ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในวันอังคาร (25 เม.ย.) ลงนามในกฤษฎีกา กำหนดควบคุมชั่วคราวสินทรัพย์ของรัสเซียในบริษัทพลังงานต่างชาติ 2 แห่ง ส่งสัญญาณว่ามอสโกอาจใช้มาตรการแบบเดียวกันกับบริษัทอื่นๆ หากมีความจำเป็น
กฤษฎีกาฉบับนี้ซึ่งกำหนดกรอบความเป็นไปได้ของการแก้แค้นเอาคืนกรณีทรัพย์สินของรัสเซียในต่างแดนถูกยึด สะท้อนความเคลื่อนไหวของมอสโกที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้วกับบริษัทยูนิเปอร์ สาขารัสเซีย และทรัพย์สินของบริษัทฟอร์ทูมของฟินแลนด์
ในกฤษฎีการะบุว่า รัสเซียมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อตอบโต้ความเคลื่อนไหวที่ไม่เจาะจงจากสหรัฐฯ และอื่นๆ ที่มอสโกบอกว่า "ไม่เป็นมิตรและขัดแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศ"
หุ้นในทั้ง 2 บริษัทถูกกำหนดให้อยู่ภายใต้การควบคุมชั่วคราวของ Rosimushchestvo หน่วยงานทรัพย์สินรัฐบาลกลาง กฤษฎีการะบุ
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า รัสเซียควรต้องรับผิดชอบค่าความเสียหายที่มีต้นตอจากสงครามของมอสโกในยูคเรน แม้ยอมรับว่า "มีอุปสรรคทางกฎหมายที่สำคัญ" ในการยึดทรัพย์ของรัสเซียที่อายัดเอาไว้
ซีอีโอของธนาคารวีทีบีของรัสเซีย สถาบันการเงินที่มีรัฐเป็นเจ้าของ แนะนำในวันจันทร์ (24 เม.ย.) ว่ารัสเซียควรพิจารณาเข้าควบคุมและบริหารจัดการทรัพย์สินของบริษัทต่างชาติ อย่างเช่น ฟอร์ทูม แล้วค่อยคืนทรัพย์สินเหล่านั้้นครั้งที่มาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิกแล้ว
Rosimushchestvo กล่าวว่า บริษัทต่างชาติหลายแห่งอาจพบว่าทรัพย์สินของตนเองอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียชั่วคราว แต่ทางหน่วยงานแห่งนี้รับประกันว่าทรัพย์สินเหล่านั้นจะได้รับการบริหารจัดการสอดคล้องกับความสำคัญของพวกเขาที่มีต่อเศรษฐกิจ
"กฤษฎีกานี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นความเป็นเจ้าของและไม่ได้เป็นการเพิกถอนสิทธิของเจ้าของทรัพย์สิน มันเป็นลักษณะของการบริการจัดการโดยภายนอกเป็นการชั่วคราว และหมายความว่าเจ้าของเดิมไม่มีสิทธิในการตัดสินใจต่างๆ ในด้านการบริหารอีกต่อไป" สำนักข่าวทาสส์นิวส์ รายงานโดยอ้างคำกล่าวของ Rosimushchestvo
เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป บอกว่าอียูกำลังหาทางนำทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรเล่นงานมอสโก ไปใช้ในการฟื้นฟูยูเครน
กฤษฎีกาฉบับนี้ระบุว่า การขายทรัพย์สินใดๆ โดยนักลงทุนจากบรรดาประเทศที่ไม่เป็นมิตร ซึ่งทางมอสโกให้คำจำกัดความชาติต่างๆ ที่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการชุดหนึ่งของรัฐบาล และในบางกรณีจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดี
(ที่มา : รอยเตอร์)