยกแยะพวกแหล่งข่าวซึ่งปล่อยเอกสารรับรั่วไหลออกไปสู่ภายนอก ออกมาเป็นประเภทใหม่อีกประเภทหนึ่ง นอกเหนือจากประเภทเดิมๆ ที่รู้จักคุ้นเคยกันอยู่แล้ว โดยเขาระบุด้วยว่าแหล่งข่าวประเภทใหม่นี้มีลักษณะเด่นตรงที่เป็น “พวกชอบโชว์ออฟ ที่ต้องการสาธิตให้เห็นว่าตนเองมีความรู้เรื่องต่างๆ ระดับวงใน”
แหล่งข่าวประเภทนี้อาจจะไม่ใช่ประเภทใหม่แบรนด์นิวจริงๆ ทีเดียวนัก เป็นต้นว่า มันอาจจะใช้อธิบายแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการแอบเก็บสะสมเอกสารลับของโดนัลด์ ทรัมป์ [2] ซึ่งเวลานี้กลายเป็นหัวข้อการสอบสวนเรื่องหนึ่งของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ไปเรียบร้อยแล้ว
แต่การให้คำจำกัดความอย่างเร็วๆ ของสตีเวนสัน อาจจะเหมาะเหม็งสำหรับ แจ็ค เทเซรา (Jack Teixeira) ผู้ถูกเอฟบีไอจับกุมตัวเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากต้องสงสัยว่าเขาเป็นผู้ที่นำเอาเอกสารจำนวนมากของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ซึ่งถูกจัดชั้นเป็นเอกสารลับและลับมาก ไปเผยแพร่ทางเว็บไซต์ “ดิสคอร์ด” (Discord) ของพวกนักเล่นเกมวิดีโอ --โดยที่เว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์หนึ่ง ซึ่งวอชิงตันโพสต์รายงาน [3] ว่า นายทหารชั้นผู้น้อยระดับจ่าอากาศวัย 21 ปี สังกัดอยู่กับกองกำลังทางอากาศของกองทหารรักษาดินแดนแห่งชาติรัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Air National Guard) ผู้นี้แหละเป็นผู้บริหาร ด้วยจุดประสงค์เพื่อความบันเทิงสนุกสนานของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งซึ่งยกย่องนับถือเขา
แม้จะพูดได้เช่นนี้ มันก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันที่จะต้องตระหนักเอาไว้ด้วยว่า พวกผู้ปล่อยเอกสารลับรั่วไหลประเภทเก่าๆ เดิมๆ ยังคงมีอยู่ ไม่ได้หายหน้าหายตาไปเลย (ทั้งนี้ ภายในระลอกโรคระบาดของการปล่อยความลับรั่วไหลที่ปรากฏอยู่ปัจจุบันนั้น ปรากฏว่า เรื่องที่รั่วไหลจำนวนมากทีเดียวเป็นความลับซึ่งเกี่ยวข้องกับสงครามยูเครน)
เฟรด แคเพลน (Fred Kaplan) แห่งนิตยสารออนไลน์ “สเลต” (Slate) [4] เขียนขยายความ เกี่ยวกับข้อเสนอจำแนกแยกแยะพวกผู้ปล่อยความลับรั่วไหลของ สตีเวนสัน เอาไว้ดังนี้ : “ในอดีตที่ผ่านมา เอกสารลับในด้านนโยบายการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่รั่วไหลออกมานั้น ส่วนใหญ่แล้วมาจาก 3 แหล่งด้วยกัน ได้แก่ พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่กำลังปล่อยของออกมาด้วยความมุ่งหมายที่จะทดสอบปฏิกิริยาตอบโต้ของฝ่ายต่างๆ, ฝ่ายที่ปราชัยในการต่อสู้กันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ, และพวกที่ได้เห็นความไม่ชอบมาพากลในหน่วยงาน และเปิดโปงออกมาด้วยเจตนาให้มีการหยุดยั้งกิจกรรมย่ำแย่เลวร้ายเหล่านี้ หรือที่เรียกขานกันว่า “คนเป่านกหวีด” (whistleblowers)”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของบุคคลที่จนถึงเวลานี้ยังไม่ถูกระบุตัวเป็นใครกันแน่ แต่เป็นแหล่งข่าวผู้ป้อนข้อมูลให้แก่ ซีย์มอร์ เฮิร์ช (Seymour Hersh) นักข่าวสืบสวนสอบสวนอิสระที่เคยชนะรางวัลพูลิตเซอร์มาแล้ว ข้อมูลที่ว่านี้เป็นเป็นข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของการปฏิบัติการระเบิดทำลายสายท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม (Nord Stream) ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างรัสเซียกับเยอรมนี จำนวน 3 ใน 4 จุดซึ่งเกิดขึ้นในเดือนกันยายนปีที่แล้ว และมีการกล่าวหากันว่าสหรัฐฯ เป็นหัวเรือใหญ่กระทำการคราวนี้ [5] เรื่องนี้ดูเหมาะสมที่สุดที่จะจัดให้อยู่ในพวกผู้ปล่อยเอกสารลับแบบเก่าแก่ดั้งเดิมประเภทที่ 2 นั่นคือ เป็นผลจากการต่อสู้ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ
การระเบิดสายท่อส่งก๊าซดังกล่าวนี้ถูกกล่าวหาว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อกำจัดทำลายอำนาจของวลาดิมีร์ ปูติน ในการใช้การส่งออกก๊าซรัสเซียมาแบล็กเมล์เยอรมนี ให้ถอนการสนับสนุนที่ให้แก่ยูเครน ขอให้เรามาลองตรวจสอบดูรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ในเรื่องการปล่อยข่าวรั่วของเทเซรา และรายงานของเฮิร์ช เรื่องการระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม เพื่อการเปรียบเทียบ 2 กรณีนี้
รายงานเกี่ยวกับเทเซรา ของวอชิงตันโพสต์
“ชายผู้ที่อยู่เบื้องหลังการรั่วไหลของเอกสารลับรัฐบาลสหรัฐฯ จำนวนมหาศาล [6] ซึ่งได้เปิดโปงให้เห็นทั้งพฤติการณ์การแอบสอดแนมสืบความลับจากพวกพันธมิตรด้วยกันเอง การเปิดโปงให้เห็นทิศทางอนาคตที่มืดมนของสงครามที่ยูเครนทำอยู่กับรัสเซีย [7] รวมทั้งจุดชนวน “อัคคีภัยทางการทูต” ครั้งมโหฬารให้แก่ทำเนียบขาว เป็นนักนิยมอาวุธปืนที่อยู่ในวัยหนุ่ม และมีเสน่ห์ดึงดูดใจ เขาแบ่งปันเปิดเผยเอกสารที่ถูกจัดชั้นเป็นความลับระดับสูงให้แก่กลุ่มผู้คนที่รู้จักมักคุ้นกันในแวดวงกว้างๆ ซึ่งเที่ยวมองหามิตรภาพไมตรีจิตในท่ามกลางความโดดเดี่ยวอ้างว้างเนื่องจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19”
นี่คือการเริ่มต้นรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ เกี่ยวกับชายผู้ซึ่งแต่ดั้งเดิม เป็นที่รู้จักกันเพียงแค่นามแฝงที่เป็นตัวอักษรย่อว่า OG แล้วจากนั้นวอชิงตันโพสต์ก็เดินเรื่องต่อไปดังนี้ :
กลุ่มผู้คนเหล่านี้ที่มีจำนวนราวๆ สัก 20 กว่าคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและเด็กชาย และรวมตัวกันได้เนื่องจากความรักความชอบที่มีอยู่ร่วมกันในเรื่องเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องมืออุปกรณ์ทางทหาร และพระเจ้า พวกเขามีการจัดตั้งคลับเฮาส์ออนไลน์ขึ้นมาแห่งหนึ่งที่เข้าไปใช้ได้เฉพาะผู้ได้รับเชิญเท่านั้นเมื่อปี 2020 บน “ดิสคอร์ด” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่นิยมกันมากในหมู่เกมเมอร์ [8] แต่พวกเขาจำนวนมากทีเดียวแทบไม่ได้ให้ความใส่ใจอะไรนัก เมื่อในปีที่แล้ว ชายผู้ซึ่งบางคนเรียกเขาว่า “OG” ได้โพสต์ข้อความที่บรรจุเอาไว้ด้วยตัวย่อประหลาดๆ และวลีที่ใช้กันอยู่เฉพาะวงการ ถ้อยคำเหล่านี้ช่างไม่คุ้นเคยกันเอาเลย และแทบไม่มีคนไหนอ่านข้อความยาวเหยียดนั่นหรอก สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มอธิบาย แต่เขาก็ยกย่องบูชา OG ผู้นำอาวุโสของเผ่าชนเผ่าเล็กๆ ของพวกเขา ผู้ซึ่งคุยอวดว่ารู้เรื่องความลับต่างๆ ซึ่งรัฐบาลเก็บงำซ่อนเร้นไม่ให้ผู้คนธรรมดาสามัญได้รับรู้....
