"สตาร์ชิพ" ยานอวกาศแห่งอนาคตของสเปซเอ็กซ์ เกิดระเบิดไม่กี่นาทีหลังถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า ในเที่ยวบินทดสอบที่ไม่มีลูกเรือ บริเวณทางใต้ของรัฐเทกซัส ในวันพฤหัสบดี (20 เม.ย.) ก่อภาวะหยุดชะงักในก้าวย่างสำคัญของอีลอน มัสก์ ในการพัฒนายานจรวดที่ท้ายที่สุดแล้วจะนำพามนุษย์มุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์และดาวอังคาร
การทดสอบนี้นับเป็นครั้งแรกที่สตาร์ชิพถูกติดตั้งด้านบนของจรวด "ซูเปอร์ เฮฟวี" จรวดรุ่นใหม่ของทางบริษัท ซึ่งทางสเปซเอ็กซ์อวดอ้างว่าเป็นยานปล่อยจรวดที่ทรงพลังที่สุดบนโลกใบนี้
แม้ว่าจรวดแบบ 2 ท่อนนี้ ขึ้นไปได้ไม่ถึงครึ่งทางในการมุ่งหน้าสู่ขอบอวกาศ ปีนขึ้นสู่ระดับแค่ราวๆ 40 กิโลเมตร แต่เที่ยวบินนี้บรรลุเป้าหมายในขั้นต้นสำหรับการนำพายานอวกาศใหม่เคลื่อนขึ้นจากฐานปล่อยจรวด แม้พบเห็นเศษซากเครื่องยนต์บางส่วนร่วงหล่นลงมา
ในขณะที่เจ้าหน้าที่สเปซเอ็กซ์หลายคนแสดงความพึงพอใจต่อผลลัพธ์ที่ออกมา แต่ภารกิจนี้ยังไม่บรรลุเป้าหมายต่างๆ หลายอย่าง
แผนที่วางเอาไว้สำหรับสตาร์ชิพ คือ ส่งมันขึ้นสู่อวกาศอย่างน้อยๆ 150 กิโลเมตรเหนือโลก ก่อนกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศและดิ่งลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับฮาวาย
อย่างไรก็ตาม สเปซเอ็กซ์ระบุในถ้อยแถลงหลังจากนั้นว่า ยานอวกาศประสบปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องหลายประหารระหว่างพุ่งขึ้น จากนั้นสูญเสียความสูงและเริ่มดิ่งลงมา ก่อนระบบยุติเที่ยวบินที่ติดตั้งบนทั้งตัวบูทเตอร์และยานอวกาศจะทำงาน
มัสก์ ซึ่งเป็นทั้งผู้ก่อตั้งสเปซเอ็กซ์ ซีอีโอและหัวหน้าวิศวกร ดูเหมือนกระตือรือร้นออกมาสยบความคาดหมายระหว่างแสดงความคิดเห็นก่อนหน้านี้ โดยปฏิเสธวางเดิมพันว่าเที่ยวบินนี้จะประสบความสำเร็จ ส่วน เกว็น ช็อตเวล ประธานสเปซเอ็กซ์บอกกับที่ประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ ว่า "เป้าหมายที่จริงคือการที่ไม่เกิดระเบิดบริเวณฐานปล่อย"
หากวัดจากเป้าหมายดังกล่าว การเปิดตัวเที่ยวบินสตาร์ชิพพร้อมด้วยจรวดบูทเตอร์ของมันสามารถเป็นหลักชัยในความทะเยอทะยานของสเปซเอ็กซ์ ในการส่งมนุษย์อวกาศไปยังดวงจันทร์ และท้ายที่สุดคือมุ่งหน้าสู่ดาวอังคาร
บิล เนลสัน ผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) แสดงความยินดีกับสเปซเอ็กซ์บนทวิตเตอร์ โดยบอกว่า "ทุกความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ล้วนแต่มีความเสี่ยงที่คำนวณไว้แล้วบางระดับ เพราะว่าความเสี่ยงที่ใหญ่หลวง มาพร้อมกับผลตอบแทนที่ใหญ่หลวงเช่นกัน"
ยานจรวด 2 ท่อน ซึ่งตั้งตระหง่านสู่กว่าเทพีสันติภาพที่สูง 120 เมตร ลอยขึ้นจากฐานปล่อยยานสตาร์เบสของทางบริษัทบริเวณแหลมทางใต้ของเทกซัส ตามแนวชายฝั่งอ่าว ทางตะวันออกของเมืองบราวน์สวิลล์ ในขณะที่สเปซเอ็กซ์ ตั้งความหวังว่าอย่างดีที่สุดเที่ยวบินเปิดตัวนี้น่าจะบินขึ้นสู่อวกาศได้ราวๆ 90 นาที แต่มันไปไม่ถึงวงโคจรโลก
การถ่ายทอดสดของสเปซเอ็กซ์ผ่านเว็บคาสต์ เป็นภาพยานจรวดกำลังดีดตัวขึ้นจากฐานปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้ายามเช้า ท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์แรปเตอร์ของจรวด "ซูเปอร์ เฮฟวี" ดังคำรามพร้อมกับปลดปล่อยลูกบอลไฟขนาดใหญ่ ท่ามกลางคลื่นกลุ่มควันไอเสียและไอน้ำ
อย่างไรก็ตาม หลังเที่ยวบินนี้ผ่านไปไม่ถึง 4 นาที ท่อนบนของสตาร์ชิพไม่ยอมแยกออกจากท่อนล่างของซูเปอร์ เฮฟวี ตามที่ออกแบบไว้ และพบเห็นยานร่วงลงมาและท้ายที่สุดแล้วก็ระเบิดเป็นเสี่ยง
สเปซเอ็กซ์ เผยว่าฐานปล่อยและพื้นที่โดยรอบได้รับการปิดกั้นล่วงหน้าก่อนการทดสอบแล้ว และเศษซากใดๆ จากการระเบิดน่าจะตกในน่านน้ำในพื้นที่จำกัดที่กำหนดไว้โดยเจ้าหน้าที่ยามชายฝั่งสหรัฐฯ
บรรดาเจ้าหน้าที่สเปซเอ็กซ์บนเว็บคาสต์ ยกย่องการพุ่งขึ้นจากฐานปล่อย ว่าเป็นความสำเร็จที่น่ายินดี ส่วน มัสก์ ซึ่งนั่งอยู่ในห้องควบคุมภารกิจที่สตาร์เบส ในเมืองโบคาชิกา รัฐเทกซัส เขียนบนทวิตเตอร์หลังจากนั้นว่า การทดสอบสตาร์ชิพครั้งถัดไปจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
"ขอแสดงความยินดีกับทีมงานสเปซเอ็กซ์ ต่อการทดสอบปล่อยสตาร์ชิพที่น่าตื่นเต้น! ได้เรียนรู้มากมายสำหรับการทดสอบครั้งต่อไป" เขาเขียน ส่วน จอห์น อินสพรูเคอร์ วิศวกรของสเปซเอ็กซ์ หนึ่งในผู้สันทัดกรณีบนเว็บคาสค์ กล่าวว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะมอบข้อมูลที่มีค่ายิ่งสำหรับใช้เป็นข้อมูลของการทดสอบเที่ยวบินครั้งถัดไป
(ที่มา : รอยเตอร์)