รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ "กำลังเตรียมพร้อมแบบลับๆ" สำหรับความเป็นไปได้ที่ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของยูเครน ที่ตั้งความหวังไว้อย่างมากจะไม่ก่อ "ชัยชัยะอย่างเด็ดขาด" อย่างที่เคียฟต้องการ ตามรายงานของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวอเมริกาในวันจันทร์ (24 เม.ย.) โดยอ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามหลายคน
ในขณะที่ท่าทีต่อสาธารณะ สหรัฐฯ ยืนยันว่ายังคงให้การสนับสนุนยูเครน "ไม่เปลี่ยนแปลง" แต่เว็บไซต์ข่าวโพลิติโกรายงานว่า พวกเจ้าหน้าที่แสดงความกังวลอย่างลับๆ ว่าทำเนียบขาวอาจต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหากว่าปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง โดยพวกสายแข็งกร้าวอาจอ้างว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรไม่มอบอาวุธและกระสุนอย่างเพียงพอแก่ยูเครน ส่วนพวกสายอะลุ้มอล่วยอาจชี้ว่ามันอาจเป็นข้อพิสูจน์ว่าเคียฟไม่อาจเป็นผู้ชนะ
"ถ้ายูเครนไม่สามารถรุกคืบได้อย่างรวดเร็วในสมรภูมิรบ คำถามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จะผุดขึ้นมา ว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังสำหรับการเจรจาเพื่อหยุดการสู้รบ" ริชาร์ด ฮาสส์ ประธานสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คลังสมองของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับโพลิติโก "ความสิ้นเปลืองของมัน กระสุนของเราอยู่ในระดับต่ำ เรามีเหตุการณ์ไม่แน่นอนอื่นๆ ทั่วโลกที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ"
กองทัพสหรัฐฯ เชื่อว่าความขัดแย้งติดหล่มในสงครามสนามเพลาะ ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถรุกคืบได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เว็บไซต์โพลิติโก รายงานในเบื้องต้นว่ามีทหารยูเครนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 100,000 นาย แต่ต่อมาแก้ไขเป็นเลขรวมผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ สื่อแห่งนี้รายงานด้วยว่ากองกำลังยูเครนผลาญกระสุนและอาวุธในปริมาณมากสุดเป็นประวัติการณ์ และแม้กระทั่งตะวันตกมีกำลังผลิตอันมโหฬาร แต่ไม่สามารถรองรับความต้องการของพวกเขาได้
ภายในรัฐบาลสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่เน้นย้ำว่าพวกเขากำลังทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ในฤดูใบไม้ผลิประสบความสำเร็จ โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม กล่าวว่า สหรัฐฯ ไหลบ่ากระแสอาวุธและยุทโธปกรณ์ป้อนแก่ยูเครน และมอบเกือบทุกอย่างแก่เคียฟตามที่ร้องขอในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในด้านลับ สหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับผลสำเร็จของยูเครน
ความกังวลดังกล่าวถูกตีแผ่ต่อสาธารณะ ในเอกสารลับที่รั่วและปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยในนั้นเป็นเอกสารการประเมินลับสุดยอดหนึ่งในช่วงต้นเดือน ที่เน้นว่ายูเครนจะไม่บรรลุเป้าหมายในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ ในขณะที่เว็บไซต์โพลิติโก อ้างคำประเมินของอเมริกาล่าสุด ชี้ว่ายูเครนอาจสามารถรุกคืบได้บ้างในทางใต้และทางตะวันออก แต่คงไม่ประสบความสำเร็จซ้ำรอยปฏิบัติการโจมตีตอบโต้เมื่อปีที่แล้ว
ยูเครนหวังตัดขาดสะพานภาคพื้นของรัสเซียที่เชื่อมไปไครเมีย แต่เวลานี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความเคลือบแคลงว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในเพนตากอนยังคงมีความหวังว่ายูเครนจะสามารถสกัดกั้นเส้นทางเสบียงของรัสเซียในดินแดนดังกล่าวได้บ้าง แม้ว่าชัยชนะโดยสิ้นเชิงเหนือทหารของรัสเซียเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จ
ขณะเดียวกัน ข่าวกรองของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่ายูเครนไม่มีศักยภาพพอที่จะผลักดันทหารรัสเซียออกจากบริเวณที่พวกเขาตั้งมั่นอย่างเหนียวแน่น และความรู้สึกแบบเดียวกันนี้ยังเกิดขึ้นกับสมรภูมิอื่นๆ ในยูเครนด้วย ทั้งนี้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เคยบอกว่าสหรัฐฯ ไม่สนับสนุนอาวุธแก่กองกำลังของเขาอย่างพอเพียง ดังนั้น ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้จึงไม่อาจเริ่มต้นได้ จนกว่าจะได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธอย่างเพียงพอ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่าเคียฟกำลังมีความตั้งใจพิจารณาทบทวนเป้าหมายที่วางเอาไว้ และวางเป้าหมายให้น้อยลงกว่าเดิม เพื่อง่ายต่อการป่าวประกาศชัยชนะ
เว็บไซต์พิลิติโกอ้างอิงคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ ระบุว่า การวางกรอบการเจรจาแก่ยูเครนในฐานะข้อตกลงหยุดยิง ไม่ใช่การเจรจาสันติภาพถาวร จะเปิดทางให้ยูเครนทวงคืนดินแดนของตนเองเพิ่มเติมในอนาคต และจะมีการนำเสนอสิ่งล่อใจแก่เคียฟ เช่น "การรับประกันด้านความมั่นคงคล้ายนาโต้ ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากสหภาพยุโรป ความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมเพื่อเติมเต็มและส่งเสริมกองกำลังยูเครน" พร้อมกันนั้นพวกเจ้าหน้าที่แสดงความหวังว่าจีนจะกลับมามีส่วนร่วมในความพยายามผลักดันปูติน เข้าสู่โต๊ะเจรจา
(ที่มา : โพลิติโก/อาร์ทีนิวส์)