xs
xsm
sm
md
lg

อย่างฮา!! ปรินซ์วิลเลียมทรงเล่นมุก ‘รัชทายาทอังกฤษปลอมเป็นกัปตันร้าน’ ช่วยภัตตาคารเจ้าเก่งรับโทรศัพท์ลูกค้าจองโต๊ะ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าฟ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 1 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงครึกครื้นสนุกกับการรับโทรศัพท์ที่ดังตื๊ดๆ ขึ้นมาบนเคาน์เตอร์กัปตันของภัตตาคารอาหารอินเดีย นามว่า ดิอินเดียน สตรีทเทอรี และทรงปลอมตัวเป็นกัปตันของภัตตาคารทำการรับออเดอร์จากลูกค้าซึ่งขอจองโต๊ะ 2 ที่นั่ง ขณะที่เจ้าของและทีมพนักงานภัตตาคาร ตลอดจนปรินเซสเคท พากันหัวเราะกันอย่างฮา พลางลุ้นให้เจ้าฟ้าชายทรงประสบความสำเร็จในการปลอมพระองค์
เจ้าฟ้าชายวิลเลียม ปรินซ์แห่งเวลส์ทรงเล่นมุกน่ารัก ปลอมพระองค์เป็นกัปตันภัตตาคารอาหารอินเดียในเบอร์มิงแฮม ช่วยเจ้าของร้านรับโทรศัพท์จองโต๊ะ ทุกคนหัวเราะกันครื้นเครงเพราะพระองค์ทรงเล่นบทได้แนบเนียน และทำการรับออเดอร์จากลูกค้าภารตะได้ราบรื่นเรียบร้อย เหตุการณ์สนุกสนานที่เกิดขึ้นปุบปับในวิสาหกิจเอสเอ็มอีเจ้าอร่อยของนครเบอร์มิงแฮม เมืองใหญ่อันดับ 2 แห่งอังกฤษ นี้ ปรากฏแบบเซอร์ไพรส์ขำกลิ้ง ในทริปการเสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความเป็นมหานครแห่งวัฒนธรรมอันหลากหลาย และเพื่อโปรโมตอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2023


เหตุการณ์อันแสนจะปุบปับสุดเซอร์ไพรส์นี้ ผุดขึ้นเป็นของแถมน่ารักภายในพระราชกิจแห่งพระราชสำนักที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียม ทรงควงปรินเซสเคท พระชายาสุดสวยแสนน่ารัก เดินสายเยี่ยมเยือนประชาชนเพื่อส่งเสริมบรรยากาศชื่นมื่นก่อนวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมกับฉลองครบรอบอภิเษกสมรส 29 เมษายน ของพระองค์ไปพร้อมสรรพ เดลิเมลออนไลน์รายงาน และให้ข้อมูลมาด้วยว่า

ปรินซ์ และปรินเซสแห่งเวลส์ทรงเป็นแฟนพันธุ์แท้ของข้าวแกงกะหรี่ โดยทรงเปิดเผยว่า “รักข้าวแกงกะหรี่” และที่ผ่านมา “แอบควงกันไปชิมข้าวแกงกะหรี่ตามร้านเด็ดๆ ดังๆ มาแทบจะทั่วเกาะอังกฤษแล้ว

ในคลิปที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะครื้นเครง เจ้าฟ้าชายวิลเลียม พระราชโอรสพระองค์โตของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงรับโทรศัพท์ที่ดังตื๊ดๆ ขึ้นมาบนเคาน์เตอร์กัปตันของภัตตาคารอาหารอินเดีย นามว่า ดิอินเดียน สตรีทเทอรี (The Indian Streatery ซึ่งมีความหมายประมาณว่า ภัตตาคารอาหารอินเดียตำรับริมถนนดั้งเดิม) และทรงรับออเดอร์จากลูกค้าใหม่ของภัตตาคาร ซึ่งขอจองโต๊ะ 2 ที่นั่ง ขณะที่เจ้าของและทีมพนักงานภัตตาคาร ตลอดจนปรินเซสเคท พากันหัวเราะกันอย่างฮา พลางลุ้นให้เจ้าฟ้าชายทรงประสบความสำเร็จในการปลอมพระองค์เป็นกัปตันร้าน

