เอเจนซีส์ - มีรายงานว่ากลุ่มทหารรับจ้าง วากเนอร์ ของรัสเซียส่งอาวุธมิสไซล์ต่อต้านแบบยิงประทับบ่า manspad ให้กองกำลังตอบโต้เร็วซูดาน RSF ต่อสู้กับกองทัพซูดาน มีการเปิดภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดวันที่ 18 เม.ย. แสดงให้เห็นเครื่องบินลำเลียงรัสเซียบินเคลื่อนไหวผิดปกติ 2 เมืองใหญ่ในลิเบียที่ใช้เป็นฐานทัพที่ตั้งกองกำลังวากเนอร์ หลังเป็นเวลาหลายปีผู้บัญชาการ RSF เป็นตัวรับผลประโยชน์หลักทั้งอาวุธและการฝึกฝนจากรัสเซีย เกิดขึ้นท่ามกลางการยกระดับคุกคามของรัสเซียในซีเรียต่อกองกำลังสหรัฐฯ ยิงโดรนสหรัฐฯ MQ-9 แต่พลาดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่งเครื่องบินรบติดอาวุธบินผ่านฐานทัพอเมริกันในซีเรียเกือบทุกวันตลอดเดือนมีนาคมปีนี้
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานวันศุกร์ (21 เม.ย.) ว่า แหล่งข่าวภายในซูดานและแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่การทูตภายในภูมิภาคเปิดเผยว่า มิสไซล์ต่อต้านอากาศยานแบบประทับไหล่ manspad ของรัสเซียถูกส่งป้อนให้กองกำลังตอบโต้เร็วซูดาน RSF ซึ่งถือเป็นยุทโธปกรณ์สำคัญในการสู้รบกับกองทัพซูดาน
ท่ามกลางสงครามกลางเมืองซูดานยืดเยื้อท่ามกลางการต่อสู้เพื่อช่วงชิงทางอำนาจระหว่าง พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน (Gen.Abdel Fattah al-Burhan) ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพซูดาน และโดยปริยายบริหารซูดาน และผู้บัญชาการกองกำลังตอบโต้เร็ว RSF พล.อ.โมอัมเหม็ด ฮัมดาน ดากาโล (Gen.Mohamed Hamdan Dagalo) หลังคนทั้งคู่เคยร่วมกันก่อรัฐประหารซูดานเมื่อปี 2021
เดอะการ์เดียนรายงานวานนี้ (25) ว่า มีคนจำนวนมากหลบหนีออกจากกรุงคาร์ทูม ส่วนตัวเลขยอดเสียชีวิตล่าสุดกว่า 420 คน รวมไปถึงพลเรือน 264 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 3,700 คน อ้างอิงจากกลุ่ม NGO ของซูดานและระหว่างประเทศ
ภาพดาวเทียมที่วิเคราะห์โดย CNN และซอร์สเปิดชื่อ “All Eyes on Wagner” แสดงให้เห็นถึงเครื่องบินลำเลียงลำหนึ่งกำลังวิ่งวนระหว่าง 2 ฐานทัพอากาศสำคัญของลิเบียที่เป็นของฮาฟตาร์ (Haftar) และใช้โดยกลุ่มวากเนอร์ (Wagner)
ซึ่งภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงประกอบนี้ สื่อสหรัฐฯ ระบุว่า ถูกถ่ายไว้เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงเครื่อง Ilyushin-76 Candid จอดอยู่ภายในฐานทัพอากาศอัล-คาดิม (al-Khadim) ของลิเบีย
แหล่งข่าวเปิดเผบว่า กลุ่มฮาฟตาร์หนุนหลัง RSF ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด
ทั้งนี้ พบว่ามีความเคลื่อนไหวผิดปกติเพิ่มมากขึ้นของกองกำลังทหารรับจ้างรัสเซียที่บรรดาฐานทัพของฮาฟตาร์ (Haftar) ในลิเบีย รวมไปกับการอ้างจากแหล่งข่าวภายในซูดานและแหล่งข่าวนักการทูตภายในภูมิภาคชี้ให้เห็นว่า ทั้งรัสเซีย และนายพลลิเบียแอบเตรียมพร้อมให้การสนับสนุน RSF มาตั้งแต่ก่อนเริ่มเปิดฉากสงครามกลางเมืองเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา
CNN รายงานว่า ความเคลื่อนไหวผิดปกติของเครื่องบินลำเลียงรัสเซีย Ilyushin-76 เริ่ม 2 วันก่อนการสู้รบในซูดานเริ่มเปิดฉากขึ้นในวันเสาร์ (15) และเป็นความเคลื่อนไหวยาวต่อเนื่องมาจนถึงวันพุธ (19) เป็นอย่างช้า อ้างอิงจากภาพดาวเทียมและ Gerjon กลุ่มซอร์สเปิดฐานอยู่ในเนเธอร์แลนด์
สำนักข่าวอนาโดลู ของตุรกีรายงานวันจันทร์ (24) ว่า สหรัฐฯ ออกมาแสดงความวิตกอย่างหนักถึงการเกี่ยวข้องของกลุ่มวากเนอร์ในความขัดแย้งซูดาน
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวย้ำว่า “มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่ทางเราต้องไม่เห็นกลุ่มวากเนอร์เกี่ยวข้องอีกต่อไปในซูดาน และผมรู้ว่ามีหลายชาติกำลังวิตกเป็นอย่างมากในเรื่องนี้”