จุดชุมนุมทางออนไลน์จุดนี้กลายเป็นแหล่งหลบภัยจากความอ้างว้างสืบเนื่องจากโรคระบาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพวกเกมเมอร์วัยทีนซึ่งถูกล็อกให้อยู่แต่ภายในบ้านของพวกเขา และตัดขาดจากพวกเพื่อนๆ ในโลกจริงๆ ของพวกเขา สมาชิกในกลุ่มนี้มีการแลกเปลี่ยนผลัดกันโพสต์มีม เรื่องโจ๊กกวนๆ และการคุยเล่นไร้สาระ พวกเขาชมภาพยนตร์ด้วยกัน เล่นมุกตลกขำขันไปทั่ว แล้วก็สวดอ้อนวอนพระเจ้าด้วยกัน แต่ OG ยังจะเลกเชอร์ให้พวกเขาได้รับรู้เกี่ยวกับกิจการโลก และการปฏิบัติการลับต่างๆ ของรัฐบาลอีกด้วย
ผู้นำของกลุ่ม (หมายถึง OG) ต้องการ “ให้เราได้รับรู้เรื่องราววงในต่างๆ” รายงานข่าวชิ้นนี้ของวอชิงตันโพสต์อ้างอิงคำพูดของสาวกคนหนึ่งของ OG “เขาเป็นคนที่ฉลาดมากๆ เขารู้ดีว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ในตอนที่เขาโพสต์เอกสารพวกนี้ แน่นอนเลยล่ะ มันไม่ใช่เป็นแบบว่าเกิดการรั่วไหลออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจหรอก”
สมาชิกวัยเยาว์ผู้หนึ่งของกลุ่มรู้สึกประทับใจในความสามารถที่ดูเหมือนกับเป็นศาสดาพยากรณ์ของ OG ในการทำนายเหตุการณ์ใหญ่ต่างๆ ก่อนที่มันจะปรากฏเป็นข่าวพาดหัว สิ่งต่างๆ ซึ่ง “มีแต่คนที่ได้รับสิทธิเข้าถึงความลับในระดับสูงเท่านั้น” จะทราบได้ ในคำพูดที่เขาเป็นผู้ใช้เอง สมาชิกวัยเยาว์ผู้นี้บอกว่าเขาหลงใหลยกย่องบูชา OG .... “เขาฟิต เขาแข็งแรง เขามีอาวุธ เขาผ่านการฝึกมาแล้ว เรียกว่ามีอะไรทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณคาดหมายจากพวกหนังบ้าๆ บอๆ บางชนิดแบบครบเครื่องหมดเลย” สมาชิกในกลุ่มผู้นี้กล่าว
ในคลิปวิดีโอที่วอชิงตันโพสต์ได้ชมคลิปหนึ่ง ชายผู้ที่สมาชิกคนหนึ่งบอกว่าคือ OG ยืนอยู่ที่สนามยิงปืน สวมแว่นป้องกันสายตาและสวมเครื่องป้องกันหู ขณะกำลังถือปืนไรเฟิลขนาดใหญ่กระบอกหนึ่ง เขาตะโกนคำด่าแบบเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาติ ตลอดจนแอนตี้ยิวออกมาเป็นชุด เข้าใส่กล้องที่กำลังจับภาพเขาอยู่ จากนั้นก็ระเบิดกระสุนจำนวนมากออกมาใส่เป้าหมาย
สมาชิกกลุ่มผู้นี้ดูเหมือนต้องมนตร์ขลังในการโอ่อวดความเก่งกล้าของ OG ตลอดจนทักษะความชำนาญในการใช้อาวุธต่างๆ ของเขา เขารู้สึกเหมือนมีสายสัมพันธ์ฉันญาติบางสิ่งบางอย่างกับชายผู้นี้ ซึ่งเขาบรรยายว่าเป็น “เหมือนกับคุณอาคนหนึ่ง” และในอีกโอกาสหนึ่ง เขาบอกว่า OG มีบุคลิกแบบเป็นคุณพ่อ
“ผมคือคนหนึ่งในผู้คนน้อยนิดเหลือเกินในเซิร์ฟเวอร์นี้ที่สามารถเข้าใจได้ว่า (เอกสาร) พวกนี้เป็นเอกสารที่เป็นของจริง” สมาชิกผู้นี้กล่าว ขณะจำแนกแยกแยะตัวเองให้แตกต่างออกมาจากคนอื่นๆ ในกลุ่มซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่สนใจไยดีกับสิ่งที่ OG โพสต์
“มันมีความรู้สึกเหมือนกับว่าผมอยู่บนยอดเขาเอเวอเรสต์” เขากล่าว “ผมรู้สึกเหมือนกับผมอยู่เหนือคนอื่นๆ ทุกคนในบางระดับ และนั่นเป็นเพราะ .... ผมรู้เรื่องต่างๆ ที่พวกเขาไม่รู้”
“พวกเราทั้งหมดมีความใกล้ชิดกับคนอื่นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับเป็นครอบครัวที่ผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น” สมาชิกผู้นี้บอก “พวกเราต่างพึ่งพาอาศัยกันและกัน” เขาเล่าว่าสมาชิกคนอื่นๆ และโดยเฉพาะ OG ได้ให้คำปรึกษาเขาระหว่างที่เขาเกิดความซึมเศร้าอยู่เป็นพักๆ และช่วยเหลือทำให้เขามีความสม่ำเสมอทางด้านอารมณ์ “เรื่องความรักที่ให้แก่กันและกันนั้นไม่มีขาดแคลนกันเลย”
OG คือผู้นำของกลุ่มอย่างชนิดไร้ข้อโต้แย้งใดๆ สมาชิกผู้นี้บรรยายถึงเขาว่าเป็น “คนเข้มงวด” เขาเรียกร้องบังคับให้มี “การเคารพกันตามลำดับอาวุโส” และคาดหมายเอาไว้ว่าคนอื่นๆ ต้องอ่านข้อมูลข่าวสารปิดลับที่เขาแชร์ให้อย่างใกล้ชิด ครั้นเมื่อความใส่ใจของพวกเขากลับจืดจางลงไป เขาก็จะรู้สึกโกรธเคือง
ตอนช่วงปลายปีที่แล้ว OG ซึ่งอยู่ในอารมณ์ยัวะจัด ได้ส่งข้อความแสดงความกราดเกรี้ยวไปถึงสมาชิกทั้งหมดของเซิร์ฟเวอร์ เขาบอกว่าเขาได้ใช้เวลาวันละเกือบ 1 ชั่วโมงทุกๆ วัน เพื่อเขียน “พวกโพสต์ยาวๆ และยืดเยื้อเหล่านี้ ซึ่งบ่อยครั้งตัวเขาได้เพิ่มเติมเรื่องราวประกอบและคำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับสิ่งต่างๆ ซึ่งพวกเราพลเมืองสามัญธรรมดาจะไม่มีทางเข้าใจได้เลย” สมาชิกผู้นี้บอก ทว่าพวกที่ควรต้องเป็นนักเรียนผู้ตั้งใจเรียนรู้ของ OG กลับให้ความสนใจมากกว่ากับพวกคลิปวิดีโอเกี่ยวกับอุปกรณ์ในสงครามที่เผยแพร่ทางยูทูป
“เขารู้สึกหงุดหงิดหัวเสีย และเขาพูดออกมาหลายครั้งว่า ถ้าหากพวกคุณยังไม่สนใจเอาเรื่องเอาราวกับเรื่องที่โพสต์มาให้อ่านเหล่านี้ ผมก็จะหยุดส่งให้พวกคุณแล้ว”
ตรงนี้เองเป็นช่วงที่ OG เปลี่ยนแปลงยุทธวิธี แทนที่จะใช้คีย์บอร์ดก๊อบปี้เอกสารพวกนี้ซึ่งกินเวลามาก เขาหันมาถ่ายภาพของตัวเอกสารจริงๆ และปล่อยออกไปในเซิร์ฟเวอร์
....
OG แบ่งปันเผยแพร่เอกสารจำนวนมากในแต่ละสัปดาห์ เริ่มต้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว .... OG สามารถที่จะยื่นมือเข้าไปหยิบฉวยข่าวกรองบางอย่างบางประการในรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับการรักษาปกป้องเอาไว้อย่างระแวงระวังที่สุด คุณย่อมต้องการที่จะโอ่อวด อย่างน้อยที่สุดก็สักนิดสักหน่อย ทำนองว่า เฮ้ ผมน่ะคนสำคัญนะ” สมาชิกรายนี้กล่าว “มันเป็นการโชว์ออฟเล็กๆ น้อยๆ ใส่เพื่อนฝูง แต่เวลาเดียวกันเขาก็ต้องการให้พวกเรามีความรู้ความเข้าใจด้วย”
รายงานข่าวชิ้นนี้ของวอชิงตันโพสต์ยังอ้างอิงที่สมาชิกผู้นี้บอกว่า
OG ไม่ได้เป็นปรปักษ์กับรัฐบาลสหรัฐฯ และเขายืนยันว่าเขาไม่ได้กำลังทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศอื่นๆ แห่งใด “เขาไม่ได้เป็นมือปฏิบัติงานลับของรัสเซีย เขาไม่ได้เป็นมือปฏิบัติการลับของยูเครน” สมาชิกผู้นี้กล่าว ห้องในเซิร์ฟเวอร์ที่เขาใช้โพสต์เอกสารเหล่านี้ถูกเรียกชื่อว่าเป็นห้อง “หมี VS หมู” (bear-vs-pig) เพื่อให้มีความหมายในเชิงเป็นการดูหมิ่นดูแคลนทั้งรัสเซียและยูเครน และเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า OG ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหนในการสู้รบขัดแย้งนี้
อย่างไรก็ตาม
OG มีทัศนะที่มองรัฐบาลสหรัฐฯ ในด้านมืด สมาชิกวัยเยาว์คนดังกล่าวบอกว่า เขาเคยพูดถึงสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และประชาคมข่าวกรอง ในฐานะที่เป็นกลุ่มพลังชั่วร้ายกลุ่มหนึ่งที่เที่ยวหาทางปราบปรามกำราบพลเรือนของตนและทำให้พวกเขาตกอยู่ในความมืดมิด เขาพูดแบบโผงผางตรงไปตรงมาเกี่ยวกับ “การทำอะไรอย่างเลยเถิดของรัฐบาล” OG บอกกับพวกเพื่อนมิตรทางออนไลน์ของเขาว่า รัฐบาลได้ซุกซ่อนปิดบังความจริงที่เลวร้ายต่างๆ ไม่ให้สาธารณชนรับรู้ ตามคำบอกเล่าของพวกสมาชิกในกลุ่ม เขายังอ้างด้วยว่ารัฐบาลนั้นทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่าเรื่องที่ผู้มีแนวความคิดสนับสนุนให้คนผิวขาวเป็นใหญ่เหนือใครๆ คนหนึ่งตั้งใจที่จะไปก่อเหตุกราดยิงอย่างบ้าเลือดในซูเปอร์มาร์เกตที่บัฟฟาโลในเดือนพฤษภาคม 2022
“แต่ถึงแม้ OG รู้สึกดูถูกดูหมิ่นรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ สมาชิกในกลุ่มคนดังกล่าวบอกว่า ไม่มีเครื่องบ่งชี้ใดๆ เลยว่าเขากำลังเปิดเผยความลับของทางราชการ ในลักษณะเป็นการแสดงตัวเพื่อมุ่งรักษาผลประโยชน์ของสาธารณชน เอกสารถูกจัดชั้นความลับที่เขานำออกมาเผยแพร่นั้น ตั้งใจเพียงเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ครอบครัวทางออนไลน์ของเขาเท่านั้น” สมาชิกผู้นี้กล่าวว่า “ผมจะไม่ขอเรียกเขาว่าเป็นคนเปิดโปงความไม่ชอบมาพากล (whistleblower) อย่างแน่นอน ผมจะไม่ขอเรียก OG ว่าเป็นนักเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลแม้แต่นิดเดียว” เขากล่าว ขณะที่คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการนำเอา OG ไปเปรียบเทียบกับเอดเวิร์ด สโนว์เดน (Edward Snowden) ผู้นำเอาเอกสารลับเกี่ยวกับการสอดแนมของรัฐบาลไปแชร์กับพวกนักหนังสือพิมพ์”
แหล่งข่าวของซีร์มอร์ เฮิร์ช
“ตราบใดยุโรปยังคงต้องพึ่งพาอาศัยสายท่อส่งก๊าซ เพื่อให้ได้ก๊าซธรรมชาติราคาถูก วอชิงตันก็หวาดกลัวว่าพวกประเทศอย่างเช่นเยอรมนี จะมีความลังเลในการจัดหาจัดส่งเงินทองและอาวุธให้แก่ยูเครนตามที่เคียฟต้องการเพื่อทำให้รัสเซียประสบความพ่ายแพ้” รายงานข่าวว่าด้วยนอร์ดสตรีมของ ซีย์มอร์ เฮิร์ช พูดเอาไว้เช่นนี้
“มันเป็น ณ ชั่วขณะแห่งความไม่ลงตัวนี้เองที่ ไบเดน สั่งการมอบอำนาจให้ เจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) (ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ) ไปนำเอากลุ่มซึ่งมาจากหน่วยงานต่างๆ มาเสนอแผนการขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง ทางเลือกทุกๆ ทางถูกวางอย่บนโต๊ะ แต่มีเพียงอันเดียวเท่านั้นที่จะปรากฏโฉมออกมา”
ในเดือนธันวาคมปี 2021 สองเดือนก่อนที่ขบวนรถถังรัสเซียขบวนแรกๆ จะแล่นตะลุยเข้าไปในยูเครน เจค ซัลลิแวน เปิดการประชุมของหน่วยงานเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ๆ หมาดๆ --ประกอบด้วยชายและหญิงที่มาจากกองบัญชาการคณะเสนาธิการทหารร่วม ซีไอเอ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลัง— และถามหาคำแนะนำข้อเสนอแนะในเรื่องวิธีการที่จะตอบโต้กับการรุกรานของปูติน ที่กำลังใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว ....