หลังสนทนาไปๆ มาๆ แบบกระท่อนกระแท่นอยู่บ้าง ก็สรุปว่าลูกค้าได้โต๊ะตามต้องการ ณ เวลา 14.15 น. พร้อมกับทรงแจ้งพิกัดของภัตตาคารให้ลูกค้าทราบเป็นที่เรียบร้อย แล้วปรินซ์ผู้ทรงเป็นรัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงปล่อยมุกกับมาดามภารตะเจ้าของร้านว่า

“ลูกค้าทราบพิกัดร้านแล้วนะครับ แต่ผมอาจจะทำให้เขาหลงไปที่อื่นใดสักจุดหนึ่งในเบอร์มิงแฮม ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องขออภัย” (5 5 5)

เจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงช่วยรับออเดอร์ลูกค้าของภัตตาคารดิอินเดียน สตรีทเทอรี อย่างตะกุกตะกักในหลายตอน เพราะทรงต้องชะโงกไปถามมาดามเจ้าของภัตตาคาร (ซ้ายสุด) เป็นระยะๆ แต่การได้เล่นสนุกปลอมตัวเป็นกัปตันของภัตตาคาร ทำให้พระราชกิจที่เจ้าฟ้าชายทรงปฏิบัติในนามของสำนักพระราชวังเต็มไปด้วยสีสัน ไม่เสียแรงที่ทรงควงพระชายาขึ้นรถไฟจากกรุงลอนดอนไปโปรโมตวิสาหกิจเอสเอ็มอีซึ่งเป็น Best Practice ในการบริหาร ผู้ซึ่งสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบใหญ่จากระดับวิสาหกิจรายย่อยขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

มาดามมีนา ชาร์มา เจ้าของภัตตาคารให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า “พวกเราที่ยืนรอบๆ ปรินซ์วิลเลียมพากันเซอร์ไพรส์มากมายตอนที่เห็นพระองค์ชะโงกพระกายไปรับโทรศัพท์ค่ะ แล้วเราก็หัวเราะกันสนั่นเมื่อพระองค์ตรัสเข้าไปในสายว่า “ภัตตาคารอินเดียนสตรีทเทอรีครับ” ทั้งนี้ ปรินซ์วิลเลียมทรงปลอมตัวเป็นกัปตันของภัตตาคารได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย สามารถทำการจองให้ลูกค้าได้โต๊ะ ณ เวลา 14.15 น.

ทันทีที่ปรินซ์วิลเลียมทรงกดปิดโทรศัพท์ของภัตตาคาร ทุกคนปล่อยหัวเราะฮาครืนสนุกครึกครื้นกันทั้งวง โดยเฉพาะธีรัช ชาร์มา ผู้จัดการใหญ่ (ซ้ายสุด) ที่ปรินซ์ทรงปลอมตัวเป็นกัปตันภัตตาคารได้สำเร็จ ภาพบานนี้ถูกนำขึ้นบนแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ส่วนพระองค์ พร้อมคำบรรยาย : “หวังว่าเราบอกทางให้ลูกค้ามาถูกที่นะ...!
ณ 14.15 น. ลูกค้าใหม่ทั้ง 2 รายของภัตตาคารอินเดียน สตรีทเทอรี ซึ่งเป็นร้านสวยใสสว่างน่านั่งย่านเบนเนตส์ฮิลล์ ได้แก่ คุณวินัย อักการ์วาล กับศรีภรรยา คุณอันกีตา คูลาตี ชาวลอนดอนที่ไปทำภารกิจในเบอร์มิงแฮม และตั้งอกตั้งใจจะต้องลองแวะชิมฝีมืออันเลื่องลือของร้านอินเดียน สตรีทเทอรี ก่อนจะจับรถไฟเที่ยว 15.00 น. เพื่อเดินทางกลับบ้าน

คุณวินัย วิศวกรซอฟต์แวร์ให้สัมภาษณ์นักข่าวเดลิเมลออนไลน์ว่า ไม่คาดคิดเลยว่าปรินซ์วิลเลียมจะเป็นผู้ที่รับสายโทรศัพท์

“พอได้ทราบความจริงผมอัศจรรย์ใจและปลื้มครับ ตอนที่คุยสายกับพระองค์น่ะ ผมไม่เฉลียวใจใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเซอร์ไพรส์ดีมากๆ ของชีวิต

“อ๋อ.. แน่ล่ะครับ ผมต้องเล่าอวดไปทั่วอยู่แล้ว ก็ของอย่างนี้ไม่ใช่อะไรที่จะได้เจอกันบ่อยๆ

“ผมได้ยินเสียงพระองค์ตรัสหลายประโยค แต่ไม่ได้สังเกต ไม่ได้อะไรทั้งนั้น นี่มันครั้งแรกนะครับที่ผมได้ยินทางโทรศัพท์ ผมก็แค่คิดว่าเป็นพนักงานร้านมารับสายและทำการจองโต๊ะให้ผม” คุณวินัย หนุ่มไอทีผู้โชคดีได้สนทนากับองค์รัชทายาทนานหลายนาที เล่าประสบการณ์ตรงซึ่งน่าปลื้มปริ่มหัวใจไว้อย่างนั้น

คุณวินัย อักการ์วาล กับศรีภรรยา คุณอันกีตา คูลาตี ลูกค้าผู้โชคดีของดิอินเดียน สตรีทเทอรี โดยมีโอกาสได้สนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าฟ้าชายวิลเลียมนานหลายนาที เจ้าตัวบอกนักข่าวว่า “อ๋อ.. แน่ละครับ ผมต้องเล่าอวดไปทั่วอยู่แล้ว ก็ของอย่างนี้ไม่ใช่อะไรที่จะได้เจอกันบ่อยๆ”
ด้านมาดามมีนา ชาร์มา เจ้าของภัตตาคารซึ่งบัดนี้โด่งดังทั่วเกาะอังกฤษ ให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์แสนสนุกจากปรินซ์วิลเลียมว่า

“พวกเราที่ยืนรอบๆ ปรินซ์วิลเลียมพากันเซอร์ไพรส์มากมายตอนที่เห็นพระองค์ชะโงกพระกายไปรับโทรศัพท์ค่ะ แล้วเราก็หัวเราะกันสนั่นเมื่อพระองค์ตรัสเข้าไปในสายว่า “ภัตตาคารอินเดียนสตรีทเทอรีครับ” ซึ่งปรากฏว่ามีลูกค้าตัวจริงเสียงจริงของเราพูดอยู่ที่ปลายสายว่าขอจองโต๊ะ 2 ที่นั่ง

“ดิฉันคิดว่าพระองค์เล่นเป็นผู้จัดการหน้าร้านได้เหมือนมากค่ะ อ๋อ...ได้ค่ะ ทางเราอาจจะพิจารณาจ้างพระองค์เป็นกัปตันของร้าน เพราะทรงปฏิบัติงานได้ครบถ้วนดีเหลือเกิน” มาดามมีนาตอบคำถามของนักข่าวแบบรับมุกฉับพลัน

มาดามมีนา ชาร์มา และสามี ราเกซ ชาร์มา เจ้าของภัตตาคารและหัวหน้าทีมเชฟ เป็นสุดยอดผู้หญิงเก่งที่สามารถพัฒนาร้านอาหารแสนอร่อยจากวิสาหกิจรายย่อย แผงลอยใต้เต็นท์ริมถนน ให้ผงาดขึ้นเป็นวิสาหกิจเอสเอ็มอีระดับภัตตาคารในอาคารงดงามกลางถิ่นธุรกิจชั้นนำของเบอร์มิงแฮม
ทริปเบอร์มิงแฮมของเจ้าฟ้าชายวิลเลียม เป็นหนึ่งในหลากหลายหมายกำหนดการที่พระองค์ และเจ้าหญิงเคทจะเดินสายเยี่ยมเยือนประชาชนตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อโปรโมตงานพระราชพิธีของสมเด็จพระราชบิดา โดยทั้ง 2 พระองค์ทรงมักที่จะมีกิมมิกสนุกๆ สมทบไปกับบางหมาย

ในการพระราชกิจอร่อยๆ ซึ่งเป็นหมายงานแห่งแรกจาก 2 แห่ง ณ เมืองเบอร์มิงแฮม และเป็นการส่งเสริมวิสาหกิจรายย่อยที่เป็นหนึ่งในเครื่องสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม นั้น เจ้าหญิงเคททรงให้สัมภาษณ์ว่า อาหารสตรีทฟูดริมถนนซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นอาหารภัตตาคารแห่งนี้ “ให้ความรู้สึกหวนอดีตที่แสนคิดถึง” และทรงบอกด้วยว่าพระองค์ “รักเครื่องเทศรสร้อนแรง”

ขณะที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมตรัสว่าทรงโปรดปรานเมนูเครื่องเทศแซ่บเบาๆ โดยทรงเปิดเผยว่า

“ผมเป็นหนุ่มมาซาลาครับ”


หรือก็คือ ทรงโปรดเครื่องเทศแบบผสมที่ไม่เผ็ดจัดจ้าน แต่เด่นที่ความหอมและสัมผัสนุ่มลิ้น

เมื่อปรินเซสแห่งเวลส์ถูกถามว่าพระโอรสและพระธิดาทรงโปรดอาหารอินเดียหรือไม่ พระองค์ตอบได้เลยว่า “อย่างยิ่งเชียวค่ะ ลูกๆ รักอาหารอินเดียกันทุกคน”

ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ขำๆ ของเจ้าฟ้าชายวิลเลียม หมายกำหนดการในการเยือนร้านอาหารอินเดียที่เบอร์มิงแฮมของปรินซ์ และปรินเซสแห่งเวลส์ เริ่มจากการแนะนำให้รู้จักกับ 2 ผู้ประกอบการร้านอาหาร คือ มาดามมีนา ชาร์มา กับสามี คือ ราเกช ชาร์มา หลังจากนั้นเป็นการสนทนากับทีมพนักงานหน้าร้าน ต่อด้วยการเยี่ยมชมกิจการงานครัวของดิอินเดียน สตรีทเทอรี เพื่อศึกษาการเตรียมแผ่นโรตี

ด้วยความที่ปรินซ์ และปรินเซสแห่งเวลส์มักที่จะเล่นแข่งขันกันขำๆ ในกิจกรรมกีฬา ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ทรงเป็นนักกีฬาตัวยงมาตั้งแต่ที่ยังเป็นนักเรียนนักศึกษา ในการเยือนห้องครัวครั้งนี้จึงมีกิจกรรมแข่งกันทำโรตี โดยมีมาดามมีนา ผู้เป็นเจ้าของร้านและเชฟมือหนึ่ง เป็นประธานตัดสินผลการแข่งขัน

ปรินซ์วิลเลียม ผู้ทรงฉลองพระองค์ประเปรียวด้วยเสื้อนอกเบลเซอร์ กางเกงผ้าชิโน และรองเท้าบู๊ตหนังกลับหุ้มตาตุ่ม รับผ้ากันเปื้อนของร้านมาสวมอย่างทะมัดทะแมง และเมื่อทำโรตีของพระองค์เสร็จแล้ว ทรงกล่าวกับนักข่าวว่า

“ผมจะไม่กินโรตีที่ผมทำนะครับ เดี๋ยวเราก็ซุกมันไว้ตรงมุมๆ แถวนี้ละกัน”

มองไปมองมาแล้วปรินซ์ออฟเวลส์ทรงถามเชฟยอดฝีมือของร้านที่ประกบช่วยเหลือพระองค์ว่า ใช้เคล็ดลับอะไรในการเตรียมข้าว เพราะเมื่อพระองค์หุงข้าวของร้านขึ้นมาแล้ว มันฉ่ำได้ตลอดเลย อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดทราบว่าปรินซ์ทรงได้คำตอบหรือไม่ เพราะมาดามเจ้าของร้านซึ่งเปิดทำการตั้งแต่ปี 2017 กำชับทีมครัวที่เป็นสตรีล้วน ไม่ให้แพร่งพรายตำรับและสูตรลับของร้านอย่างเด็ดขาด

เจ้าหญิงเคทกับเจ้าฟ้าชายวิลเลียมทรงแซวและบลัฟกันสนุกสนาน เรียกเสียงหัวเราะจากทีมเชฟของภัตตาคาร

เจ้าชายวิลเลียมทรงลงพระหัตถ์ทำโรตีด้วยมืออย่างสนุก แต่พระองค์ประกาศว่าจะไม่ทรงเสวยโรตีที่ทรงทำขึ้นเอง

ปรินเซสและปรินซ์แห่งเวลส์ทรงเป็นคู่ครองที่น่าทึ่ง ทรงเข้ากันได้ดี ทรงมีความสุขด้วยกันอย่างง่ายๆ เหนืออื่นใด ทางมีอุดมการณ์ที่สอดคล้องกันคือ การอุทิศพระองค์เพื่อส่งเสริมพระเกียรติภูมิแห่งสถาบันกษัตริย์อังกฤษ
ตรวจแถวสุดยอดเมนูล้ำๆ ของดิอินเดียน สตรีทเทอรี ในพระราชกิจแสนอร่อยแห่งปรินซ์&ปรินเซสออฟเวลส์

ในพระราชกิจแสนอร่อยแห่งสำนักพระราชวังที่เจ้าฟ้าชายวิลเลียมกับพระชายาเคทได้สัมผัสที่เบอร์มิงแฮม เจ้าของภัตตาคารได้ทูลถวายมื้อกลางวันแบบ 4 คอร์สทีเด็ดของอาหารสตรีทฟูดสุดฮิต ได้แก่ เมนูกรอบนอกนุ่มใน ชื่อว่า ปานิปูรี แป้งสาลีทอดกรอบกลวงข้างในเพื่อให้หยอดไส้มันฝรั่ง หัวหอม ถั่ว ราดด้วยน้ำจิ้มเปรี้ยวผสมเผ็ด ทานกับแกงถั่วดาล และไก่เมธีครีมๆ สีขาวหอมมัน ที่สำคัญคือไม่เผ็ด

แล้วปิดท้ายด้วยขนมสตรีทฟูดแนวกรุบกรอบ คือ บัลปูรี จาฏ ซึ่งอร่อยรวมมิตรแห่งเมนูทอดต่างๆ เช่น ข้าวพอง หัวหอม มะเขือเทศ สมุนไพร 

ส่วนสำหรับเครื่องดื่มของดิอินเดียน สตรีทเทอรี จะมีค็อกเทลสารพัดสูตรที่มาดามมีนาคิดค้นและตั้งชื่อตามนามสกุลของทีมงานภัตตาคาร

พร้อมนี้ ปรินเซสเคททรงคิดค็อกเทลขึ้นหนึ่งสูตร ครั้นเมื่อสาวสวยซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของภัตตาคาร คือ ธีรัช ชาร์มา ทูลถามปรินซ์ว่าจะทรงตั้งชื่อค็อกเทลสูตรดังกล่าวว่าอย่างไรดี ปรินซ์ตรัสตอบว่า นึกไม่ออกจริงๆ

ปรินซ์ทรงเปิดเผยว่าพระองค์ชอบวอดก้า และโปรดปรานค็อกเทลกามิกาเซ่ เพราะทั้งสองตัวนี้เป็นอะไรที่ “นิ่งสนิทเงียบกริบ แต่บาดใจ”

ด้านปรินเซสเคททรงเปิดเผยว่านอกจากอาหารอินเดียแล้ว ทรงสนุกกับการปรุงอาหารเลบานิส และในส่วนของเครื่องดื่ม พระองค์บอกว่า

“ดิฉันค่อนข้างชอบเตกีลาค่ะ”


ปรินซ์วิลเลียมและปรินเซสเคททรงมีความสุขอย่างยิ่งกับการทักทายประชาชนที่รอชมพระบารมีบริเวณหน้าร้านดิอินเดียน สตรีทเทอรี

ปรินซ์วิลเลียมแย้มพระสรวลแจ่มใส ขณะสนทนาออกรสกับประชาชนที่รอรับเสด็จบริเวณหน้าร้านดิอินเดียน สตรีทเทอรี ทรงรัวมุกเป็นว่าเล่น ประมาณว่าทรงแวะเมาท์มอยตรงไหนหลายนาทีหน่อย เป็นได้ฮาครืนเต็มวงกันตรงนั้น
ในการเสด็จเยือนภัตตาคารดิอินเดียน สตรีทเทอรี โดยมีกิจกรรมเสริมสีสัน เช่น เข้าครัวไปแข่งกันปรุงโรตี ได้มีผู้สื่อข่าวและช่างภาพช่างวิดีโอหลายๆ ค่ายใหญ่ยักษ์ตามเสด็จไปรายงานในส่วนของปรินซ์กับปรินเซสขวัญใจประชาชน และแถมด้วยส่วนของเส้นทางธุรกิจของภัตตาคารว่าประสบความสำเร็จได้อย่างไร

