xs
xsm
sm
md
lg

ยังไม่จบ! วิกฤตธนาคารสหรัฐฯ ส่อปะทุอีก หุ้นเฟิร์สท์รีพับลิกดิ่ง 49% หลังคนแห่ถอนเงิน $1 แสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ ร่วงลง 49% ในวันอังคาร (25 เม.ย.) หลังสถาบันการเงินแห่งนี้รายงานว่ามีคนแห่ถอนเงินฝากเป็นจำนวนมหาศาล เหตุการณ์ที่ซ้ำเติมความกังวลต่อสถานะของบรรดาธนาคารระดับภูมิภาคอื่นๆ

ธนาคารที่มีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยในวันจันทร์ (24 เม.ย.) ว่าพวกเขาสูญเสียเงินฝากในช่วงไตรมาสแรกไปมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โหมกระพือความกังวลหนักหน่วงขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มในระยะยาว ตามหลังการล่มสลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (เอสวีบี) และธนาคารขนาดกลางอื่นๆ อีก 2 แห่ง

แม้ว่าเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกมีกำไร 269 ล้านดอลลาร์ แต่ข้อมูลดังกล่าวถูกบดบังจากระดับเงินฝากที่เหลืออยู่ 104,500 ล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ลดลงจากระดับในช่วงสิ้นปี 2022 ถึงเกือบ 72,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการแห่ถอนเงินฝากที่แท้จริงแตะระดับ 100,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ ถือครองเงินช่วยเหลือจากสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ 11 แห่ง ในรูปแบบของเงินฝากอีก 300,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีการแถลงเมื่อเดือนมีนาคม

แรงเทขายอย่างหนักในวันอังคาร (25 เม.ย.) นั่นหมายความว่าหุ้นของเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ สูญเสียมูลค่าไปแล้วมากกว่า 90% นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม

ในรายงานเมื่อวันจันทร์ (24 เม.ย.) เฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ ยังเปิดเผยด้วยว่าพวกเขากำลังปรับลดพนักงานราว 20% ถึง 25%

ตัวเลขที่น่ากลุ้มใจนี้กระตุ้นเสียงพูดคุยรอบใหม่ในบรรดานักการเงินเอกเชน และเหล่าผู้ควบคุมกฎระเบียบภาคธนาคารของวอชิงตัน เกี่ยวกับแนวคิดอื่นๆ เพิ่มเติม ในความพยายามสร้างเสถียรภาพแก่เฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ ตามรายงานของไฟแนนเชียลไทม์สในวันอังคาร (25 เม.ย.)

"เราไม่พบเห็นทางออกง่ายๆ สำหรับธนาคารแห่งนี้ และเรายังคงพบเห็นหนทางความเป็นไปได้อย่างเป็นรูปธรรมเพียงน้อยนิดสำหรับผู้ถือหุ้น ครั้งที่สถานการณ์นี้ปรากฏให้เห็นอย่างเต็มรูปแบบ" เอริค คอมป์ตัน นักวิเคราะห์จากบริษัทมอร์นิงสตาร์ กล่าว

"ขณะที่เราทบทวนตัวเลขต่างๆ บนพื้นฐานของงบดุลฉบับอัปเดต ด้วยงบดุลในปัจจุบัน เราไม่เชื่อว่าเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ จะมีความก้าวหน้าด้านผลกำไร" คอมป์ตัน กล่าว พร้อมประมาณการว่าสถาบันการเงินแห่งนี้จะขาดทุนรายไตรมาสราวๆ 400-500 ล้านดอลลาร์

บรรดาธนาคารท้องถิ่นทั้งหลายตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนับตั้งแต่เอสวีบี พังครืนลง โดยสถาบันการเงินอย่างโคเมริกา และคีย์คอร์ป ส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มกำไรอ่อนแอ แต่สถานะของพวกเขายังคงมีความมั่นคง อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร (25 เม.ย.) ธนาคารคีย์คอร์ป ไซออนส์ แบนคอร์ป และฟิฟท์ เธิร์ด แบนคอร์ป ต่างปิดลบมากกว่า 5%

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น