กลุ่มที่มาจากหน่วยงานต่างๆ กลุ่มนี้ ในตอนแรกๆ ทีเดียวมีความระแวงสงสัยในความกระตือรือร้นของซีไอเอที่จะให้ดำเนินการโจมตีในทะเลลึกแบบปิดลับ การปฏิบัติการเช่นนั้นมีคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้จำนวนมากมายเกินไป พื้นที่น่านน้ำของทะเลบอลติกตรงนี้มีกองทัพเรือรัสเซียคอยตรวจการณ์อย่างเข้มงวด แล้วก็ไม่มีฐานขุดเจาะน้ำมันในทะเลใดๆ เลยที่อาจสามารถใช้เป็นเครื่องอำพรางตัวให้แก่การปฏิบัติการที่จะต้องมีการดำลงน้ำลึก ....
ตลอดช่วง “การวางแผนการเรื่องนี้ทั้งหมด” แหล่งข่าวรายนี้กล่าว “คนที่กำลังทำงานอยู่ในซีไอเอและกระทรวงการต่างประเทศบางคนออกความเห็นว่า ‘อย่าทำเรื่องนี้เลย มันงี่เง่า และจะกลายเป็นฝันร้ายทางการเมืองถ้าหากมันถูกเปิดเผยออกมา’”
โอเค เป็นอันว่าแหล่งข่าวดั้งเดิมคนนี้ของ เฮิร์ช มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในกระบวนการตัดสินใจอันนี้เอง แต่รู้สึกว่ามีการนัดแนะเตี๊ยมกันเอาไว้ก่อน และแหล่งข่าวผู้นี้ไม่เห็นด้วยกับผลลัพธ์ทางนโยบายที่ออกมา
พวกสื่อกระแสหลัก –ซึ่งก็รวมถึงวอชิงตันโพสต์ และนิวยอร์กไทมส์ด้วย— พากันเพิกเฉยไม่แยแสการรายงานของ เฮิร์ข และในตอนแรกๆ ค่อนข้างแทบจะไม่มีแรงกดดันใดๆ เพื่อให้คณะบริหารไบเดนแสดงปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้ด้วยซ้ำ
แต่เมื่อแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นทุกที นิวยอร์กไทมส์ และกลุ่มรวมเฉพาะกิจของสื่อเยอรมนีก็จัดทำรายงานข่าวในเวอร์ชันที่แตกต่างไปออกมา โดยที่มุ่งประณามว่าตัวการระเบิดนอร์ดสตรีม คือ กลุ่มโปรยูเครนซึ่งถูกระบุกันออกมาอย่างคลุมเครือเต็มที เวอร์ชันดังกล่าว (หรือก็คือรายงานข่าวที่มุ่งกลบเกลื่อน?) จึงมีแต่ถูกหัวเราะเยาะจนกระทั่งในที่สุดแล้วต้องถอยลงจากเวทีไป [10]
หลังจากนั้น เฮิร์ข ได้เสนอรายงานข่าวชิ้นล่าสุด [11] ซึ่งมีเนื้อหาเป็นกล่าวหาการทุจริตคอร์รัปชันเงินช่วยเหลือที่ได้จากต่างประเทศของยูเครน โดยที่มีการระบุว่าเป็นการคอร์รัปชันในส่วนของตัวประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเองด้วย ตรงนี้แหละที่ดูเหมือน เฮิร์ช กำลังเล่าให้เราฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อของเขาซึ่งเขาเคยอ้างอิงถึงในรายงานข่าวชิ้นก่อนๆ ทั้งนี้ เขาเขียนเอาไว้ดังนี้ :
รัฐบาลยูเครนที่นำโดย โวโลดีมีร์ เซเลนสกี กำลังใช้เงินกองทุนซึ่งมาจากเงินทองของผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน ไปใช้จ่ายซื้อหาเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลที่เป็นของจำเป็นถึงขั้นเป็นตายทีเดียว โดยที่มันคือสิ่งที่กำลังประคับประคองกองทัพยูเครนให้สามารถเคลื่อนไหวในการทำสงครามกับรัสเซียต่อไปได้ ทว่านี่เป็นการซื้อหามาด้วยราคาแพงลิบลิ่ว .... เซเลนสกีกำลังซื้อเชื้อเพลิงดังกล่าวนี้จากรัสเซีย ประเทศซึ่งยูเครน และวอชิงตัน กำลังทำสงครามด้วย ทว่าทั้งประธานาธิบดีของยูเครนและบุคคลจำนวนมากในคณะผู้ติดตามของเขากลับกำลังแทะเล็มเงินเป็นล้านๆ จากเงินดอลลาร์อเมริกันซึ่งถูกระบุเอาไว้ว่าสำหรับจ่ายเป็นค่าเชื้อเพลิงดีเซล
“เซเลนสกีกำลังซื้อดีเซลแบบได้ลดราคาจากฝ่ายรัสเซีย” เจ้าหน้าที่ข่าวกรองชาวอเมริกันซึ่งน่าจะมีความรู้เรื่องนี้ได้บอกกับผม “แล้วใครล่ะที่เป็นคนจ่ายเงินสำหรับค่าก๊าซและค่าน้ำมันเหล่านี้?” พวกเรานี่ไง ปูตินและพวกชนชั้นนักธุรกิจทรงอิทธิพลทางการเมืองของเขากำลังทำเงินได้เป็นล้านๆ” จากเรื่องนี้
เฮิร์ช เขียนเอาไว้ว่า เซเลนสกีตอบสนองคำขอร้องวิงวอนให้ชำระสะสางพฤติการณ์เรื่องนี้ของเขาอย่างไม่เพียงพอเอาเลย และเรื่องนี้ก็ “ถูกมองว่าเป็นสัญญาณอีกอย่างหนึ่งของการขาดไร้ความเป็นผู้นำ ซึ่งกำลังนำไปสู่ ‘การล่มสลายลงอย่างสิ้นเชิง’ ในเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างทำเนียบขาวกับบางคนบางฝ่ายของประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯ”
หรือว่านี่จะเป็นความบังเอิญเท่านั้น แต่นี่ ( “บางคนบางฝ่ายของประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯ”
ตามที่ เฮิร์ซ ระบุไว้ -ผู้แปล) ใช่หรือไม่ว่าก็คือเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายเดียวกับที่ได้เปิดเผยความลับให้ เฮิร์ช ทราบเกี่ยวกับการระเบิดสายท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม ซึ่งเขานำเอาไปเขียนเป็นรายงานชิ้นเริ่มแรก ?