ผู้ประกอบการอาหารสตรีทฟูดแนวอินเดียฟิวชันรายนี้ถูกเลือกเป็นหนึ่งในสองเป้าหมายการเยือน เพราะมีความโดดเด่นเป็นต้นแบบ Best Practice ของวิสาหกิจรายย่อย Micro Enterprise ที่ใช้ทักษะฝีมือและประสิทธิภาพการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี จนสามารถก้าวกระโดดจากร้านแผงลอยสตรีทฟูดขายดี ใต้เต็นท์ริมถนน ขึ้นมาเป็นภัตตาคารระดับเอสเอ็มอีอย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง

หลังจากที่พระราชนิกุลแห่งพระราชวงศ์อังกฤษได้ทำการโปรโมตวิสาหกิจเอสเอ็มอีแห่งอุตสาหกรรมอาหารและการท่องเที่ยวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้ง 2 พระองค์ได้กล่าวลา และออกไปทักทายประชาชนหลายร้อยรายที่รอเฝ้าชมพระบารมี ก่อนจะเดินทางไปยังภารกิจที่สอง

ในจังหวะตรงนี้เหล่านักข่าวเข้าไปขอสัมภาษณ์มาดามมีนา ชาร์มา ผู้ประกอบการภัตตาคารวัย 63 กะรัต ซึ่งได้เปิดใจกับสื่อทั้งหลายว่า

“เหมือนไม่ใช่เรื่องจริงเลยค่ะ นี่ไม่ใช่อะไรที่ใครจะคาดคิดว่าพระราชวงศ์ผู้สูงศักดิ์จะเสด็จมายังสถานที่อันแสนจะบ้านๆ ของเรา เป็นความสุขใจอย่างที่สุดที่เราได้ถวายการต้อนรับปรินซ์ และปรินเซสค่ะ”

พร้อมนี้ มาดามผู้เป็นทั้งเจ้าของร้านและหัวหน้าทีมเชฟเฉลยว่า เจ้าหญิงเคททรงเป็นผู้ชนะการแข่งขันปรุงโรตีภายในครัวของร้าน

มาดามมีนา เป็นชาวอินเดียโดยกำเนิด และติดตามคุณพ่อคุณแม่มาอยู่อาศัยในประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยวัย 6 ขวบ ณ ปี 1966

กิจการแผงอาหารริมถนนขนาดเล็ก แต่รสชาติจัดจ้านของเธอ ซึ่งเป็นหนึ่งในสีสันแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมของเมืองเบอร์มิงแฮม ได้ทำการเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารสนุกๆ ของอินเดียบนถนน Digbeth Dining Club ที่เต็มไปด้วยสตรีทฟูดและสตรีทอาร์ต จนกระทั่งกลายเป็น Best Practice สำหรับวิสาหกิจรายย่อยรายอื่นๆ ให้มุ่งมั่นยกระดับสู่ความเป็นเอสเอ็มอีผ่านการสนับสนุนโดยหน่วยงานของรัฐในด้านการส่งเสริมวิสาหกิจเอสเอ็มอี และวิสาหกิจรายย่อย

ทั้งนี้ หลังจากที่สามารถประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ดิอินเดียนสตรีเทอรีสามารถทะยานจากวิสาหกิจรายย่อยแบบแผงลอย ขึ้นเป็นวิสาหกิจเอสเอ็มอีภายในอาคารที่เป็นสัดเป็นส่วนและสวยงามในรูปโฉมของภัตตาคาร ส่งผลให้ขนาดของกำไรต่อหนึ่งหน่วยของลูกค้าขยายตัวตามขึ้นไปนับตั้งแต่ปี 2017 จดจนปัจจุบัน

