เอพี - วอชิงตันเผยว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษประสบความสำเร็จในการอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกันด้วยเฮลิคอปเตอร์หลายลำในเวลาไม่ถึงชั่วโมงออกจากสถานทูตกลางกรุงคาร์ทูมของซูดานที่กำลังนองเลือด โดยใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงอย่างราบรื่นและปลอดภัย อย่างไรก็ดี ยังคงเหลือชาวอเมริกันนับพันคนตกค้างอยู่ในซูดาน เนื่องจากอันตรายเกินไปสำหรับภารกิจอพยพขนาดใหญ่
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงขอบคุณหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตออกจากคาร์ทูมอย่างปลอดภัย และเสริมว่า ได้รับรายงานอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความพยายามในการช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ยังติดค้างในซูดานออกมาให้ได้มากที่สุด รวมทั้งเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงอย่างไร้เหตุผล จากการแย่งชิงอำนาจกันของสองฝ่ายในประเทศในแอฟริกาแห่งนี้ โดยต้องหยุดยิงโดยปราศจากเงื่อนไขทันที เปิดทางสำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนซูดาน
ทั้งนี้ ทหารอเมริกันราว 100 นาย และเฮลิคอปเตอร์เอ็มเอช-47 สามลำปฏิบัติภารกิจอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูต ขณะที่กองกำลังติดอาวุธสองฝ่ายในซูดานสู้รบกันเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 400 คน ประเทศเสี่ยงล่มสลาย และอาจส่งผลลุกลามข้ามพรมแดน
เจ้าหน้าที่อเมริกันราว 70 คนถูกอพยพทางอากาศออกจากบริเวณแลนดิ้งในสถานทูตไปสถานที่ที่ไม่มีการเปิดเผยในเอธิโอเปีย และอเมริกาสั่งยุติภารกิจในคาร์ทูมไม่มีกำหนด ไบเดนยังขอบคุณจิบูตี เอธิโอเปีย และซาอุดีอาระเบียที่ให้ความช่วยเหลือในภารกิจอพยพครั้งนี้
ทั้งนี้ ประมุขทำเนียบขาวสั่งการให้กองทัพสหรัฐฯ อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตหลังจากได้รับคำแนะนำเมื่อเช้าวันเสาร์จากทีมความมั่นคงแห่งชาติว่า สงครามในซูดานไม่มีวี่แววยุติ
การสู้รบระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เมษายนระหว่างผู้นำสองฝ่ายที่ต่างต้องการควบคุมซูดาน ความรุนแรงที่เกิดขึ้นรวมถึงการโจมตีคณะทูตอเมริกันโดยปราศจากการยั่วยุ และเหตุการณ์อีกมากมายที่นักการทูตและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ต่างชาติถูกสังหาร ได้รับบาดเจ็บ หรือถูกโจมตี
พลเมืองอเมริกันราว 16,000 คนลงทะเบียนกับสถานทูตว่าอยู่ในซูดาน ซึ่งเป็นเพียงตัวเลขคร่าวๆ เนื่องจากชาวอเมริกันทุกคนไม่ได้ไปลงทะเบียนหรือรายงานว่าเดินทางออกจากประเทศดังกล่าวเมื่อใด
สถานทูตอเมริกันออกประกาศเตือนเมื่อเช้าวันเสาร์ว่า เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงที่ไร้ความแน่นอนในคาร์ทูม และการปิดสนามบิน ขณะนี้จึงไม่ปลอดภัยที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินการอพยพพลเมืองอเมริกัน
การสู้รบในซูดานระหว่างกองกำลังที่ภักดีต่อนายพลระดับสูง 2 คนเกิดขึ้นขณะที่ประเทศนี้กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย และทำให้ประชาชนหลายล้านต้องหาที่หลบกระสุน ระเบิด และการปล้น
พลเอกอับเดล ฟัตตาห์ เบอร์ฮาน ผู้บัญชาการกองทัพ กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า อาจอำนวยความสะดวกในการอพยพคนอเมริกัน อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส และนักการทูตออกจากซูดานภายหลังหารือกับผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะที่กองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (อาร์เอสเอฟ) ทวีตว่า ตนเองให้ความร่วมมือกับกองกำลังสหรัฐฯ
การวางแผนอพยพของอเมริกาเริ่มต้นอย่างจริงจังเมื่อวันจันทร์ (17) หลังจากคณะเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกันถูกโจมตีในคาร์ทูม ต่อมาในวันศุกร์ (21) เพนตากอนยืนยันว่า กองกำลังสหรัฐฯ กำลังเคลื่อนย้ายไปแคมป์เลอมอนนิเยร์ในจิบูตี ก่อนการอพยพที่อาจเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ซาอุดีอาระเบียประกาศว่า สามารถนำพลเมืองบางส่วนกลับออกจากซูดานอย่างปลอดภัยเมื่อวันเสาร์
ทั้งนี้ การอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตที่ดำเนินการโดยกองทัพสหรัฐฯ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และมักเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์รุนแรงมาก
เมื่อสั่งให้สถานทูตถอนเจ้าหน้าที่หรือระงับการปฏิบัติงาน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ มักดำเนินการให้เจ้าหน้าที่เดินทางออกจากประเทศดังกล่าวด้วยสายการบินพาณิชย์หากสามารถเลือกได้ เช่น ตอนที่สถานทูตในเคียฟปิดชั่วคราวก่อนรัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกันเดินทางออกมาด้วยเที่ยวบินพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม ในหลายกรณี โดยเฉพาะในอัฟกานิสถานปี 2021 หรือในสถานการณ์ที่การเดินทางด้วยเที่ยวบินพาณิชย์ไม่อาจทำได้หรืออันตรายอย่างมาก ตัวอย่างเช่นในปี 2014 ที่กองทัพอเมริกันส่งกำลังเข้าไปอพยพบุคลากรจากสถานทูตในทริโปลีของลิเบียไปตูนิเซีย