ไม่ว่าเขาหรือเธอจะเป็นใครก็ตามที “เจ้าหน้าข่าวกรองผู้นี้” ยังร้องทุกข์เกี่ยวกับ “การยึดถือเรื่องอุดมกาณ์อย่างเหนียวแน่น และการขาดไร้ทักษะทางการเมืองซึ่งแสดงอออกให้เห็นโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน และที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ เจค ซัลลิแวน ทั้งประธานาธิบดีและที่ปรึกษาด้านนโยบายการต่างประเทศตัวหลักๆ ทั้ง 2 คนของเขา “มีชีวิตอยู่ในโลกที่ผิดแผกแตกต่างออกไปจากบรรดานักการทูต และเจ้าหน้าที่ทางทหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่ข่าวกรองมากประสบการณ์ซึ่งได้รับมอบหมายให้มาทำงานในทำเนียบขาว ‘พวกเขา 2 คนนี้ไม่มีทั้งประสบการณ์ การวินิจฉัยตัดสินใจ และความซื่อสัตย์ทางศีลธรรม พวกเขาเอาแต่เล่าเรื่องโกหก คอยแต่งนิยายต่างๆ ขึ้นมา’”
ดังนั้น แหล่งข่าวของ เฮิร์ช ก็เป็นคนที่ไม่ชอบบุคคลระดับท็อปในด้านนโยบายการต่างประเทศของคณะบริหารไบเดน
เฮิร์ช ยังมีแหล่งข่าวอีกรายหนึ่ง ผู้ซึ่งถูกอ้างอิงว่า ไม่ได้เที่ยวพูดอะไรแย่ๆ มากมายนักหนา แต่ก็เป็นผู้ซึ่งไม่ชอบบุคลากรของไบเดน และ/หรือนโยบายของพวกเขา โดย เฮิร์ซ เขียนเอาไว้ดังนี้ :
นักการทูตอเมริกันคนสำคัญมากที่เกษียณอายุแล้ว และเป็นผู้ที่คัดค้านอย่างแข็งขันในนโยบายการต่างประเทศด้านจีนและรัสเซียของไบเดน ได้พรรณนาถึง บลิงเคน ว่า ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่า “เจ้าหน้าที่รัฐสภาที่สามารถไต่เต้าขึ้นมาได้อย่างพรวดพราด” ขณะที่ ซัลลิแวน เป็น “ผู้จัดการทีมรณรงค์หาเสียงทางการเมือง” ผู้ซึ่งจู่ๆ ก็พบว่าตนเองอยู่ตรงแถวหน้าและใจกลางในโลกแห่งการทูตที่มีพลังอำนาจสูงส่ง “โดยที่ไม่มีความสามารถในการเข้าใจถึงความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม”
หมายถึงไม่มีความสามารถที่จะเข้าใจถึงความรู้สึกของ ปูติน และ สี อย่างนั้นหรือ? นี่กำลังเริ่มจะคล้ายๆ กับการวิเคราะห์ของพวกรีพับลิกันที่เป็นพวกโปรโดนัลด์ ทรัมป์ แล้วนะ หรือว่า เฮิร์ลกำลังอ้างอิงความเห็นของคนที่เป็นส่วนหนึ่งของพวกดีปสเตท (Deep State) บางทีอาจจะเป็นพวกที่ยังหลงเหลือมาจากคณะบริหารชุดที่แล้ว? หลังจากนี้แล้ว รายงานชิ้นนี้ของ
เฮิร์ซ ยังมีเนื้อหาอื่นๆ ที่แตกต่างออกไปเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง ซึ่งคุณสามารถที่จะอ่านเองได้ [12]
โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้สงสัยหรอกว่ามีพวกเจ้าหน้าที่และพวกอดีตเจ้าหน้าที่ตัวจริงเสียงจริง ซึ่งบ่นว่าร้องเรียนเรื่องต่างๆ ทั้งหมดเหล่านี้ต่อเฮิร์ช จริงๆ หรือ มันเป็นเรื่องที่เขาสามารถคัดเลือกได้ว่าจะรายงานคำร้องเรียนของพวกเขาหรือไม่และจะรายงานออกมาอย่างไร