เมนูกรอบนอกนุ่มใน ชื่อว่า ปานิปูรี (จานขวา) แป้งสาลีทอดกรอบ กลวงข้างในเพื่อให้หยอดไส้มันฝรั่ง หัวหอม ถั่ว แล้วราดด้วยน้ำจิ้มเปรี้ยวผสมเผ็ด จึงป้อนเข้าปาก เคี้ยวแซ่บในความกรอบและความเปรี้ยวหวานมันเผ็ด ดิอินเดียน สตรีทเทอรีนำภาพนี้ขึ้นเฟซบุ๊ก พร้อมแนะนำให้ดื่มเบียร์ตามเข้าไปตัดรสมันและเปรี้ยว
ปรินซ์&ปรินเซสออฟเวลส์เสด็จไปโปรโมตความล้ำหน้าของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของท้องถิ่นเบอร์มิงแฮม

พระราชกิจโปรโมตกระแสความหลากหลายทางวัฒนธรรมและส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการ ขยับไปยังจุดหมายที่สองในเบอร์มิงแฮม โดยทั้ง 2 พระราชนิกุลเดินทางออกจากภัตตาคาร แวะทักทายประชาชนหลายสิบราย ก่อนจะเดินทางสู่ภัตตาคารเร็กทอรี (Rectory Restaurant)

ณ ภัตตาคารสุดเก๋แห่งถิ่นประวัติศาสตร์ “จิวเวลรีควอร์เตอร์” เจ้าฟ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคททรงเป็นเจ้าภาพจัดพบปะบุคคลในวงการศิลปะและนวัตกรรมของเบอร์มิงแฮม ทั้งดีไซเนอร์ ศิลปิน นักเขียนบทละคร นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ตลอดจนบุคคลทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมริเริ่มสร้างสรรค์ เช่น เจ้าของธุรกิจและผู้ที่กำลังจะเป็นผู้นำในอนาคตของอุตสาหกรรม creative industries

10 กว่าปีที่ผ่านมาธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสตรีทอาร์ตในเบอร์มิงแฮมประสบความสำเร็จอย่างสูง เซ็กเตอร์ของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สามารถเติบใหญ่เฟื่องฟูและเป็นที่เลื่องลืออยู่ในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานเครื่องประดับอัญมณีของช่างฝีมือชั้นสูงแบบโบราณ ไปจนถึงเซ็กเตอร์ของการพัฒนาซอฟต์แวร์เกม ภาพยนตร์ล้ำยุค และการสร้างนวัตกรรมต่างๆ

หลังการพบปะพูดคุยแล้ว ปรินซ์ และปรินเซสไปทดลองซอฟต์แวร์เกมปาเป้าแบบอินเทอร์แอ็กทีฟในคลับชื่อดังสุดยอดป็อบปูลาร์ คือ 180Club ซึ่งมีจอแสดงคะแนนและผลการเล่นปาเป้าให้เห็นแบบเรียลไทม์ทันทีทันควัน ต่อด้วยกิจกรรมเดินทักทายประชาชนไปตามท้องถนน เป็นที่ชื่นใจของชาวเมืองเบอร์มิงแฮม

จิลเวลรี ควอร์เตอร์ เป็นศูนย์กลางธุรกิจงานศิลปะเชิงช่าง ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งผลิตเครื่องประดับอัญมณีป้อนเข้าสู่ตลาดของสหราชอาณาจักรในสัดส่วนกว่า 40% กันทีเดียว

หลังการพบปะพูดคุยกับศิลปินและเจ้าของกิจการในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่ภัตตาคารเร็กทอรี ปรินซ์วิลเลียม พร้อมด้วยปรินเซสเคททรงเสด็จลงชั้นล่างของศูนย์ธุรกิจจิวเวลรี ควอร์เตอร์ เพื่อไปโปรโมตซอฟต์แวร์สำหรับเกมดาร์ทปาเป้าแบบอินเทอร์แอ็กชั่น ในคลับชื่อดังที่แสนจะป็อบปูลาร์ คือ 180 Club โดยทรงทดสอบซอฟต์แวร์อินเทอร์แอ็กทีฟของกระดานปาเป้า ซึ่งมีจอภาพคอยรายงานผลคะแนนของการปาเป้าแต่ละครั้งอย่างเรียลไทม์