CNN ชี้ว่า เครื่องบินลำเลียงรัสเซียบินออกมาจากฐานทัพอัล-คาดิม ในลิเบียเข้าไปยังเมืองลาตาเกีย (Latakia) ของซีเรียในวันพฤหัสบดีที่ 13 เม.ย. ซึ่งรัสเซียมีฐานทัพอากาศใหญ่ที่นี่ ซึ่งรัสเซียและสหรัฐฯ เคยมีปัญหาระหองระแหงเมื่อไม่นานมานี้ทางการทหารในซีเรีย
และในวันหลังจากนั้น เครื่องบินลำเลียงรัสเซียบินกลับไปฐานทัพฮาฟตาร์ที่คาดิม
วันถัดมาพบว่าเครื่องบินลำเลียงรัสเซียบินไปฐานทัพฮาฟตาร์อีกแห่งในจูฟรา (Jufra) ลิเบีย พบว่ามีการจอดเครื่องในที่ปิดลับ ซึ่ง Gerjon มองว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติ
เครื่องบินรัสเซียบินกลับไปที่ลาตาเกียในซีเรียในวันอังคาร ก่อนที่จะบินกลับไปฐานทัพอากาศฮาฟตาร์ในอัล-คาดิม และบินต่อไปที่ฐานทัพฮาฟตาร์ในจูฟรา ลิเบีย อ้างอิงข้อมูลจาก Gerjon
และในวันนั้นพบว่า รัสเซียได้ส่งมอบมิสไซล์ต่อต้านแบบยิงประทับบ่า manspad ให้หน่วยที่ตั้งทางการทหารของนายพลผู้บัญชาการ RSF ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซูดาน อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวในซูดานและแหล่งข่าวจากนักการทูตในภูมิภาค
ทั้งนี้ CRUX สื่อชื่อดังของอินเดียรายงานว่า ผู้บัญชาการกลุ่มวากเนอร์ของรัสเซีย เยฟเกนี พริโกซิน (Yevgeny Prigozhin) เป็นคนออกปากเสนอมอบอาวุธมิสไซล์ต่อต้านแบบยิงประทับบ่าให้ พล.อ.โมฮัมเหม็ด ฮัมดาน ดากาโล ผู้บัญชาการหน่วย RSF เพื่อเข้ายึดอำนาจในซูดาน
โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า นอกเหนือจากมิสไซล์ manspad แล้ว ก่อนหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ได้ส่งรถยานยนต์หุ้มเกราะพร้อมกับการฝึกซ้อมให้เพื่อแลกเปลี่ยนกับการเข้าครอบครองเหมืองแร่ทองคำในซูดาน
ปัญหารัสเซียในซูดานที่กำลังสร้างความปวดหัวให้สหรัฐฯ ในเวลานี้ยังเกิดขึ้นที่ซีเรียซึ่งมีกองกำลังทหารอเมริกันประจำออกปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในซีเรีย NBC News รายงานเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ว่า ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ พล.ต.อเล็กซัส กรินเควิช (Lt.Gen.Alexus Grynkewich) ยืนยันว่า เครื่องบินรบรัสเซียบินผ่านฐานทัพสหรัฐฯ Tanf Garrison ในซีเรีย “แทบเกือบทุกวัน” ตลอดทั้งเดือนมีนาคมจำนวน 25 ครั้ง
อัลญะซีเราะฮ์รายงานในวันที่ 1 เม.ย.ว่า ในขณะเดียวกัน ฝ่ายรัสเซียออกมาประท้วงถึงพฤติกรรมยั่วยุของกองกำลังสหรัฐฯ ในซีเรีย ซึ่งตามการรายงานสำนักข่าว TASS ของรัสเซียพบว่า พล.ร.ต.โอเลก กูรินอฟ (Rear Admiral Oleg Gurinov) ของรัสเซีย เปิดเผยว่า ทหารอเมริกันแสดงพฤติกรรมยั่วยุที่จังหวัด Hassakeh
กูรินอฟ กล่าวว่า ฝ่ายรัสเซียพบกองกำลังสหรัฐฯ ถึง 2 ครั้งในพื้นที่ ซึ่งระบุว่าเป็นนอกเขตปฏิบัติการของฝ่ายสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียดเกี่ยวกับวันหรือเวลาที่เกิดเหตุ
ล่าสุด วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานวันอังคาร (25) ว่า เพนตากอนระบุว่า ทั้งเครื่องบินรบรัสเซียและโดรนทหารรัสเซียแสดงพฤติกรรมข่มขู่กองกำลังสหรัฐฯ ในซีเรียเพิ่มขึ้น เสี่ยงต่อการยกระดับความรุนแรงระหว่างกัน
ทั้งนี้ สื่อเชี่ยวชาญด้านการป้องกันประเทศ Air&Space Force Magazine รายงานเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ว่า รัสเซียยกระดับการคุกคามกองกำลังสหรัฐฯ ในซีเรีย บินผ่านเหนือที่ตั้งทางการทหารอเมริกันด้วยเครื่องบินรบขับไล่ติดอาวุธ และบินในระยะประชิดห่างไม่กี่ร้อยฟุตจากเครื่องบินรบสหรัฐฯ อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ
และพบว่าก่อนหน้าเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ปีที่แล้ว มิสไซล์จากภาคพื้นสู่อากาศยิงโดรนสหรัฐฯ MQ-9 เหนือท้องฟ้าซีเรีย แต่ยิงพลาดไม่ถูก ซึ่งถูกรายงานครั้งแรกโดยหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ในวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา