พฤติกรรมของมอสโกในการบังคับขนย้ายเด็กๆ ชาวยูเครนไปรัสเซีย เทียบเท่ากับเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากคำกล่าวของคณะมนตรียุโรปในวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) อ้างอิงญัตติหนึ่งที่ทางสมัชชารัฐสภาแห่งคณะมนตรียุโรปลงมติเห็นชอบ
นอกจากนี้ ทางสมัชชารัฐสภาแห่งคณะมนตรียุโรป ยังได้ส่งเสียงเรียกร้องให้ส่งเด็กๆ เหล่านั้นกลับไปยูเครนอย่างปลอดภัย โดยบอกว่า "หลักฐานเอกสารของพฤติกรรมนี้ ตรงกับคำจำกัดความฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนานาชาติ"
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ยกย่องมติดังกล่าวว่าเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ที่จะช่วยลากตัว "รัสเซียและบรรดาผู้นำของพวกเขา" รับผิดชอบต่อสิ่งที่ก่อไว้
เซเลนสกีกล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอในช่วงค่ำว่า "การบังคับขนย้ายเด็กๆ ยูเครน คือหนึ่งในองค์ประกอบของความพยายามของรัสเซีย ในการลบตัวตนของประชาชนของเรา เพื่อทำลายรากเหง้าของประชาชนชาวยูเครน"
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อ้างอิงการบังคับโอนย้ายเด็กๆ ชาวยูเครนไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ทางไอซีซียังได้ออกหมายจับ มาเรีย ลโววา-เบโลวา คณะกรรมการด้านสิทธิเด็กของประธานาธิบดีรัสเซียด้วยเช่นกัน
เคียฟกล่าวอ้างในช่วงกลางเดือนเมษายน ว่ามีเด็กชาวยูเครนมากกว่า 16,000 คน ถูกลักพาตัวไปรัสเซีย นับตั้งแต่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีก่อน จำนวนมากในนั้นถูกนำไปไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กทั้งหลาย
สำนักข่าวเอพีอ้างอิงการสืบสวนระบุว่า มอสโกมีความพยายามนำเด็กๆ ชาวยูเครนไปเลี้ยงในรัสเซีย เพื่อปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติต่อประเทศรัสเซียและต่อต้านยูเครน
มติในวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) สมัชชารัฐสภาแห่งคณะมนตรียุโรป ระบุว่า "มีหลักฐานว่าเด็กๆ ที่ถูกพาตัวไปต้องเผชิญกับกระบวนการกลืนทำให้กลายเป็นรัสเซีย (Russification) ผ่านการมอบการศึกษาใหม่ในด้านภาษา วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์รัสเซีย"
"การโอนย้ายเด็กๆ ชาวยูเครนชัดเจนว่ามีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและจัดการในแนวทางอย่างเป็นระบบในฐานะนโยบายของรัฐหนึ่งๆ" มติกล่าว พร้อมระบุว่า มันมีเป้าหมายคือ "ทำลายทุกความเชื่อมโยงและคุณลักษณะใดๆ ในตัวตนยูเครนของพวกเขา"
สมัชชารัฐสภาคณะมนตรียุโรป เรียกร้องให้อนุมัติการเข้าถึงของสหประชาชาติและสภากาชาด เพื่อที่พวกเขาจะสามารถรวบรวมข้อมูลของเด็กๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ในสนธิสัญญาปี 1948 ในเรื่องของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มีการอ้างอิงถึงการบังคับโอนย้ายเด็กๆ เป็นหนึ่งในคำนิยามเกณฑ์กำหนดของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ด้วย
หลังจากเปิดปฏิบัติการรุกรานยูเครน ทางรัสเซียถูกขับไล่ออกจากคณะมนตรียุโรป ในขณะที่องค์กรแห่งนี้ ซึ่งประกอบด้วย 46 รัฐสมาชิก ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อจับตาและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในยุโรป
(ที่มา : เอเอฟพี)