เจ้าหญิงเคททรงเป็นนักกีฬา และทรงมีความเชี่ยวชาญในเกมปาเป้า กิจกรรมตรงนี้ของพระองค์และพระสวามีส่งผลให้ผู้คนทั่วไปพลอยได้เห็นการทำงานของซอฟต์แวร์สนุกๆ แห่งเบอร์มิงแฮม

สองพระราชนิกุลแห่งวินด์เซอร์ทรงสนทนาฮาเฮกับประชาชนอย่างไม่ถือพระองค์ ทั้งนี้ บุรุษแห่งราศีเมถุน เจมินี อย่างปรินซ์วิลเลียม ทรงมีทักษะในการใช้ถ้อยคำ และเชี่ยวชาญกับการปล่อยมุกขำๆ ที่คมคายเจ้าปัญญา  ในคราวที่ทรงเสด็จเยือนประเทศนามิเบียในเดือนกันยายน 2018 โดยไม่มีพระชายาเคทและพระโอรสพระธิดาตามเสด็จ ปรินซ์ทรงกล่าวปราศรัยในพิธีรับเสด็จ โดยหยอดมุกแนวคุณสามีและคุณพ่อว่า ผมเสียดายแทนพระชายาเคทของผมที่เธอไม่สามารถมาพบกับทุกท่านในวันนี้ อันที่จริงเธออิจฉาผมอย่างยิ่ง เพราะผมจะได้หลับสนิทสบายสองคืนโดยไม่ถูกลูกๆ ที่น่ารักปลุกกลางดึก

เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงพบปะสนทนากับประชาชนที่รอเฝ้ารับเสด็จด้านนอกอาคารจิวเวลรี ควอร์เตอร์ อย่างแช่มชื่น หลังเสร็จพระราชกิจที่ภัตตาคารเร็คทอรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2023 ในเมืองเบอร์มิงแฮม
เมื่อทำการประเมินผลสำเร็จแห่งพระราชกิจของปรินซ์วิลเลียมและปรินเซสเคทในทริปเบอร์มิงแฮมแล้ว
น่าจะต้องถือว่ามีความสำเร็จระดับทริปเปิลเอ AAA อย่างแท้จริง

นอกจากที่ปรินซ์วิลเลียมและปรินเซสเคทได้บรรลุเป้าหมายขั้นพื้นฐานแห่งการเสด็จไปโปรโมทคุณค่าเชิงธุรกิจและเชิงวัฒนธรรมของภัตตาคารดิ อินเดียน สตรีทเทอรี ให้เป็นที่ตระหนักของชาวประชา อีกทั้งให้เป็นต้นแบบดีๆ สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศแล้ว พระราชนิกุลชั้นผู้ใหญ่ทั้งสองพระองค์ซึ่งเป็น คู่ขวัญยอดรักของคนอังกฤษ British Sweethearts ยังได้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของสถาบันกษัตริย์อย่างล้นหลามด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสริมสร้างความรู้สึกรักและผูกพันที่ประชาชนมีต่อพระราชวงศ์ ซึ่งแข็งแกร่งอยู่บนพื้นฐานของความชื่นชมในคุณลักษณ์ดีงาม น่ารัก น่าประทับใจ และน่านับถือของพระราชนิกุล

สื่อมวลชนพากันรายงานข่าวและนำเสนอคลิปพระจริยวัตรน่ารักของ เจ้าฟ้าชายวิลเลียม และ เจ้าหญิงเคท กันอย่างครึกครื้น ครึกโครม กลายเป็นไวรัลและเป็นTalk of the Nation ไปมากมายบนโซเชียลมีเดียต่างๆ กระทั่งว่าบรรยากาศแช่มชื่นที่ชะโลมใจพสกนิกรให้พรักพร้อมก่อนถึงวันแห่งพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ได้สะพรั่งไปทั่วทุกหย่อมหญ้าของประเทศอย่างเป็นธรรมชาติ

ไม่เสียแรงที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ทรงบ่มเพาะตระเตรียมความพร้อมให้ปรินซ์วิลเลียมสามารถสืบทอดภารกิจอันใหญ่หลวงต่อจากพระองค์ เมื่อถึงเวลาอันสมควร

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา : เดลิเมลออนไลน์)



กำลังโหลดความคิดเห็น