เอเจนซีส์ - ผู้นำกลุ่มก่อการร้าย ISIS-K คนอยู่เบื้องหลังส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีสนามบินคาบูลเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ปี 2021 ระหว่างกำลังทหารสหรัฐฯ และชาติตะวันตกกำลังถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานทำให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 13 นาย รวมชาวอัฟกันอีกไม่ต่ำกว่า 170 คน ถูกตอลิบานสังหารเมื่อต้นเดือนนี้
CNN ของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (26 เม.ย.) ว่า ทำเนียบออกแถลงการณ์ ตัวการใหญ่อยู่เบื้องหลังทำทหารอเมริกัน 13 นายดับ รวมพลเรือนอัฟกันอีกไม่ต่ำกว่า 170 คนต้องสังเวยชีวิตในเหตุอุกอาจโจมตีสนามบินฮามิด คาร์ไซ ในวันที่ 26 ส.ค.ปีที่ผ่านมา ระหว่างการถอนกำลังทหารสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรออกจากอัฟกานิสถานตามข้อตกลงที่ได้เคยรับปาก ถูกกลุ่มตอลิบานสังหารเมื่อต้นเดือนเมษายน
รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้เปิดเผยชื่อของหัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย ISIS-K แต่ทว่า จอห์น เคอร์บีย์ ผู้ประสานงานทางยุทธศาสตร์การสื่อสารประจำโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เรียกผู้นำกลุ่มก่อการร้าย ISIS-K ว่า “เป็นจอมบงการแผนโจมตีก่อการร้ายที่น่าสะพรึงกลัว” ในการลงมือก่อเหตุในช่วงวันท้ายๆ ของการถอนกำลังของสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถาน
CNN ชี้ว่า เคอร์บีย์ไม่ได้เปิดเผยว่ากลุ่มตอลิบานสังหารหัวหน้า ISIS-K เมื่อใด แต่เขายืนยันว่า เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ในระดับแกนนำของกลุ่มก่อการร้าย ISIS-K
ทั้งนี้ พบว่า ISIS-K ส่ง อับดุล รีห์มาน อัล-ลอกฮร์ (Abdul Rehman Al-Loghr) ที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจากเรือนจำไม่กี่วันก่อนหน้าหลังตอลิบานเข้ามาควบคุมพื้นที่บุกโจมตีอุกอาจที่สนามบินฮามิด คาร์ไซ ของอัฟกานิสถานในช่วงเวลาที่ประชาชนอัฟกานิสถานจำนวนมหาศาลพยายามบุกเข้าไปเพื่อหลบหนีออกนอกประเทศ และกองกำลังสหรัฐฯ รวมกองกำลังชาติพันธมิตรกำลังอยู่ระหว่างถอนกำลังออกไปอย่างฉุกละหุกเพื่อให้ทันกำหนดเส้นตาย
มือระเบิดฆ่าตัวตาย ISIS-K กดระเบิดท่ามกลางฝูงชนจำนวนมาก ส่งผลทำให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 13 นาย และพลเมืองอัฟกันอีกไม่ต่ำกว่า 170 คน เสียชีวิตในวันที่ 26 ส.ค. ปี 2021
CNN กล่าวว่า บิดาของจ่าสิบตรีเทย์เลอร์ ฮูฟเวอร์ (Staff Sgt. Taylor Hoover) ที่เสียชีวิตจากการโจมตีระเบิดฆ่าตัวตายสนามบินอัฟกานิสถานระหว่างปฏิบัติหน้าที่เปิดเผยกับสื่อว่า เขาเพิ่งได้รับแจ้งเรื่องจากกองทัพสหรัฐฯ เช้าวันอังคาร (25)
ดาริน ฮูฟเวอร์ (Darin Hoover) ที่ได้รับแจ้งจากกองทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ ออกมาแสดงความเห็น
“เป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้ก่อการร้ายอีกคนจะหายออกไปจากโลกนี้ ผมรู้สึกดีกับมัน” แต่ยืนยันว่า สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ หรือเพนตากอนสามารถปัดความรับผิดชอบต่อในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พ่อของนายทหารที่เสียชีวิตแสดงความเห็นว่า “พวกเขาไม่ได้ก้าวออกมา พร้อมกล่าวว่าพวกเราทำสิ่งนี้ผิดพลาดและมันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
CBS News รายงานเพิ่มเติมว่า พลจัตวาแพทริก ไรเดอร์ (Brig. Gen. Patrick Ryder) โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวผ่านแถลงการณ์ยืนยันกับ CBS News ว่า หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย ISIS-K ถูกสังหารโดยตอลิบานในอัฟกานิสถาน “เมื่อต้นเดือนนี้” แต่เสริมว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ร่วมอยู่ในปฏิบัติการ
ทั้งนี้ พบว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ค้นพบการเสียชีวิตของหัวหน้า ISIS-K ในอัฟกานิสถานเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า แต่สหรัฐฯ ต้องใช้เวลาในการยืนยันข่าวกรองที่ว่านี้
CBS News กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่ได้รับแจ้งข่าวการเสียชีวิตแต่รู้มาจากข่าวกรองของตัวเองรวมไปถึงการเฝ้าจับตาภัยคุกคามที่ยังคงอยู่และบรรดาผู้เล่นภายในภูมิภาค
“นี่เป็นปฏิบัติการของตอลิบาน ทางเราไม่ได้ออกปฏิบัติการร่วมกับคนเหล่านั้นหรืออะไรทั้งนั้น” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้ข้อมูล พร้อมยืนยันว่ากฎหมายสหรัฐฯ ห้ามการร่วมออกปฏิบัติการทางทหาร หรือการแชร์ข่าวกรองกับตอลิบาน”
CBS News ยังรู้ในวันจันทร์ (24) ว่า เพนตากอนได้แจ้งข่าวการผู้นำก่อการร้าย ISIS-K ถูกสังหารไปยังครอบครัวทหารสหรัฐฯ ทั้ง 13 นายที่เสียชีวิต และทำเนียบขาวได้ร้องขอ CBS News ไม่เสนอข่าวนี้จนกระทั่งครอบครัวผู้ตายทั้งหมดได้รับแจ้งแล้ว