ราคาน้ำมันขยับลงต่อเนื่องในวันพุธ (26 เม.ย.) ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอในสหรัฐฯ ก่อความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน แนสแดคได้แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำปรับลด กลับมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 2.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 3.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานในวันพุธ (26 เม.ย.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลง 5.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เหลือ 460.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ข้อมูลของอีไอเอยังพบว่าคลังน้ำมันเบนซินสำรองลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลั่น ซึ่งประกอบด้วยน้ำมันทำความร้อน และดีเซลลดลง 600,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม แมตต์ สมิธ นักวิเคราะห์น้ำมันชั้นนำจาก Kpler ให้ความเห็นว่า "แม้คลังน้ำมันลดลงอย่างมากในวันนี้ แต่ราคาน้ำมันยังคงอยู่ในแดนลบ เนื่องจากความกังวลทางอุปสงค์และข้อวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่บดบังข้อมูลของอีไอเอ"
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน โดยแนสแดคเคลื่อนไหวในแดนบวก จากรายงานผลประกอบการของไมโครซอฟท์ แต่ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500 ยังคงกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและผลกระทบของการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่มีต่อเศรษฐกิจ
ดาวโจนส์ ลดลง 228.96 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,301.87 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 15.64 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,055.99 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 55.19 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,854.35 จุด
หุ้นของไมโครซอฟทฺพุ่งขึ้นมากกว่า 7.5% หลังรายงานรายได้และยอดขายรายไตรมาสในแง่บวก ในนั้นรวมถึงผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ นอกจากนี้ แนสแดคยังได้แรงหนุนจากหุ้นของแอมะซอน ที่ดีดตัวมากกว่า 3% และดาต้าด็อก ที่ขยับขึ้นมากกว่า 12%
ในส่วนของอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล รายงายผลประกอบการไตรมาสแรกดีเกินคาดเช่นกัน และมีแผนซื้อหุ้นคืน 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หุ้นของบริษัทแห่งนี้แกว่งตัวลง
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (26 เม.ย.) ปรับลดต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ผลจากการขายทำกำไรหลังจากทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่นานที่ผ่านมา โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 8.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,996.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)