แต่ถ้าหากเกิดมีวิธีใดก็แล้วแต่ทำให้ผมทราบตัวตนของ “แหล่งข่าวด้านข่าวกรอง” ผู้ส่งข้อมูลข่าวสารระดับลับสุดยอดเกี่ยวกับนอร์ดสตรีมไปให้ เฮิร์ข ทราบแล้ว ผมก็ไม่แน่ใจว่าผมจะมีความโน้มเอียงมากกว่าหรือไม่ที่จะยินยอมปล่อยให้แหล่งข่าวรายนี้ผ่านพ้นการถูกทางการตั้งข้อหาดำเนินคดี เมื่อเปรียบเทียบชั่งใจกับความยินดีที่จะปล่อย OG ให้หลุดพ้นจากการถูกส่งตัวฟ้องร้องต่อศาล (เวลานี้คือช่วงสงคราม และสันนิษฐานได้ว่าทั้งคู่จะต้องเคยสาบานตน [13] ว่าจะเก็บรักษาความลับเหล่านี้)
แน่นอนทีเดียวว่า ผมไม่เอาด้วยหรอกกับพวกสาวกของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเรียก เทเซรา ว่า เป็น
ฮีโร่[14] บางทีผมกระทั่งอาจจะมีความโน้มเอียงพร้อมที่จะผ่อนปรนให้น้อยกว่าด้วยซ้ำ เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า แหล่งข่าวของ เฮิร์ชนั้นเป็นข้าราชการที่ทำงานมายาวนานและเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่แล้ว ดังนั้นจึงมีเหตุผลมากกว่าที่จะได้รับการคาดหมายว่าสมควรรู้และปฏิบัติตนได้ดีกว่า แจ็ค เทเซรา
แบรดลีย์ เอ็ม มาร์ติน เป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศมายาวนาน ปัจจุบันเป็น บรรณาธิการผู้ช่วยคนหนึ่งของเอเชียไทมส์
เชิงอรรถ
[1] https://sais.jhu.edu/users/csteve15
[2]https://www.vanityfair.com/news/2022/08/donald-trump-mar-a-lago-so-many-classified-documents
[3] https://wapo.st/3UA42jA
[4] https://slate.com/news-and-politics/2023/04/pentagon-leak-discord-classified-documents.html
[5] https://asiatimes.com/2023/03/did-us-raise-a-false-flag-on-nordstream-blasts/
[6] https://www.washingtonpost.com/world/2023/04/10/faq-leaked-pentagon-documents/?itid=lk_inline_manual_1
[7] https://www.washingtonpost.com/national-security/2023/04/12/leaked-documents-ukraine-war/?itid=lk_inline_manual_1
[8] https://www.washingtonpost.com/world/2023/04/12/discord-leaked-us-intelligence-documents/?itid=lk_inline_manual_2
[9] https://seymourhersh.substack.com/p/how-america-took-out-the-nord-stream
[10] https://asiatimes.com/2023/04/the-nord-stream-blasts-cover-story-is-crumbling/
[11] https://seymourhersh.substack.com/p/trading-with-the-enemy?token=eyJ1c2VyX2lkIjo4NTkxMzY5LCJwb3N0X2lkIjoxMTQxMjM1NDksImlhdCI6MTY4MTI5ODA1NywiZXhwIjoxNjgzODkwMDU3LCJpc3MiOiJwdWItMTM3NzA0MCIsInN1YiI6InBvc3QtcmVhY3Rpb24ifQ.Zp9W5raOOwXaZGHWKusaN5bsqmDbKnFe3cgmefR3cg0&utm_source=substack&utm_medium=email
[12] https://seymourhersh.substack.com/p/trading-with-the-enemy?utm_source=substack&utm_medium=email
[13] https://slate.com/news-and-politics/2023/04/why-jack-teixeira-had-access-to-so-much-classified-information.html
[14] https://www.rawstory.com/donald-trump-jr-2659853570/?utm_source=123456&utm_medium=email&utm_campaign=13900